ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 278

ตอนที่ 278 ของขวัญ

คนใช้คนนั้นอยากปฏิเสธ แต่เธอยืนหยัดจะให้ คนใช้คนนั้นจึงรับไว้

“จริงด้วย จำไว้ว่าบอกท่านอ๋องว่า นี่เป็นของขวัญที่ข้าส่งให้เขา” หลินซีนเยียนยิ้งบางๆ รอยยิ้มที่อบอุ่นในช่วงหน้าหนาวได้เพิ่มความรู้สึกหลงใหลในใจคนมากขึ้น

คนใช้ขานรับ กลัวว่าหิมะจะละลายซะก่อน จึงรีบนำตะกร้าสานไม้ไผ่มุ่งไปยังจวนอ๋อง

หลินซีนเยียนยืนอยู่ในลานบ้านอย่างเงียบๆและมองคนใช้ที่ถือมนุษย์หิมะที่เธอทำเองกับมือเดินจากไป ในหัวของเธออดนึกถึงสีหน้าตอนที่โม่จื่อเฟิงเห็นมนุษย์หิมะตัวนั้นไม่ได้ จะชื่นชมอย่างชอบใจ หรือเหยียดหยามอย่างดูถูกกันนะ?

แต่พอคิดแล้ว ชีวิตของพวกเขาถือว่าผู้สูงส่งที่มีอิทธิพลอับดับหนึ่ง สำหรับสิ่งเหล่านี้แล้วดูด้อยค่าไปเลย เป็นไปได้ที่เขาจะไม่ชอบมากกว่า

ทว่า ความเป็นจริงกับในจินตนาการของหลินซีนเยียนกลับแตกต่างกันมาก

มู่เหอกำลังชี้สั่งคนกวาดกองหิมะอยู่หน้าประตูใหญ่จวนอ๋อง เมื่อเห็นคนใช้คนหนึ่งวิ่งหาบของมาตลอดทางอย่างเหน็ดเหนื่อย กำลังนึกสงสัย พอได้ยินคนใช้บอกว่ามนุษย์หิมะเป็นของขวัญที่พระชายารองมอบให้ท่านอ๋อง มู่เหอรีบเลิกสนใจเรื่องที่ทำอยู่ แล้วพาคนใช้มุ่งไปยังในเรือน

คนใช้คนนั้นเป็นคนใช้มาหลายปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มาจวนอ๋อง เดิมทีคิดว่าต้องผ่านอะไรที่ยุ่งยากก่อนถึงจะทำธุระให้พระชายารองได้เป็นอย่างดี ใครจะคิดว่าคนดูแลผู้นี้พอได้ยินว่าพระชายารองเป็นคนส่งมา กลับนำทางพาเขาก้าวเข้าไปในเรือนอย่างรวดเร็วด้วตนเอง

“ไอหยา เจ้าเร่งฝีเท้าหน่อย อีกเดี๋ยวมนุษย์หิมะละลายจะทำเช่นไรเล่า!

มู่เหอเดินไปพลางข่มขู่ ทำให้คนใช้คนนั้นก็ยิ่งงุนงง เขาเป็นคนมาส่งของ ถ้ามนุษย์หิมะตัวนี้ละลายก็เป็าความรับผิดชอบเขา ทำไมคนดูแลผู้นี้กังวลมากกว่าเขาเสียอีก?

ในเมื่อคนดูแลกังวลเช่นนี้ ทว่ามนุษย์หิมะตัวนี้ก็ไม่ใช่หิมะธรรมดาทั่วไป คนใช้ไหนเลยจะกล้าถ่วงเวลา ใช้แรงที่ดื่มนมออกมาแล้วมุ่งหน้าไปราวกับบินตลอดทาง

“ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง….” ตอนที่มาถึงเรือนหลัก มู่เหอตะโกนเรียกอย่างหายใจหืดหอบ ส่วนคนใช้คนนั้นวิ่งจนเหงื่อชุ่มไปทั้งร่างนานแล้ว เพราะว่าวิ่งเร็วอย่างบ้าคลั่งปานสายฟ้าฟาด

โม่จื่อเฟิงกำลังทานอาหารเช้าอยู่ในห้องโถง แต่เขาไม่รู้สึกอยาก ขมวดคิ้วมองอาหารวางอยู่บนโต๊ะมากมาย เมื่อได้ยินมู่เหอเรียกขาน ใบหน้ากลับยิ่งขรึมลงกว่าเดิม

“มู่เหอ เจ้าคิดว่าช่วงนี้เปิ่นไม่อยู่กับร่องกับรอย ดังนั้นจึงไม่สนใจพฤติกรรมแย่ๆของพวกเจ้าหรือ?” เสียงของโม่จื่อเฟิงเอ่ยอย่างเย็นชา มู่เหอที่เพิ่งเข้าห้องมาอย่างตกใจทะเล่อทะล่าจนล้มลงกับพื้น

มู่เหอทำหน้าน้อยใจ แล้วกล่าวขึ้นอย่างโศกเศร้า “ ท่านอ๋อง ข้าไม่ใช่รีบร้อนเลยทำเสียงดังหน่อยเท่าไร ไม่ถือว่าเป็นพฤติกรรมแย่ๆ” หมวกใหญ่ใบนี้ที่ให้เขาใส่มันทำให้คนตกใจตายได้อย่างไร้สาเหตุได้!

โม่จื่อเฟิงแค่นเสียงทีหนึ่ง “ ดีที่สุดเจ้าต้องพูดเหตุผลที่ทำให้ข้าพอใจ มิเช่นนั้น….”

“ ไอหยา ข้าเกือบลืมไป ท่านอ๋อง ท่านรีบมาดูเร็ว นี่เป็นของขวัญที่พระชายารองทำให้ท่านด้วยตนเองตั้งแต่เช้า พระชายารองให้ความสำคัญอย่างมาก จึงให้คนใช้นำมาส่งให้ในเวลาสั้นๆเป็นพิเศษ ท่านมาดู คนใช้คนนี้เหนื่อยจนจะขาดใจตายแล้ว!”

“ ของขวัญ?” โม่จื่อเฟิงตาสว่าง ลุกขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ หลังจากลุกขึ้นแล้วก็พบว่าตนเองราวกับตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตรงหน้าเป็นลูกน้องของตนเอง ดังนั้นจึงค่อยๆหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง กล่าวขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ “ ของอะไรหรือ นำมาให้ข้าดู แค่คิดก็รู้ว่านางไม่ได้ส่งของดีอะไรมา”

มุมปากของมู่เหอกระตุกชึ้น ในใจอดบ่นพึมพำไม่ได้ สายตาท่านมันเปล่งแสงออกมานานแล้ว ยังจะวาดมาดขรึมอีก นี่มีความหมายอะไรหรือ? เห็นการปรนนิบัติรับใช้มาหลายปีของเขามู่เหอเสียเปล่าหรือไร?

ทว่า ใจนี้ของมู่เหอไม่มีความบังอาจ เรื่องนี้ไม่กล้าพูดออกมาสักครึ่งคำ เขารีบกวักมือเรียกคนใช้ แล้วให้คนใช้คนนั้นรีบเข้ามา

คนใช้รู้สึกกังวล ในชั่วชีวิตนี้เคยคิดว่ามีสักวันที่ได้จะเห็นอู่เซวียนอ๋องในตำนาน ในข่าวลือที่ว่าอู่เซวียนอ๋องโม่จื่อเฟิงฆ่าคนราวกับผักปลา อีกทั้งยังเก่งเกินมนุษย์มนา แม้แต่เด็กเห็นท่าทางดุดันต่างก็ตกใจร้องไห้ ทว่ากลับเห็นเป็นบุรุษชั้นสูงใบหน้าหล่อเหลาราวกับไม่ใช่มนุษย์คนหนึ่ง

นี่คืออู่เซวียนอ๋องหรือ? ไม่เห็นเหมือนในข่าวลือเลย! ในใจของคนใช้มากมายด้วยความรู้สึก ได้รับบุญกุศลของพระชายารองเลยจริงๆ คิดไม่ถึงว่าเกิดมาชาตินี้จะได้เห็นอู่เซวียนอ๋องตัวเป็นๆ เพียงแค่นี้ก็ทำให้เขากลับบ้านเกิดไปคุยโวโอ้อวดได้ตลอดชีวิตแล้ว

“ ท่านอ๋อง ท่านดู นี่เป็นมนุษย์หิมะที่ฮูหยินทำด้วยตนเอง ท่านดู ด้านเหนือยังมีตัวอักษรเล็กๆด้วย” มู่เหอเริ่มแนะนำส่วนดีๆของมนุษย์หิมะตัวนั้นอย่างเชิญชวน

โม่จื่อเฟิงยังคงรักษาสีหน้ามาดนิ่งอยู่ แต่นิ้วมือเริ่มสั่นเบาๆบ่งบอกอารมณ์ของเขาในขณะนี้ เขาค่อยๆลุกขึ้น เดินไปหน้สตระกร้าไม้ไผ่ของมนุษย์หิมะตัวนั้นราวกับไม่เร่งรีบ มนุษย์หิมะที่มีแนวโน้มว่าจะละลายในตระกร้านั้น เป็นมนุษย์หิมะที่เรียบง่าย ทว่าถูกแกะสลักออกเป็นใบหน้าเท่านั้น บนใบหน้ามีดวงตาโค้งๆกับปากที่ยิ้มแย้มเป็นเส้นหนึ่ง

ปากที่กำลังยิ้ม…..

ริมฝีปากของโม่จื่อเฟิงยกขึ้น โดยไม่มีสีหน้าของตัวเองที่ผลุบๆโผล่ๆ อดไม่ได้ที่จะปรากฏรอยยิ้มอ่อนโยนออกมา

รอยยิ้มแบบนี้ทำให้มู่เหอและคนใช้เห็นแล้วเคืองตา

มู่เหอคิดว่า นี่คือท่านอ๋องของเขาหรือ? ท่าทางเงอะงะแบบนี้ไหนเลยจะมีบารมีน่าเกรงขามของเจ้านายสักครึ่งหนึ่ง?

ส่วนคนใช้กำลังคิดว่า ข่าวลือไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ เห็นใบหน้าอ่อนโยนของอู่เซวียนอ๋องท่านนี้ ท่าทางสุภาพเป็นมิตร ไหนเลยจะมีเงาปีศาจคลั่งฆ่าคนสักครึ่งหนึ่ง? คิดไปคิดมาคนที่บอกเกรงกลัวอู่เซวียนอ๋องต่างสร้างข่าวลือ!

“กระดาษล่ะ?” โม่จื่อเฟิงยิ้มแล้วถาม

มู่เหอชะงัก ได้สติคืนรีบหยิบกระดาษที่อยู่ด้านหลังมนุษย์หิมะคลี่ออกแล้วส่งให้โม่จื่อเฟิง

โม่จื่อเฟิงหยิบกระดาษขึ้นมาดู เพียงเห็นประโยคที่เขียนหนึ่งกระดาษ “ไม่รู้ตัวว่ารัก แต่ยิ่งรักยิ่งกลับถลำลึก” นางกำลังบอกว่า เพราะนางใส่ใจเขา ดังนั้นนางถึงเสียใจใช่หรือไม่?

“มู่เหอ….” โม่จื่อเฟิงสะอื้นในลำคอ เก็บกระดาษใบนี้อย่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยกำชับ “ นำมนุษย์หิมะไปไว้ในห้องแช่แข็ง จริงด้วย หาช่างมาขยายห้องแช่แข็งอีกหน่อย แล้วต้องเก็บรักษามนุษย์หิมะตัวนี้ไว้ในห้องว่างหากมนุษย์หิมะละลายไปแม้แต่น้อย เจ้าไม่ต้องมีชีวิตมาพบข้า”

เมื่อหู่เหอได้ยิน มุมปากอดไม่ได้ที่จะกระตุกขึ้น เป็นเพียงมนุษย์หิมะยังทำให้ดูดีขนาดนั้น มันจะกลายเป็นพระเจ้าหรืออย่างไร? ถึงได้เก็บรักษาไว้ในห้องแช่แข็งที่สั่งซ่อมแซมขึ้นเป็นพิเศษ?

“จริงด้วย” โม่จื่อเฟิงหันหน้ามากวาดตามองคนใช้ที่มาส่งมนุษย์หิมะ เอ่ย “ ไปนำเงิน 120 ตำลึงห้องพระคลังมอบให้เขา เขาทำหน้าที่นี้ได้ไม่เลว”

ในใจมู่เหอตกตะลึง แล้วยิ่งบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องลำบากลำบนไปซ่อมห้องแช่แข็ง ฮ่าๆ ทำไม่ดีต้องชดใช้ด้วยชีวิต คนใช้คนนี้แค่นำของมาส่งเที่ยงเดียวก็ได้รางวัลเป็นเงิน 120 ตำลึงเลยหรือ? นี่ยุติธรรมหรือ? เขาเป็นถึงคนดูแลจวนอ๋อง เขารู้บ้างหรือไม่?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต