ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 319

ตอนที่319พานางกลับไป

ในห้องถูกจัดเก็บอย่างสะอาดเรียบร้อยเตียงนอนก็เพิ่งปูเสร็จใหม่ๆแม้กระทั่งมุมก็ถูกซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ

โม่จื่อเฟิ่งอุ้มหลินซีนเยียนทิ้งตัวลงบนเตียงพร้อมกันแล้วกัดบนก้มขาวๆของนางทำให้หลินซีนเยียนอุทานอย่าง“ท่านอ๋องท่านกอดข้าต่อหน้าผู้คนเช่นนี้ไม่กลัวว่าพวกเขาจะคิดว่าท่านเป็นพวกนิยมเพศเดียวกัน?”

“แล้วอย่างไร?”โม่จื่อเฟิงตอบเสียงเย็นฮึดฮัดเขาแลบลิ้นออกมาแล้วเลียวนไปมาบนปากแดงๆของนางรอยยิ้มที่ดูชั่วร้ายนั้น“ชื่อเสียงและสง่างามของข้าไม่ใช่ได้มาแค่วันสองวันแม้แต่เจ้าเองเมื่อก่อนยังว่าข้านั้นไม่เคยขาดหญิงงามหลับนอนกับหญิงสาวยังมากกว่าข้าวที่เคยกินดังนั้นหลับนอนกับชายอีกสักคนไม่ใช่หลักการของฟ้าดินที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้หรือ

หลินซีนเยียนยกมุมปากเล็กน้อยหากพบเจอชายที่ไม่มีเหตุผลและเอาแต่ใจเช่นนี้นางยังต้องพูดอะไรอีก“อย่างไรก็ตามท่านไม่เห็นแก่หน้าแล้ว ถ้าอย่านั้นข้าก็ไม่ต้องเห็นแก่หน้าแล้วเช่นกัน”

โม่จื่อเฟิงได้ยินคำพูดของนางก็รู้สึกตลกดียกคางของนางขึ้นเบาๆแล้วเอ่ย:“หน้าของเจ้าตอนนี้เดิมทีมันก็ไม่ใช่หน้าของเจ้าทิ้งก็ทิ้งไปสิแล้วอีกอย่างบัดนี้ข้าเป็นชายผู้น่าสงสารคนหนึ่งที่ถูกพระชายาทรงทอดทิ้งใครกล้าพูดว่าข้านั้นไม่ใช่เพราะว่าโกรธแค้นถึงได้เปลี่ยนจากความสนใจผู้หญิงมาชอบผู้ชายแทนเล่า”

“ใช่แล้วเรื่องของเซียวฉางเยว่นั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”นางแค่ได้ยินว่าเซียวฉางนั้นจะถูกถอดถอนออกแต่ว่าเกิดอะไรขึ้นหรือว่าต้องให้เขาซึ่งเป็นต้นเหตุเล่าถึงจะเข้าใจ

โม่จื่อเฟิงพลิกร่างของนางไว้ใต้ร่างทำให้ผ้าห่มที่เป็นระเบียบนั้นทับซ้อนกันเป็นก้อนเขาเอื้อมมือมาจับแก้มนางใช้นิ้วเล่นผมที่ทัดข้างหูของนางอย่างไม่ตั้งใจมากน้อยสายตานั้นส่องแสงวูบวาบ“เซียยวฉางเยว่…..คนที่ไม่อยากให้นางเป็นชายาอู่เสวียณอ๋องไม่ใช่ข้า……”

“ท่านหมายความว่า……”หลินซีนเยียนตาค้างเต็มไปด้วยความตกใจ“ท่านหมายความว่านี่คือพระประสงค์ของฝ่าบาท?”

โม่จื่อเฟิงใช้นิ้วจิ้มๆจมูกนางยิ้มตอบ:“เจ้าฉลาดหลักแหลมเช่นนี้เสมอดังนั้นข้าถึงได้รู้สึกว่าเจ้ามีความหมาายเซียวโส่วฝู่ถึงเป็นหนึ่งในขุนนางแต่ว่าลูกชายเขายังมีทหารเซียวในมือหากว่าตระกูลเซียวอยู่สงบเสงี่ยมเจียมตัวมันก็ดีจะโทษก็โทษตระกูลเซียวมากใหญ่ใฝ่สูงอยากให้เซียวฉางเยว่เป็นชายาอ๋องอู่เสวียนยังคิดจะร่วมอำนาจกับจวนอู่เซวียนอ๋องเดิมทีเขาก็นั่งบนบัลลังก์อย่างอกสั่นขวัญแขวนตระกูลเซียวยิ่งล้ำเส้นเข้าไปอีกไม่ใช่รนหาที่ตายหรือ

การต่อสู้ทั้งหมดล้วนเกิดจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์

เหตุผลนี้เดิมทีก็เป็นการพัฒนาของสิ่งต่างๆหลินซีนเยียนเข้าใจอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคนที่จะสามารถเข้าใจและยอมรับเหตุผลนี้บนโลกนี้นั้นมีไม่มากนัก

ดังนั้นการลงมือตระกูลเซียวคือความหมายขอฝ่าบาท?”หลังจากกล่าวเสร็จนางถอนหายใจอย่างอดไม่ได้บางเวลานางก็รู้สึกเห็นอกเห็นใจเซียวฉางเยว่ทั้งชีวิตมอบความรู้สึกให้ผู้ชายผิดคนก็ว่าแย่แล้วท้ายที่สุดยังทำให้เดือดร้อนทั้งตระกูล

“แน่นอน!มิฉะนั้นข้าจะถอนรากถอนโคนของตระกูลเซียวได้ง่ายดายเช่นนี้หรือถึงแม้ข้าจะมีอำนาจไม่น้อยแต่แผ่นดินนี้เป็นของเขาหากวันไหนที่ข้าคุกคามเขาเข้าเจ้าคิดว่าเขายังจะยิ้มเป็นมิตรเฉกเช่นทุกวันนี้?”

ตำแหน่งของท่านก็อันตรายเช่นกันหลินซีนเยียนรู้สึกกังวลเล็กน้อยจับเอวของเขาโดยไม่รู้ตัว

โม่จื่อเฟิงเห็นการกระทำของนางเช่นนี้มุมปากแสดงรอยยิ้มออกมา“วางใจเถอะต่อให้ไม่มีตระกูลเซียวมองลงไปในราชวงศ์ยังมีเว่ยจู้นหากเว่ยจู้สิ้นแล้วก็ยังมีศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างประเทศเป่ยหมิงจมตีจากด้านนอกดังนั้นเขาจะไม่ทำข้าแน่พูดอีกรอวันใดที่สามารถกำจัดเว่ยจู้นได้ข้าก็ไม่ใช่คนที่เขาจะทำอะไรก็ได้”

หลินซีนเยียนฟังสิ่งที่เขาพูดนางจำขึ้มาได้ว่าโม่จื่อยี่และโม่จื่อเฟิงอันที่จริงแล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแม่ของพวกเขาต่างมาจากตระกูลลึกลับบางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่ทำให้โม่จื่อเฟิงปฏิบัติต่อโม่จื่อยี่ด้วยท่าทีที่แปลกๆ

“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”โม่จื่อเฟิงพูดเสียงต่ำและเป่าลมที่ข้างๆหูนาง“อยู่ต่อหน้าข้าอย่าคิดถึงชายอื่นมิฉะนั้น……”

หลินซีนเยียนกำลังจะถามว่ามิฉะนั้นจะทำไมน่าเสียดายแค่เพียงนางอ้าปากเขาก็สอดแทรกเข้ามา

ระลอกคลื่นเคลือบคลุมทั่วห้องแม้กระทั่งแสงอาทิตย์ยังรู้สึกขวยอายขึ้นมากลางวันแสกๆแท้ๆมีชั่วแวบเดียวเมฆดำบดบังดวงตะวันทั่วท้องฟ้าแปรเปลี่ยนกลายเป็นมืดครึ้ม

ในสวนแห่งหนึ่งที่ห่างจากลานของหลินซีนเยียนไม่ไกลมากนักใบบัวเต็มสระพริ้วไหวไปตามสายลมน้ำกระเพื่อมกระจัดกระจายทำให้รู้สึกเงียบเหงาอ้างว้างอย่างไม่มีสาเหตุ

มีคนยืนอยู่บนขอบสระน้ำในมือพับใบอ่อนของใบบัวเขามองหยดน้ำบนใบบัวแกว่งไปมาแล้วร่วงหล่นบนพื้น

ข้างหลังของเขายังมีชายหนุ่มตามมาด้วยความกระวนกระวายใจชายหนุ่มอดกลั้นไว้ไม่อยู่เอ่ยด้วยใบหน้าเป็นกังวล:“คุณชายผู้หญิงสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาของท่านได้ปรากฏตัวแล้วดังนั้นนายท่านให้คนมาส่งข่าวคราวให้ท่านโดยเฉพาะว่าต้องเร่งพานางกลับไปด้วยเร็วท่านก็รู้ทั้งตระกูลรอนางผู้นี้มา10กว่าปีแล้ว……”

หลี่อวิ๋นซ่านไม่มีเสีบงตอบรับใดๆเพียงแค่ใช้แรงเบาๆใบบัวนั้นก็ถูกบีบเป็นก้อนสักครู่เขาถอนหายใจแล้วพูดว่า:“ข้ารู้แล้วข้าจะจัดการให้เร็วที่สุด”

ชายหนุ่มนั้นถึงได้รู้สึกโล่งใจพยักหน้ารับหลังจากนั้นจึงขอตัวแล้วออกไป

ในสวนนั้นหลี่อวิ๋นซ่านจ้องมองเงาสะท้อนของตนเองในสระน้ำใบหน้าที่ตื่นตระหนกเป็นใครไม่สามารถรับรู้ได้ผู้หญิงที่ถูกลิขิตผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นสามารถแก้ซะตากรรมของคนทั้งตระกูลได้จริงหรือ

คำถามของเขาไม่มีผู้ใดตอบเขาได้เขาก็ไม่เคยคาดหวังว่าจะมีผู้ใดมาตอบเช่นกัน

สามชั่วยามติดต่อกันเหล่าหลิวยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูลานของหลินซีนเยียนเขาไม่วางใจที่จะไปจริงๆถึงแม้ภายในลานนั้นจะเป็นคนที่เขาเคารพภักดีมากที่สุดอย่างอู่เซวียนอ๋อง

“เหล่าหลิวหากเจ้ายังเดินวนอยู่เช่นนี้ตาของข้าคงจะลาย”หัวหน้าโรงงานถูกเหล่าหลิวเดินวนไปมาจนทำให้ปวดตาไปหมดทนไม่ได้จึงได้ตะโกนเสียงต่ำ

“ข้าทนไม่ได้นิอู่เซวียนอ๋องก็เข้าไปตั้งสองสามชั่วยามแล้วเจ้าว่าเขาพูดคุยกันอย่างไรทำไมถึงได้นานเยี่ยงนี้!

เหล่าหลิวถามคำถามนี้แต่ทำให้หัวหน้าโรงงานมีการสนับสนุนอย่างฮึกเหิมกล้ามเนื้อบนใบหน้ายิ่งกระตุกมากขึ้น“เหล่าหลิวในฐานะที่เป็นผู้ชายข้าก็ได้เพียงแค่นับถือสมรรถภาพคงทนของท่านอ๋อง……”

“สมรรถภาพคงทน!หากข้างในเป็นผูหญิงละก็ข้าเหล่าหลิวนับถือแน่แท้แต่ว่าข้างในนั้นเป็นน้องชายข้าเหล่ายิ่งพูดก็ยิ่งเป็นกังวล“นี่มันกี่ชั่วยามแล้วร่างกายของน้องหลินจะทนได้หรือทำให้เสียเกียรติก็ช่างยังต้องให้เล่นถึงขั้นพิการไม่ได้การละข้าทนไม่ไหวแล้วข้าต้องไปหามีด!”

เหล่าหลิวพูดเสร็จก็หันหลังจากไป หัวหน้าโรงงานฟังที่พูดสักพักถึงได้สติหลังจากนั้นรีบไล่ตามไป นั้นคืออู่เซวียนอ๋อง หามีด มีดมีประโยชน์?อย่าเดือดร้อนถึงโรงงานอาวุธเป็นดีที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต