ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 332

ตอนที่332เจ้าหน้าที่ขี้อาย

เหล่าหลิวยิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อยจับหลังหัวตัวเองไปมาพูดว่า:“มั่นใจแน่นอนข้าเห็นพวกเขาเข้าไปจริงๆข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ก็แค่หอคณิกาไม่ใช่หรือ?สถานที่เช่นนี้ผู้หญิงเห็นแล้วอาจจะรู้สึกอึดอัดแต่พวกเราล้วนเป็นชายฉกรรจ์ใครยังไม่เคยเข้าไปลิ้มลองบ้าง?”

ผู้ชายทุกคนเคยเข้าหอคณิกา?

หลินซีนเยียนกระตุกยิ้มมุมปากการคิดเช่นนี้อาจะไร้สาระไปน้อยแต่ว่าเมื่อนางคิดอย่างละเลียดอีกทีก็อย่างว่าโลกของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นแตกต่างกัน

“ปะพวกเราก็เข้าไปดูกัน”หลินซีนเยียนยกเท้าแล้วก้าวไปทางหอคณิกาสองสาวที่ยืนต้อนรับแขกอยู่หน้าประตูก็รีบเข้ามาขนับข้างทั้งซ้ายขวาของนางตัวนางแข็งทื่อแต่ก็โล่งใจอย่างรวดเร็วก็แค่หญิงสาวเท่านั้นอีกอย่างนางก็เป็นผู้หญิงดังนั้นจึงไม่ได้สนใจมากนั

แต่ว่า….เมื่อนางหันกลับไปมองเหล่าหลิวที่เดินตามมาก็เห็นว่าเหล่าหลิวนั้นตัวเกร็งเพราะถูกหญิงสาวคนหนึ่งโอบแขนไว้เหล่าหลิวก็แค่ฝีปากกล้าเท่านั้นเมื่อต้องแบกปืนขึ้นม้าจริงๆเขาก็ไม่ได้มีความกล้าเช่นนั้น

หลินซีนเยียนรู้สึกขันยิ่งนักได้แต่ส่ายหัวไปมาแล้วเข้าไปข้างในทางกลางหญิงสาวเหล่านี้นางหยิบตั๋วเงินในแขนเสื้อวางบนมือของแมงดาเมื่อแมงดาเห็นตั๋วเงินก็หูตาแพรวพราวรีบพาทั้งสองขึ้นไปบนห้องชั้นสองทันที

เหล่าหลิวที่เดินตามมามองตั๋วเงินแวบเดียวก็ตะลึงตาค้างเมื่อทั้งสองเข้าไปในห้องที่เหมาไว้เหล่าหลิวก็รีบถามหลินซีนเยียนทันที:“น้องหลินเจ้าไปเอาตั๋วเงินมากมายเช่นนั้นมาจากไหน?”

“พี่หลิวเจ้าคงไม่คิดว่าข้าเป็นเพียงช่างฝีมือเล็กๆคนหนึ่ง?”หลินซีนเยียนแกล้งทำเป็นกะพริบตาอย่างลึกลับคำพูดของนางทำให้เหล่าหลิวตกใจ“ก็จริงหากเจ้าเป็นเพียงช่างฝีมือธรรมดาทั่วไปโหวเยว่ก็คงไม่มอบหมายหน้าที่สำคัญเช่นนี้ให้เจ้าทำ”

หลินซีนเยียนหัวเราะเบาๆไม่เอ่ยใดๆความรู้สึกลึกๆในใจของนางอาจเพราะว่านางเป็นชายาของอู๋เซวียนอ๋องตั้งแต่แต่งกับโม่จื่อเฟิงตั๋วเงินเหล่านี้สำหรับนางแล้วก็ไม่มีค่าอะไรนี่ก็นับว่าเป็นการพึ่งบุญวาสนาของโมจื่อเฟิงในที่สุดก็พึ่งผู้ชายจนกลายเป็นกึ่งเจ้าพ่อท้องถิ่น

หน้าต่างของห้องหรูหราที่ชั้นสองมองลงไปตรงกับห้องโถงชั้นล่างพอดีหลินซีนเยียนมาถึงข้างหน้าต่างแล้วเปิดหน้าต่างแวบเดียวก็เห็นบรรยากาศด้วยรอบห้องโถงอย่างชัดเจนแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเซียวฝานดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่อยู่ที่ห้องโถง

“เจ้าพวกเขามาทำไรกันที่หอคณิกานี่?”เหล่าหลิวจิบชาไปด้วยนั่งขมวดคิ้วใช้ความคิดไปด้วย

หลินซีนเยียนส่ายหัวไปมาความคิดล่องลอยไปไกลทำสมาธิสักพักแล้วพูด:“หอคณิกามีผู้คนมากมายปะปนสับสนวุ่นวายกันไปหมดหากไม่ได้มาเที่ยวหาหญิงสาวเป็นไปได้หรือไหมว่า….จะมาพบใคร?”

เมื่อนางพูดเช่นนี้เหล่าหลิวมาครุ่นคิดก็รู้สึกว่ามันก็มีเหตุผลแล้วเขาพูดต่อว่า:“แต่ว่าหอคณิกาใหญ่โตและมีห้องมากมายเช่นนี้พวกเราจะหาพวกเขาทั้งสามคนเจออย่างไรคงไม่ใช่ว่าเข้าไปดูทีละห้อง?”

หลินซีนเยียนปิดหน้าต่างแล้วกลับมาที่ห้องทบทวนสักพักเพียงก้าวขาสายตาก็ส่องประกายนางรู้สึกโชคดีที่ตัวเองนั้นชอบดูนวนิยายมีเรื่องหนึ่งที่ตอนท้ายมีวิธีการจัดการกับสถานการณ์เช่นนี้

“ข้ามีวิธี”นางยิ้มออกมาเบาๆสีหน้าแสดงความได้ใจออกมา

เหล่าหลิวสูดลมหายใจเข้าแล้วจ้องมองนางรอฟังนางพูดต่อ

หลินซีนเยียนโบกมือเรียกเหล่าหลิวเมื่อเหล่าหลิวยื่นหูมานางถึงได้กระซิบที่ข้างหูเขาสองสามประโยคเมื่อนั้นเหล่าหลิวสีหน้าของเหล่าหลิวปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาทันทีแล้วไม่ลืมยกนิ้วมือให้กับหลินซีนเยียนแล้วพูดต่อว่า“ยอดเยี่ยม!ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

“ถ้าเจ้าคิดว่าใช้ได้ก็รีบไปเร็ว”หลินซีนเยียนเร่งเขา

เหล่าหลิวตอบรับแล้วออกจากห้องไป

หลินซีนเยียนยกน้ำชามาถึงหน้าประตูแล้วยืนอยู่ด้านข้างของประตูสายตาจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของห้องส่วนตัวเหล่านั้น

“ไฟไหม้!”ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนออกมาจากทางด้านหลังร้านและมีควันจางจางลอยฟุ่งออกมา

เพียงชั่วพริบตาทั้งหอคณิกาก็วุ่นวายแขกในห้องโถงต่างตกใจเริ่มวิ่งหนีออกไปทางด้านนอกแขกที่อยู่ในห้องส่วนตัวทั้งหลายต่างรีบร้อนเปิดประตูออกมาดูสถานการณ์

ช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่นั้นแม่เล้าของหอคณิกาก็รีบออกมายังประตูทางเข้าห้องโถงตะโกนว่า:“ทุกท่านไม่ต้องกังวลเป็นเรื่องเข้าใจผิดเข้าใจผิดเฉยๆแค่เทียนล้มเผาผ้าม่านผืนเดียวเท่านั้นตอนนี้ไฟได้รับการดับมอดไปแล้วทุกท่านไม่ต้องตกใจเชิญสนุกได้!

ทุกคนได้ยินเช่นนั้นต่างก็บ่นและแยกย้ายกลับไปในที่ของตนเองในเมื่อเงินก็จ่ายไปแล้วจะไปทั้งอย่างนี้หรือก็เสียเปล่านะสิ?

แขกที่อยู่ห้องส่วนตัวต่างก็แยกย้ายกลับในห้องของตนเองความวุ่ยวายมาอย่างรวดเร็วก็ไหายปอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าไม่ได้ทำให้ผู้ใดสนใจได้เลย

หลังจากนั้นสักพักเหล่าหลิวก็กลับมาจากหลังร้านเขาถามหลินเซียนอย่างร้อนใจ“เป็นอย่างไรบ้าง?”

หลินซีนเยียนพยักหน้าและยกมือขึ้นแล้วชี้ไปที่ห้องพักส่วนตัวที่อยู่ท้ายสุดของทางเดิน"เมื่อหลังร้านเกิดไฟไหม้มีเพียงคนในห้องนั้นที่ไม่ได้ออกมาตรวจสอบสถานการณ์ทันทีแขกห้องอื่นๆต่างออกมากันหมดแต่ไม่มีคนที่เรากำลังตามหามีห้องพักมากมายที่นี่ดังนั้นข้าคิดว่าเสี่ยวต้าเจียต้องอยู่ในห้องนั้นแน่นอน”

เหล่าหลิวอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้หลินซีนเยียน“น้องหลินคิดไม่ถึงว่าเจ้าจะคิดวิธีดีๆเช่นนี้ได้ข้าเพียงแค่ไปจุดไฟหลังร้านก็สามารถเจอคนที่พวกเราตามหาได้แล้วและยังไม่ทำให้ผู้อื่นตื่นตระหนกอีก!วิธีการนี้ทำให้ข้าเหล่าหลิวนับถือจริงๆ

หลินซีนเยียนหัวเราะฮิๆที่จริงนางไฉนเลยจะฉลาดเช่นนี้ก็แค่ดูหนังในยุคปัจจุบันมากไปเท่านั้นเองในสังคมยุคสมัยปัจจุบันนั้นช่องทางข่าวสารมีมากมายมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดังนั้นความรู้ของคนปกติทั่วไปก็ย่อมมีมากกว่าคนที่นี่นางเพียงใช้ประโชน์จากข้อนี้เท่านั้นเหมือนโม่จือเฟิงเช่นนั้นเจ้าเล่ห์แต่กำเนิดถึงเป็นคนฉลาดจริงๆ

นางก็เป็นเพียงคนธรรมดานอกจากมีความสามารถพิเศษอย่างอื่นนางก็ไม่ได้มีอะไรเกินมนุษย์นางไม่ใช่นางเอกที่ข้ามภพในนวนิยายเหล่านั้นที่มีความสามารถในการใช้พลังหลากหลายที่จริงนางก็เป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้นในโลกนี้จะมีอัจฉริยะมากมายได้อย่างไร?คนส่วนใหญ่ก็เป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไปเท่านั้น

ช่วงเวลาที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้นแม่เล้ากำลังพาสาวงามนับสิบมาทางนี้ตั๋วเงินที่หลินซีนเยียนให้นั้นทำให้เขากระตือรือร้นมากหญิงงามทั้งหลายผลักหลินซีนเยียนและหล่าหลิวเข้าไปกลางห้อง

“โอ้แขกทั้งสองยังขี้อายอีกด้วย”แม่เล้าใช้ผ้าปิดปากแล้วหัวเราะจากนั้นก็จับแขนนางแล้วผลักนางไปท่ามกลางหญิงงามทั้งหลาย“สาวสาวทั้งหลายเจ้าหน้าที่ขี้อายพวกเจ้ากระตือรือร้นน้อย”

หญิงงามต่างส่งเสียงเเจี๊ยวจ๊าวราวกับอยู่เทศกาลดอกไม้ไฟจับหลินซีนเยียนเอาไว้ได้ก็เริ่มที่จะลงมือถอดเสื้อผ้าของนางทำให้หลินซีนเยียนตกใจหน้าซีดทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต