ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 323

ตอนที่323รอคอยเจ้ากลายเป็นชายาเพียงคนเดียวข้า

โม่จือเฟิงเปิดปากของเขาแล้วจากนั้นเขาก็หยุดพูดไม่ได้แล้วเขายิ้มอย่างเย็นชาแน่นอนความหายนะไม่ต้องการให้คนอื่นต่างก็เป็นความหายนะและถ้าเจ้าต้องการเอาชนะความหายนะละก็เจ้าต้องโหดเหี้ยมกว่าเขาและ!ไร้ความปรานีมากกว่า

โหดเหี้ยม...ไร้ความปรานีหลินซีนเยียนพึมพำคำเหล่านี้ดังนั้นความเฉยเมยและความโหดร้ายของเขาคือการชนะผู้ที่ทำร้ายเขารุนแรงมากกว่าคนเหล่านั้นเท่านั้นแหละความกลัวจะทำให้เขากลัวและจากนั้นเขาจะพ่ายแพ้ทีละคน!

มันเป็นกฎแห่งความอยู่รอดในสังคมหรือไม่ดังนั้นไม่ได้แข่งกันว่าใครดีกว่าใคร ใครฉลาดกว่าใครสิ่งที่แข่งกันคือใครกล้าลงมือและใครโหดเหี้ยมไร้ความปรานีมากกว่ากัน

แต่ทว่า…..

หลินซีนเยียนก้มหัวลง“หากว่ากลายเป็นหายนะข้ายังสามารถเป็นคนปกติได้หรือ”

คนที่ยังมีชีวิตอยู่ยังต้องการที่จะเป็นนางไม่ต้องการที่จะกลายเป็นเป็นสัตว์ระบาด!ดังนั้นคนอย่างนางถูกกำหนดให้ล้มเหลวดังนั้นทั้งอาจารย์และศิษย์พี่พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้สุดท้ายพวกเขาถึงได้มีสภาพจุดจบเช่นนั้น

“เจ้าเพิ่งพูดว่าความหมายของชีวิตไม่ได้สนใจเรื่องความสั้นยาวถ้าหากให้ข้าใช้ชีวิตอย่างหายนะสู้ให้ข้าตายอย่างศิษย์พี่ดีกว่า”หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะแย้งคำพูดของโม่จื่อเฟิงแต่นางไม่ต้องการให้โม่จื่อเฟิงอยู่ในความมืดเช่นนั้นดังนั้นแม้ว่านางจะลังเลก็ยังอยากดึงเขาออกมาดึงเขาออกมาจากความมืดมิด

โม่จื่อเฟิงจ้องมองที่เธอด้วยคำพูดของเขาไม่เคยพูดกับผู้คนดังนั้นเขามักจะรู้สึกว่านี่เป็นความจริงของธรรมชาติของมนุษย์เขาไม่เคยสงสัยเลยเขาได้รับแนวคิดมานานกว่า20ปีแล้ว

อย่างไรก็ตามในเวลานี้เขาจ้องหลินซีนเยียนสายตาคู่นั้นที่มีแสงสลัวๆและความห่วงใยสั่นไหวตามชั่วครู่

อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงชั่วครู่หลังจากนั้นครู่หนึ่งสายตาของเขาก็ตกสู่ลงไปในโลกมืดอีกครั้ง

พูคุยกับโม่จื่อเฟิงหลินซีนเยียนสภาพจิตใจของนางค่อยๆสงบลงนางคาดหวังว่าจะดึงโม่จื่อเฟิงหลุดพ้นจากความและนางจะดึงตัวเองออกจากความมืดด้วย

หากการจุดจบของเซียวนั้นถึงวาระแล้วสิ่งที่นางสามารถทำได้นั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับได้จริงๆอย่างไรก็ตามในครั้งสุดท้ายของเซียวฟ่านนางจะต้องให้เขาค้นพบตัวเองอย่างน้อยที่สุดนางก็ไม่สามารถปล่อยให้เขาตายไปอย่างนี้ไม่ได้

ดวงอาทิตย์ขึ้นบนท้องฟ้าและแสงแดดส่องผ่านหน้าต่างเข้าไปในบ้านคนสองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยกันให้แสงอาทิตย์จัดเค้าร่างคนสองคนทีละน้อยๆระหว่างทั้งคู่นั้นเพื่อที่จะได้พบกันอีกครั้งท่าทางทำให้คนอื่นไม่เข้าใจอยู่เสมอ

ทัศนคติของโม่จื่อเฟิงที่มีต่อหลินซีนเยียนนั้นอ่อนโยนขึ้นเรื่อยๆเมื่อหลินเซียนเยียนไปที่ห้องของเสี่ยววี่จิ่งเพื่อดูเสี่ยววี่จิงใบหน้าของเขายิ้มตั้งแต่ต้นจนจบเขาจะไม่บอกหลินซีนเยียนว่าเป็นครั้งแรกในรอบกว่า20ปีที่ผู้หญิงคนหนึ่งค่ำมืดดึกดื่นมาหาเขาไกลถึงร้อยลี้นอกจากนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่เขาชอบดังนั้นความหมายจึงแตกต่างกันมาก

เสี่ยววี่จิ่งนอนหลับสบายหยินซีนเยียนนั่งอยู่บนเตียงแล้วมองดูเขาเบาๆจนกระทั่งเวลาไม่อาจล่าช้าเธอจูบบนหน้าผากของเขาแล้วออกไป

โม่จื่อเฟิงส่งนางไปที่ประตูด้วยตนเองดูการพลิกตัวขึ้นม้าขอนางม้าเขาขมวดคิ้วแน่นเมื่อเธอคิดว่าเธอจะจากไปในไม่ช้าเขาก็มีความรู้สึกว่าอยากจะฆ่าม้าขึ้นมาทันที!ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่สนใจผู้หญิงคนนี้มากถึงเพียงนี้

“ข้าไปละ.”หลินซีนเยียนจับสายบังเหียดไว้แล้วขี่ออกไปอย่างช้าๆด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์แม้แต่นางเองยังไม่คาดหวัง

“อืม”โม่จื่อเฟิงตอบกลับสุดท้ายก็เห็นนางหันหลังแล้วจากไปค่อยๆจางหายไปเหลือแต่แผ่นหลังอยู่ส่วนลึกในสายตาของเขา

เขารู้สึกเสียใจที่ปล่อยให้นางไปทำภาระกิจที่โรงงานอาวุนั้นธยิ่งนึกถึงความพยายามของหลี่อวิ๋นซ่านที่มีต่อนางเขาก็เกลียดจนอยากจับหลี่อวิ๋นมาฉีกเป็นชิ้นๆ!

“เมื่อถึงเวลาที่เจ้ากลับมาข้าควรจัดเตรียมการให้เรียบร้อยข้ารอคอยให้เจ้าเป็นชายาเพียงคนเดียวของข้า”ประโยคนี้จางหายไปกับสายลมไม่เหลือแม้แต่ร่องลอย

แผ่นหลังของนางห่างไกลออกไปเรื่อยๆจนหลับสายตา

แต่ทว่าทั้งสองไม่รู้เลยว่าหลังจากเจอกันครั้งนี้นั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นหากเจอกันอีกครั้งความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไป

เมื่อกลับถึงโรงงานเกือบจะเที่ยงแล้วเพราะมีเหล่าหลิวค่อยดูลาดเลาให้ดังนั้นตอนที่หลินซีนเยียนกลับมาถึงไม่มีผู้ใดพบเห็นช่วงบ่ายหัวหน้าโรงงานเรียกหลินซีนเยียนเข้าไปในลานนอกจากหลินซีนเยียนในลานก็ยังมีผู้คนมากมาย

ในห้องโถงใหญ่นั้นมีหลี่อวิ๋นซ่านนั่งอยู่ด้านซ้ายมือของหัวหน้าโรงงานจากนั้นทั้งสองฝั่งต่างก็มีท่านผู้เฒ่าที่ดูหน้าเกรงขามนั่งอยู่ข้างๆท่านผู้เฒ่าเหล่านั้นมีคนที่หลินซีนเยียนคุ้นเคยอยู่เซียนฝาน

และนี้ก็เป็นครั้งแรกที่หลินซีนเยียนได้เห็นเซียวฝานอยู่ข้างนอกลานของเขาแววตาของเขายังคงเหม่อลอยเหมือนเดิมแต่เมื่อเทียบกับเมื่อคืนดูเหมือนว่าปกติขึ้นมากเพียงแต่ไม่รู้ว่าภายใต้ความปกตินี้เขายังมีจิตใจและสติสัมปชัญญะเท่าใดหรือไม่เพียงแค่มองแล้วเหมือนปกติ

“ช่างหลินมาแล้วหาที่นั่งเร็ว”หัวหน้าพูดเสร็จทันใดนั้นเสี่ยวซือเคลื่อนเก้าอี้ให้นาง

หลินซีนเยียนขอบใจเขาแต่สายตายังคงจ้องมองเซียวฝานอย่างไม่วางตาอย่างไรก็ตามเซียวฝานนั้นกำหนดจิตใจให้อยู่รวมกันไม่วอกแวกดูเหมือนว่าไม่ใส่ใจสิ่งรอบข้างใดๆสายตาวางเปล่านั้นเพียงจดจ่ออยู่ที่เดียวเท่านั้น

สายตาของหลี่อวิ๋นซ่านไล่มองตามหลินซีนเยียนเห็นหลินซีนเยียนจ้องมองเซียวฝานไม่วางตาเขาขมวดคิ้วจนเกิดรอยย่นจากนั้นหันไปทางด้านหัวหน้าโรงงานแล้วพูด:“ในเมื่อคนมาใกล้ครบแล้วข้าว่าหัวโรงงานเริ่มพูดเนื้อหาสำคัญได้แล้ว”

“ได้”หัวหน้าโรงงานขานรับแล้วพูดกับทุกคนด้วยเสียงสดใส”ข้าจะไม่กล่าวให้มากความทุกนั่งอยู่ในนี้ทุกคนล้วนเป็นช่างที่มีฝีมือในโรงงานอาวุธของพวกเรา นอกจากนี้ยังเป็นคนที่จริงใจที่สุดในโรงงานอาวุธของเราดังนั้นข้าก็จะขอเข้าประเด็นเลยแล้วกันทุกคนต่างรู้ถึงความสำคัญของเกิงจีนในการผลิตอาวุธแต่เกิงจีนที่อยู่ในโรงงานอาวุธใกล้ใช้หมดแล้วดังนั้นถึงเวลาที่ต้องไปรวบรวมเกิงจีนอีกครั้ง

ทุกคนต่างมองหน้ากันดูเหมือนว่าต่างก็ไม่เข้าใจว่าการรวบรวมเกิงจีนเรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกับช่างอย่างพวกเขาเหล่านี้ทุกครั้งที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นใต้เท้าหลี่ไปซื้อกลับมาไม่ใช่หรือ

ครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะยังเป็นใต้เท้าหลี่ที่ไปซื้อเกิงจีนแต่ว่าร้านที่ขายนั้นได้เสนอคำขอว่าอยากได้อาวุธที่พกพาสะดวกชิ้นหนึ่งหากทำได้ดีละก็เกิงจีนชุดนี้เขาจะส่งมอบให้เราด้วยโดยไม่ต้องจ่ายเงินและบุคคลนั้นจะไม่มาที่นี่ ต้องการให้ช่างฝีมือของเราไปทำที่ซานเมิน ดังนั้นถึงได้เรียกทุกคนมารวมตัวกันเพื่อเลือกผู้มีฝีมือไม่กี่คนติดตามใต้เท้าหลี่ไปซื้อ”หลังจากหัวโรงงานกล่าวถึงสาเหตุและผลทุกคนถึงได้ตระหนักทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต