ตอนที่ 270 ความเอาใจใส่ที่แสนอบอุ่น
หลินซีนเยียนกำลังขบคิดส่วนเสริมของโซ่เหล็ก ถึงแม้จะหมุนศีรษะมามองจินมู่ ทว่าเรื่องที่สมองกำลังคิดยังคงเป็นส่วนเสริมอันนั้น นางจ้องจินมู่อย่างเลื่อนลอย รออยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยตอบสนองว่าเขาพูดอะไร
“ข้าไม่ไปดีกว่า อย่างไรเสียจวนเซียวก็คงไม่ยินดีต้อนรับข้า อีกอย่างเจ้าก็เห็นแล้ว งานของพวกเราดำเนินมาถึงจุดสำคัญที่สุด ตอนนี้ไม่สิ้นเปลืองเวลาหยุดพักความคิดไปร่วมงานเลี้ยงอันใดหรอก กลับมาก็ต้องเริ่มต้นจัดการกระบวนการคิดใหม่อีกรอบ หัวหน้าจินมู่ รบกวนท่านกลับไปบอกท่านอ๋องของท่านด้วย บอกเขาว่าพักนี้ให้ข้าลาพักสักสองสามวันเถิด”
นางปฏิเสธแบบไม่ต้องหยุดคิด ตอนนั้น นางยังไม่ได้ฉุกคิดว่าเหตุใดโม่จื่อเฟิงจึงให้คนมาเชิญนาง หากแม้นนางใช้เวลาพิจารณาสักหนึ่งนาที กฃ้คงมิอาจปฏิเสธจินมู่อย่างไร้เยื่อใยเช่นนี้
โม่จื่อเฟิงรู้ถึงความสัมพันธ์ของนางกับเซียวฉางเยว่ดี ทว่าต่อให้รู้ เขาก็ยังให้จินมู่มารับนาง เช่นนั้นจะต้องมีเหตุผลที่รับนางไปอย่างช่วยไม่ได้ น่าเสียดาย ที่หลินซีนเยียนในตอนนั้นในใจคิดเพียงเรื่องแส้ทอง แทบไม่มีกะใจไปขบคิดลึกซึ้ง
ใครจะคาดคิด ว่าการตัดสินไร้ความระแวดระวังเช่นนี้ จะก่อร่างผลลัพธ์เช่นนั้น หากว่ารู้แต่แรก นางมิอาจให้ตนทำผิดในโทษฐานที่ใหญ่หลวงเพียงนี้แน่
จินมู่เห็นนางปฏิเสธอย่างไม่ไยดี ยังนึกอยากเอ่ยเตือนสองคำ ทว่าเขากำลังจะปริปาก กลับเห็นหลินซีนเยียนก้มหน้าทำเรื่องในมือต่อเรียบร้อยแล้ว ปราศจากท่าทีจะฟังเขาโดยสิ้นเชิง เขาถอนหายใจหนึ่งเฮือก จึงหมุนกายจากไป
ภายในห้อฃง มู่เหอเห็นจินมู่เดินออกมาอย่างคอตก ก็มีท่าทีปิติบนความทุกข์ของเขา “เป็นอย่างไร ข้าบอกแล้วว่าฮูหยินไม่ไปกับเจ้าแน่ เมื่อตอนกลางวันฮูหยินพูดแล้ว วันนี้จะอดตาหลับขับตานอนอยู่ที่นี่ เจ้าวางใจเถิด มีข้ามู่เหิอยู่ที่นี่ มิอาจให้ฮูหยินมีอันเป็นไปได้แน่”
จินมู่กลอกตาใส่เขาแวบหนึ่ง “ผู้ใดกังวลที่นี่กัน ข้าเป็นห่วงก็แต่ท่านอ๋อง ในใจข้านี่ล้วนมีแต่ความรู้สึกไม่สงบ ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ หลายปีมาแล้วที่ไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนี้”
“เจ้าคิดอันใดอยู่ มีท่านอ๋องอยู่จะเกิดเหตุใหญ่ได้เมื่อใดกันเล่า เจ้าอย่าลืมสิ ท่านอ๋องเป็นอ๋องอู่เสวียน ตามติดท่านตั้งนานหลายปี เคยเห็นท่านเพลี้ยงพล้ำมาก่อนรึ วรยุทธ์ร้อยเล่มเกวียน ล้วนทำอันใดกับอ๋องอู่เสวียนของจวนพวกเราไม่ได้”
จินมู่พยักหน้าหงึกหงัก ฟังคำของเขาผ่านหูเล็กน้อย จึงค่อยลาจากห้องศาสตราวุธ
ท้องฟ้า มืดสนิทอย่างรวดเร็ว ทั่วฟ้าทมิฬสลัวทั้งแผ่น ราวกับฝนฟ้าจะคะนองเมื่อใดก็ได้
ปากทางเข้าจวนอ๋องอู่เซวียน โม่จื่อเฟิงเหยียบอยู่บนแท่นเหยียบของรถม้า เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ก่อนออกคำสั่งกับจินมู่ที่อยู่ด้านหลัง “คืนนี้อาจมีฝน เจ้าสั่งการให้คนนำร่มสองคันไปให้ฮูหยิน เผื่อว่ายามที่นางกลับมาฝนตกนางจะได้ใช้”
“ขอรับ” จินมู่ตอบรับ ในอกกลับอดจะงึมงำไม่ได้ สวนแห่งห้องศาสตราวุธใหญ่โตมโหฬารเพียงนั้น ยังจะหาร่มมาให้ฮูหยินสักคันไม่ใช่เชียวหรือ ท่านอ๋องผู้นี้ช่างวิตกเหลือเกิน ที่แท้ก็ใส่ใจจนร้อนรนเชียวหรือ แม้แต่หลักการที่ง่ายดายเพียงนี้ก็ยังไม่เจนจัด เพียงแต่ในอกคิดเยี่ยงนี้ จินมู่กลับยังคงฟังคำบัญชาออกคำสั่งให้คนไปส่งร่มกันฝน
ล้อรถเริ่มขับเคลื่อน เกวียนม้าแล่นไปยังทิศทางของเมืองเฟิ่งชี ในราตรีที่ขมุกขมัว เกวียนม้าที่โอ่อ่าคันนี้ยิ่งสะดุดตา ทว่าหนทางเบื้องหน้ากลับมืดมิดยิ่ง ทอดมองไปไกล ก็เสมือนเกวียนม้าสัญจรเข้าสู่ถ้ามืดไร้จุดสิ้นสุดก็ไม่ปาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...