ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 283

ตอนที่ 283 พระราชโองการลับ

โดยเฉพาะบุรุษรูปงามหมดจดคนนี้เห็นอยู่ว่าสวมเสื้อแพรระดับสูง เนื้อผ้าของผ้าแพรผืนนั้นหรูหรา ทั้งชีวิตนี้พวกเราล้วนไม่มีทางได้พบเห็น ใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเลอะไปด้วยควันหม้อสีดำ ด้านล่างของเสื้อแพรถูกไหม้เกรียม แต่เขากลับไม่รู้ตัว ดวงตาสองคู่จับจ้องไปด้านหน้า ราวกับไม่รู้สึกถึงสายตาแปลกๆที่ลอบมองมาก็ไม่ปาน

เหล่าช่างตีเหล็กอาบน้ำลืมว่าต้องเปลี่ยนน้ำใหม่ ถือผ้าเช็ดที่แห้งแล้วเช็ดหน้าซ้ำไปซ้ำมา จนกระทั่งสตรีร่างเล็กเดินออกมาจากโรงครัว สตรีนางนี้พวกเขารู้จักเป็นอย่างดี ว่ากันว่าเป็นพระชายารองของอู่เซวียนอ๋อง เพียงเห็นพระชายารองเดินสามก้าวรวบเหลือสองก้าวตามบุรุษรูปงามไป ใบหน้ายิ้มแย้มควงแขนของเขาไป

การกระทำเช่นนี้ เหล่าช่างตีเหล็กหลายคนตกใจจนพลิกคว่ำน้ำร้อนที่อยู่ตรงหน้า ในดวงตาพวกเขาหวาดกลัว พระชายารองท่านนี้กล้าออกไปมีชู้นอกบ้านอย่างเปิดเผยหรือ? มะ ไม่ เป็นไปไม่ได้ หรือว่าบุรุษรูปงามคนนั้นเป็นอู่เซวียนอ๋องในตำนาน? ในข่าวลือที่ว่าอู่เซวียนอ๋องมีใบหน้างดงามพราวเสน่ห์ยิ่งกว่าสตรีซะอีก

เรื่องจริงอยู่ด้านหน้าแล้ว อีกทั้งทำให้ทุกคนยิ่งอยู่ไม่สงย มารดาเจ้าสิ บุรุษผู้นั้นเป็นอู่เซวียนอ๋อง? อู่เซวียนอ๋องต้มโจ๊กให้พระชายารองหรือ? หากเป็นชาวบ้านธรรมดาแล้วก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ และยิ่งคนผู้นั้นเป็นถืออู่เซวียนอ๋องด้วยแล้ว!

หลังจากวันนั้นมา เมืองเฟิ่งชีก็มีข่าวลือ กล่าวว่าอู่เซวียนอ๋องโปรดปรานพระชายารองมาก โปรดปรานจนเกือบลืมฐานะของท่านอ๋องเอง แน่นอน ในสังคมศักดินานี้ ข่าวลือเช่นนี้ บุรุษที่โปรดปรานได้ถึงขั้นนี้ จนสุดท้ายล้วนเป็นเล่ห์เหลี่ยมของนางจิ้งจอก

ดังนั้น ระหว่างฮูหยินขุนนาง ข่าวลือเกี่ยวกับพระชายารองก็ยิ่งแพร่สะพัดไปทั่ว กล่าวว่าพระชายารองมีรูปโฉมงดงามปานจิ้งจอก ใช้เล่ห์เพทุบายหลอกลวงทำให้อู่เซวียนอ๋องลุ่มหลง ดังนั้นเหล่าฮูหยินขุนนางส่วนใหญ่ล้วนดูแคลนนาง

แต่ก็มีเหล่าสตรีที่ชื่นชม ซึ่งล้วนเป็นสตรีที่ไม่ได้รับการโปรดปราน จึงอยากจะมาขอคำแนะหลินซีนเยียนหมายพิชิตใจบุรุษ

เรื่อเหล่านี้ได้รู้ตอนที่มีฮูหยินตัวเป็นๆคนหนึ่งมาหาหลินซีนเยียน ทว่าตอนนั้น มันก็ผ่านไปนานแล้ว ข่าวโคมลอยยังแพร่สะพัดไปยังทุกมุมในเมือง จนนางไม่มีโอกาสได้แก้ต่างเลย

วันรุ่งขึ้นโม่จื่อยี่ที่นำแส้ยาวโลหะไปได้ถ่ายทอดราชโองการลับให้หลินซีนเยียน โดยทั่วไปบอกให้นางเข้ามาคลังอาวุธทางการทหาร สืบหาที่มาของเกิงจีน

“เกิงจีน?” ในห้องอักษร หลินซีนเยียนอ่านพระราชโองการลับจบ อดถามโม่จื่อเฟิงไม่ได้ “ เดิมความหมายของฝ่าบาทต้องการให้ข้าหาที่มาของเกิงจีนหรือ? ”

โม่จื่อเฟิงพยักหน้า “ ไม่ผิด เจ้าก็ค่าของเกิงจีนว่าไม่ต่างอะไรจากทองคำ แต่คุณค่าของมันยังมีอย่างอื่นอีก ที่สำคัญของสิ่งนี้ห้ามตกไปอยู่ในประเทศอื่น ประเทศเหนึ่งต้องการความแข็งแกร่งสยบทั่วหล้า จำเป็นต้องมีกองกำลังติดอาวุธ ตอนนี้หลายประเทศล้วนสนใจเกิงจีน ทางการทหารมีหน้าที่รับผิดชอบทำการค้าโดยเฉพาะ บัดนี้เกิงจีนของแคว้นหนานเยว่เกือบเป็นเขาที่ทำการค้าขาย ทว่าคนผู้นั้นแปลกคน ไม่คบค้าสมาคม นิสัยแปลกประหลาด จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาทำเกิงจีนได้อย่างไร ”

เมื่อได้ยินเขาอธิบาย หลินซีนเยียนเข้าใจอย่างถ่องแท้ เดิมทุกอย่างก็เพื่อโลหะหายากที่เพิ่งค้นพบใหม่อย่างเกิงจีน แต่ก็จริง ตั้งแต่โบราณมาแร่หายากล้วนเป็นของที่ผู้มีอิทธิพลใหญ่แก่งแย่งกัน เพียงเกิงจีนนี้ล้ำค่าจนทำให้แต่ละประเทศให้ความสำคัญกันเท่านั้น

“ หากเป็นเพียงเช่นนี้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องให้ข้าเข้าร่วมหรอก ในแคว้นหนานเยว่ เหล่าขุนนางชาวบ้านล้วนเป็นคนของฝ่าบาทไม่ใช่หรือ ทางการทหารคนส่วนใหญ่ก็เป็น หอคอยที่ใกล้น้ำได้พระจันทร์ก่อน มันง่ายกว่าได้ฟังข่าวจากปากคนผู้นั้นไม่ใช่หรือ? ” หลินซีนเยียนครุ่นคิด เอ่ยถามอย่างสงสัย

โม่จื่อเฟิงมองในดวงตาของนางรู้สึกชื่นชมมากอย่างไม่รู้ตัว อดลูบหัวของนางไม่ได้ “ที่แท้เจ้าก็เฉลียวฉลาด แน่นอนไม่ใช่เพียงแค่นี้ ข้าเพิ่งพูดไปใช่ไหมหรือ คนผู้นั้นมีนิสัยแปลกประหลาด โดยทั่วไปไม่ข้องเกี่ยวกับผู้อื่น ทว่าเป็นแต่ช่างฝีมือที่เก่งกาจนั้นดูต่างออกไป ข้าเคยพูดว่า คนของศาลาความลับแห่งสวรรค์ก็รวมตัวเข้าทางการทหาร ในจำนวนนั้น....อาจเกี่ยวข้องกับศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้า”

“คนของศาลาความลับแห่งสวรรค์? ยังมีศิษย์พี่ใหญ่..... ” หลินซีนเยียนอดตะลึงใจไม่ได้ ทันใดนั้นก็เข้าใจทันที “ ความหมายของเจ้าคือ คนของศาลาความลับแห่งสวรรค์ก็กำลังสนใจที่มาของเกิงจีนหรือ?”

“ ถูกต้อง ทว่าไม่เพียงแต่คนของศาลาความลับแห่งสวรรค์ ช่วงนี้มีช่างฝีมือที่เก่งกาจไม่น้อยล้วนปะปนอยู่ในศาลาความลับแห่งสวรรค์ แม้จะไม่รู้อำนาจเบื้องหลังของพวกเขา ทว่าคิดก็รู้ว่ามาเพื่อสิ่งใด ” นิ้วมือของโม่จื่อเฟิงเคาะบนโต๊ะ ทุกครั้งตอนที่เขาขบคิดปัญหาก็จะทำนิสัยจากจิตใต้สำนึก

เมื่อหลินซีนเยียนได้ฟังจบก็เดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง ราวกับตั้งใจครุ่นคิดจุดที่สำคัญของในเรื่องนี้ เหล่าผู้คนที่เก่งกาจที่สุดปะปนเข้าทางการทหาร ทว่าทางการทหารก็เป็นหนึ่งในหัวใจหลักของแคว้นหนานเยว่ หากมีความลับอะไรรั่วไหลออกไป ผลที่ตามมาคงไม่ต้องคิดถึง อีกทั้งยังมีเรื่องที่มาของเกิงจีนอีก ไม่แปลกที่เรื่องนี้ทำให้โม่จื่อเฟิงให้ความสำคัญอย่างมาก

“ จริงด้วย ทักษะของโจวหลี่ก็ไม่เลว เหตุใดไม่ให้เขาไปหรือ? ” หลินซีนเยียนเอ่ยถามอีก

โม่จื่อเฟิงขมวดคิ้ว ทอดถอนหายใจ “ แม้เขาจะเก่งกาจไม่เลว ทว่าเจ้าว่าเมื่อเทียบกับศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าแล้ว เขาจะสามารถเชิดหน้าชูตาในตาของคนผู้นั้นหรือ? ”

เทียบโจวหลี่กับเซียวฝาน แน่นอนว่าไม่มีประโยชน์อันใดให้ถกเถียง เธอคิดไปคิดมา ราวกับเหลือเพียงตัวเองที่อาจรับมือกับเซียวฝานได้

“ แล้วข้าจะไปเมื่อใด? ” หลินซีนเยียนคิดถึงวี่จิ่ง “คลังอาวุธทางการทหารน่าจะอยู่ในเมืองเฟิ่งชี ทุกวันข้าไปเข้างาน พอค่ำแล้วสามารถกลับมาได้หรือไม่? ”

“เข้างาน? ” คำศัพท์แปลกๆที่เธอพูดออกมา โม่จื่อเฟิงรู้สึกแปลกใจ “ เข้างานที่พูดหมายความว่าทำงานหรือ นี่อาจทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว คลังอาวุธทางการทหารไม่ได้อยู่ในเมืองเฟิ่งชี ทว่าอยู่ในชานเมืองที่ซ่อนอยู่ในเมืองเฟิ่งชี คลังอาวุธทางการทหารเป็นสถานที่สร้างอาวุธส่วนใหญ่ที่กองทัพแคว้นหนานเยว่ต้องการ สถานที่เล็กๆ เจ้าว่าเป็นไปได้หรือ สถานที่ใหญ่ต่างหากจึงเป็นเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้นหลังจากที่เจ้าไปคลังอาวุธทางการทหาร เวลากลับมาคงมีไม่ค่อยมาก ”

“ ห๊ะ.....” พอได้ฟังเขาพูด ใบหน้าหลินซีนเยียนราวกับพังทลายลงมาทันที เดินไปตรงหน้าเขาแล้วนั่งลงตักของเขา “ เช่นนั้นข้าก็ไม่สามารถเห็นวี่จิ่งกับเจ้าแล้วหรือ? ”

โม่จื่อเฟิงยิ้ม ในรอยยิ้มเป็นความเอาใจอย่างที่ตนเองไม่ได้ใคร่ถึง “ หากไม่อาจมาหาข้า ข้าก็จะไปหาเอง ข้าย่อมไปหาเจ้า เพียงแต่เรื่องระยะเวลาคงลำบากเจ้าแล้ว ”

หลินซีนเยียนงับฝีปากล่างของเขาอย่างทะเล้น เอ่ยวาจาแผ่วเบา “ ให้ข้าไปก็ได้ แต่ใต้หล้าไม่มีมื้อบ่ายให้กินฟรี ก็ดูวันนี้ท่านอ๋องจะแสดงอย่างไร...... ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต