ตอนที่ 290 จุดอ่อนของชีวิต
“คิดไม่ถึงว่าจะเจอคนที่เบื้องบนกำหนดในที่แห่งนี้!” ชายผู้นั้นปล่อยหมัดลงบนผิวน้ำอย่างเดือดดาล น้ำที่แตกกระจายกระเซ็นเข้าบนใบหน้าของเขา สะท้อนแววหัวเสียและไม่พึงใจบนเค้าหน้าของเขา
เสียงที่ดังลอยไกลในป่าเริ่มใกล้เข้ามา ผ่านไปเพียงครู่ขบวนคนก็ปรากฏรอบด้านของน้ำพุร้อน หนึ่งในนั้นคนที่นำทัพเพียงปราดมองผู้ชายที่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อน พลันประสานมือคารวะทันใด “ใต้เท้าหลี่ ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
ชายผู้ถูกเรียกว่าใต้เท้าหลี่เนื่องจากในอกยังเคืองขุ่นเพราะเรื่องของหลินซีนเยียน ดังนั้นยามที่เอ่ยวาจาน้ำเสียงก็ยังคงแฝงความแข็งกระด้าง “ไม่เห็นว่าข้าอาบน้ำที่นี่? ทำไม ใต้เท้าหลี่จะอาบน้ำยังต้องรายงานเจ้า?”
“ข้าเจ้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น เพียงแต่...เพียงแต่...” ชายที่เป็นผู้นำทัพทั้งสีหน้าเต็มไปด้วยความคับข้องใจ นี่เขากรรมซัดอันใด บังเกิดเรื่องยุ่งเหยิงพวกนี้ในกลางดึก ในอกยิ่งไม่พอใจ หลี่อวิ๋นซ่านผู้นี้ไม่ใช่เพราะว่ามีช่องทางการซื้อของของเกิงจีนหรอกหรือ โดยพื้นฐานแล้วก็เป็นเพียงแค่ผู้ดูแลคนหนึ่งเท่านั้น การเรียกขานเขาว่าใต้เท้าเพราะให้เกียรติ ยังจะอุปโลกน์ตนเองเป็นบุคคลที่เยี่ยมยอดจริงๆ อย่างนั้นหรือ
“เพียงแต่อะไร” หลี่อวิ๋นซ่านเอ่ยถามเสียงตวาด มุ่นหัวคิ้วมองไปยังขบวนคนซึ่งถือไม้กระบองกรูเข้ามา
ถึงแม้ในอกคนที่นำขบวนจะไม่พอใจ แต่กลับไม่กล้าแสดงออกมา คราวนี้จึงกล่าวอย่างนอบน้อม “เพียงแต่เนื่องจากว่าในโรงงานอาวุธมีคนถูกฆาตกรรม พวกเราจึงไล่ล่าตามตัวมือสังหารมาขอรับ”
“มือสังหารฆ่าคน...” หลี่อวิ๋นซ่านงึมงำคำเหล่านี้ ก่อนหน้าหญิงนางนั้นก็ราวกับเคยกล่าวถึงมือสังหารฆ่าคนอะไรสักอย่าง ดูท่าในโรงงานอาวุธจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ แล้ว “สรุปว่าเป็นเรื่องอันใดกันแน่ รีบพูดสาระสำคัญมาเร็วเข้า”
“อันที่จริงก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อันใดขอรับ ก็แค่ช่างเงินเพียงคนเดียวที่เข้าร่วมบททดสอบในโรงงานอาวุธครั้งนี้ถูกคนสังหารแล้ว ดังนั้นใต้เท้าหัวหน้าโรงงานอาวุธจึงให้พวกเรานำกำลังคนจำนวนหนึ่งไล่ตามผู้ก่อเหตุนั่น และแล้ว บังเอิญไล่ตามมาถึงตรงนี้พอดี” ชายผู้ที่นำทัพรีบนำเอาประโยคเหล่านี้สรุปย่อเรื่องราวให้ชัดเจน เกรงว่าจะทำให้ใต้เท้าหลี่ที่อารมณ์แปรปรวนไม่ปกติผู้นี้ไม่ปรีติอีก
หลังจากหลี่อวิ๋นซ่านฟังจบแล้ว ทำเพียงแค่หาวหวอดอย่างเบื่อหน่าย “เรื่องเล็กแค่นี้ก็วุ่นวายเสียจนทำให้คนไม่สงบสุข เอาล่ะ ถอดอาภรณ์บนร่างของเจ้ามาให้ข้าเสีย เรื่องที่เจ้ามาก่อกวนข้าอาบน้ำนี้ข้าก็จะไม่ถือสาแล้ว”
เมื่อชายผู้นำทัพได้ยินเข้า สีหน้าพลันขมขื่น “ข้า ข้าเป็นคนหยาบกร้าน อาภรณ์สกปรก...”
“เจ้าจะถอดไม่ถอด?” หลี่อวิ๋นซ่านแค่นเสียงกดต่ำ ในดวงตาทั้งคู่เจือแววแห่งการเข่นฆ่า
ผู้ชายที่นำทัพคนนั้นยังมีความไม่ยินดีเสียที่ไหน คนที่ตามหลังของเขากระวีกระวาดมากระซิบเตือนข้างหูเขาเสียงแผ่ว “ท่านรีบถอดให้เขาเร็วเข้า ท่านก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ ในโรงงานอาวุธแห่งนี้นอกจากใต้เท้าหัวหน้าโรงงานที่เขายังไว้หน้าอยู่บ้างแล้ว บุคคลอื่นเขาเคยเห็นในสายตาตั้งแต่เมื่อใดกันเล่า ท่านจำไม่ได้ว่าเจ้าคนที่ยั่วโทสะเขาเมื่อคราวที่แล้ว หัวหน้าโรงงานอาวุธสั่งเฆี่ยนคนผู้นั้นจนตายโดยไม่ฟังปี่ฟังขลุ่ยเลย นี่ผ่อนหนักผ่อนเบา พวกเราใครกล้าพูดครึ่งคำว่าไม่กัน?”
“เอาล่ะ” ผู้ที่นำทัพทอดถอนใจเฮือกหนึ่ง คราวนึ้จึงค่อยเลื่อนมือมาถอดเสื้อตัวยาวของตนออก
หลี่อวิ๋นซ่านแค่นเสียงเย็น หลังจากรอให้กลุ่มคนหมุนกายกลับแล้วจึงก้มหยิบอาภรณ์บนพื้นขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นจึงเดินวางมาดมาหยิบเอาคบเพลิงต่อหน้ากลุ่มคนก่อนจะเดินกลับ
รอกระทั่งเขาเดินจากไปเสร็จแล้ว ผู้คนที่หลงเหลืออยู่ต่างก็ถ่มน้ำลายไล่เงาหลังของเขาอย่างอดไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...