ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 318

ตอนที่318พูดตามลำพัง

สายตาของหลี่อวิ๋นซ่านเหมือนมีดที่ปักบนใบหน้าของหัวหน้าโรงงานชั่วครู่หนึ่งหัวหน้าโรงงานรู้สึกเหมือนตายแล้วจริงๆ

มีแต่หัวหน้าโรงงานเท่านั้นที่กลัวแต่หลินซีนเยียนไม่กลัวให้เหล่าหลิวช่วยลากหีบหันหลังแล้วจากไปยังไม่ลืมที่จะขอบคุณหัวหน้าโรงงาน

หลี่อวิ๋นซ่านอยากจะรั้งไว้แต่ว่าเห็นท่าทีของหลินซีนเยียนที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ไม่มีช่องว่างเหลือเลยแม้แต่น้อยทนไม่ได้กับความอับอายตั้งแต่เล็กจนโตเมื่อเขาเอาใจใครสักคนเขารู้สึกสมเพชมันไม่ง่ายเลยที่เขาจะหยิบยื่นความจริงใจออกมาให้คนอื่นเห็นยังถูกผู้อื่นเหยียบย่ำเขารู้สึกถึงความภาคภูมิใจในตนเองได้รับบาดแผลดังนั้นเขากัดฟันแน่นด้วยความขุ่นเคืองไม่เอ่ยปากยับยั้งแม้แต่คำเดียวด้วยท่าทางที่หยิ่งยโส

หลินซีนเยียนลากหีบตามเสี่ยวซือคนหนึ่งมาถึงลานเดี่ยวถึงแม้ลานจะไม่ใหญ่มากแต่ว่าถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วด้านหนึ่งนางก็เก็บเสื้อผ้าอีกด้านก็เคาะด้านข้างพูดคุยกับเหล่าหลิว“ใช่แล้วเหล่าหลิวเรื่องฆาตกรรมตรวจสอบเป็นอย่างไรแล้ว?”

เหล่าหลิวก็ช่วยนางจัดห้องให้เป็นระเบียบตอบกลับโดยไม่ได้ตั้งใจมากนัก:“จะเป็นอย่างไรเล่าหากจับฆาตกรได้แล้วยังต้องให้เจ้าย้ายที่อยู่หรือแม้แต่ร่องรอยของฆาตกรยังหาไม่เจอแต่เจ้าไม่เคยเห็นคนที่ตายเมื่อวาน ตายอย่างอนาจบน ร่างกายมีบางส่วนที่ไม่สมบูรณ์เนื้อหนังถูกฉีกออกอย่างสดๆ”

หลินซีนเยียนยิ่งฟังในใจยิ่งรู้สึกผวาในสมองมีแต่ภาพของเมื่อคืนที่มีเนื้อหนังสดๆในหีบเหตุใดเซียวฝานถึงต้องการเนื้อหนังเหล่านั้นกันเพราะการกระทำที่ขาดสติหรือว่ามีสาเหตุอื่นกันแน่

“น้องหลินเจ้ามัวแต่คิดอะไรอยู่เจ้าเอากรรไกรตัดเสื้อผ้าทำไมกัน?”

หลินเซียนเยียนถึงได้สติและพบว่าตัวเองกำลังใช้กรรไกรตัดเสื้อผ้านางตกตะลึงชั่วครู่ก็รีบวางกรรไกรแล้วจัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบใหม่อีกครั้ง

“น้องหลินเห็นเจ้าสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นนี้เกิดเรื่องขึ้นใช่หรือไม่”เหล่าหลิวเดินมาถามด้วยความเป็นห่วง“ใต้เท้าหลี่ล่วงละเมิดเจ้าใช่หรือไม่ดูไม่ออกจริงๆว่าใต้เท้าหลี่นั้นวิปริตที่แท้ก็นิยมไม้ป่าเดียวกันลำบากเจ้าแล้วจริงๆน้อ

“……”หลินซีนเยียนมุมปากกระตุกไม่รู้ควรตอบคำถามนี้อย่างไรดีก็ได้ยินเสียงฝีเท้าในลาน.

นางกับเหล่าหลิวหันไปมองทางประตูพร้อมกันทั้งสองคนตกใจ

เหล่าหลิวตกตะลึงทันใดนั้นตบหน้าผากแล้วหันกลับไปทางนางถามเสียงเบา:“ข้าไม่ได้ดูผิดใช่ไหมข้าเห็นอู่เสวียนอ๋อง……”

หลินซีนเยียนมุมปากกระตุกคิดไม่ถึงว่าสายตาของโม่จื่อเฟิงที่จ้องมาหานางช่างจงแจ้งเช่นนี้

หัวหน้าโรงงานที่อยู่หน้าโม่จื่อเฟิงเพื่อนำทางเขานั้นหยาดเหงื่อบนหน้าผากเกิดจากความตึงเครียดฟ้าเท่านั้นที่รู้ว่าในใจของเขามีม้ามาวิ่งผ่านอยู่หมื่นตัวเพิ่งถูกหลี่อวิ๋นซ่านไปรอบหนึ่งยังไม่ทันดีขึ้นมาเลยก็ได้ยินว่าอู่เสวียนอ๋องมาก็รีบเร่งมาต้อนรับผู้ยิ่งใหญ่นี้!

“พวกเจ้าสองคนทำไมยังไม่มาถวายบังคมมัวทำอะไรกันอยู่?”หัวหน้าโรงงานเห็นหลินซีนเยียนและเหล่าหลิวต่างยืนหน้าโง่อยู่อย่างนั้นในใจก็ยิ่งโกรธ

หลินซีนเยียนได้สติแล้วรีบส่งสายตาให้เหล่าหลิวสองคนมาถึงในลานถวายบังคมโม่จื่อเฟิง

“น้องหลินการมาเยือนอย่างกะทันหันของข้าคงไม่ทำให้เจ้าตกใจนะ”โม่จื่อเฟิงยากที่จะได้พูดคุยกับหลินซีนเยียนอย่างรื่นรมย์

หลินซีนเยียนค้อนตาหลับตาเหลือกทันที“ที่ไหนกันเพคะท่านอ๋องสามารถมาได้นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งเพคะ”

หนี่หม่า!คงเพราะได้ยินเรื่องที่ว่าหลี่อวิ๋นซ่านให้นางย้ายห้องดังนั้นถึงได้มาหาเรื่องนางแถมยังหัวเราะแปลกๆอีกเห็นนางตาบอดมองไม่ออกหรือไงกัน?

โม่จื่อเฟิงหึงหวงนางใช่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อนอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายอธิบายว่าในใจเขาเต็มไปด้วยการคำนวณกำลังคิดว่าจะทำอย่างไรให้นางทรมาน.

“ไม่มีก็ดีเมื่อไม่กี่วันก่อนเจ้าทำของเล่นให้กับลูกชายของข้าเขาชอบมากแต่หลังจากที่เล่นได้ไม่กี่วันก็มีกลิ่นสาบแล้วดังนั้นข้าเลยมาดูว่ามีสิ่งของใหม่ๆบ้างไหม”โม่จื่อเฟิงกล่าวได้หน้าตาเฉยเขาไม่รู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมีพิรุธหรือสิ่งผิดปกติบางหรือไงกัน

มีเพียงคนบางส่วนที่อยู่ในสถานการณ์เท่านั้นที่ไม่คิดเช่นนั้นอู่เซวียนอ๋องผู้สง่างามเสด็จมาเอาของเล่นกับช่างฝีมือเล็กๆคนหนึ่งด้วยตนเองดูอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องปกติ

คนเหล่านั้นคิดแล้วคิดอีกแต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปากถามแม้แต่คำเดียว

หลินซีนเยียนยิ้มอย่างอึดอัดใจจ้องมองหัวหน้าโรงงานแล้วตอบอย่างลำบากใจว่า:“พูดด้วยไม่ปิดบังท่านเลยว่าไม่กี่วันก่อนอัครเสนาบดีอินก็เคยมาแล้วให้ข้าทำรองเท้าเหล็กคู่หนึ่งให้กับสหายของเขาดังนั้นช่วงนี้ข้ายังต้องทำงานเรื่องของเล่นนั้นอีกสักสอง……”

คำว่าวันของนางอย่างไม่ออกจากปากพริบตาเดียวใบหน้าโม่จื่อเฟิงก็เปลี่ยนสีเขาแค่เอื้อมมือยังเห็นได้ใช้แรงมากนักหลินซีนเยียนก็ถูกเขากระชากไปแล้ว

ต่อหน้าต่อตาผู้คนเหล่านั้นเขาแค่เอื้อมมือก็สามารถรั้งเอวของหลินซีนเยียนได้แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย:“แท้จริงแล้วน้องหลินน้อยรู้สึกว่าการมาเยือนของอัครเสนาบดีอินสำคัญกว่าข้า?”

“มะมะไม่ใช่”ทันใดนั้นหลินซีนเยียนก็รู้สึกว่าตนเองนั้นได้ใช้คำพูดผิดไปแล้วนางคิดจะบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องของเซียวฝานกับท่านโจวในความคิดของนางนั้นคือหากทั้งสองเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งสองฝ่ายก็ควรซื่อสัตย์ต่อกันดังนั้นนางไม่เคยคิดจะปิดบังเขาแต่ว่าต่อหน้าทุกคนคำพูดเหล่านี้ไม่สามารถพูดได้บนหน้าผากของนางเริ่มมีเหงื่อผุดออกมา“ทะท่านอ๋องข้านึกขึ้นมาได้ว่าข้ายังมีของเล่นชิ้นหนึ่งหากท่านอ๋องไม่รังเกียจละก็ข้าคนเดียวเอ่อ..จะเอาให้ท่านดูตามลำพัง!”

“ให้ดูเพียงลำพังหรือ……”โม่จื่อเฟิงยิ้มอย่างมีเลศนัยความหมายของรอยยิ้มนั้นขอแค่เพียงเป็นชายต่างก็เข้าใจทั้งนั้น

แววตาของเขาทำให้ผู้คนที่อยู่รอบข้างนั้นรู้สึกร้อนๆหนาวๆเดิมทีพวกเขาคิดว่าการกระทำของหลี่อวิ๋นซ่านเป็นที่สุดของความไร้ยางอายของผู้ชายคนหนึ่งแล้วแท้ๆนึกไม่ถึงอ๋องอู่เสวียนผู้นี้ก็เป็นเช่นนั้น!คุณชายที่ร่ำรวยและทรงอำนาจเหล่านี้เหตุไฉนถึงได้ส่งสายตาวิบๆวับแบบเปิดเผยให้กับชายอีกคนได้

หลินซีนเยียนรู้สึกมึนหัวจนจะระเบิดเพียงทำได้แค่พยักหน้ารับอย่างเสียมิได้

โม่จื่อเฟิงถึงได้ถอนหายใจแล้วหันไปทางผู้คนรอบข้างแล้วเอ่ย:“ไม่ได้ยินกันหรือไงน้องหลินต้องการพูดคุยกับข้าตามลำพังพวกเจ้ายังไม่ไสหัวไป

ในข่าวลืออู่เซวียนอ๋องนั้นมีนิสัยแปลกประหลาดและเย่อหยิ่งไร้ความปรานี!วรยุทธ์ของเขาต่างทำให้ผู้คนเลื่อมใส

คนที่อยู่รอบๆเนื้อตัวสั่นเทาทันใดหัวหน้าโรงงานได้สติก็ลากคนที่ยังคงงุนงงออกจากลานเพิ่งออกจากลานทุกคนต่างหายใจอย่างเอาเป็นเอาตายอารมณ์การอยู่ต่อหน้าอู่เสวียนอ๋องนั่นทำให้พวกเขากลัวจริงๆ

มีเพียงแค่เหล่าหลิวที่ทั้งกลัวและในสายตายิ่งโกรธและเป็นห่วงมากขึ้นเขาถ่มน้ำลายแล้วกัดฟันด่า:“คิดไม่ถึงจริงๆว่าอ๋องอู่เสวียนก็เป็นคนเช่นนี้เสียดายที่นับถือว่าเขาเป็นวีรบุรุษที่แท้เขาก็เป็นเพียงคนเลวทรามต่ำช้าที่ไม่ต่างจากสัตว์ป่า!โถ่น้องหลินช่างเป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ..……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต