ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 336

ตอนที่336ตระกูลหลิงเซียงหนาน

แค่ได้ยินเสียงหนึ่งในองครักษ์ตะโกนคนที่เหลือก็เคลื่อนตัวเข้าไปจะทำร้ายหลี่อวี๋นซ่าน

เมื่อหลินซีนเยียนกังวลจนเหงื่อตกเพราะหลี่อวี๋นซ่านเหตุการณ์ที่ทำให้นางตกตะลึงปรากฏออกมาแล้วเห็นเพียงพวกองครักษ์ตะโกนให้กระจายตัวแยกออกจากกันไปทั้งสี่ทิศพุ่งถึงข้างตัวหลี่อวี๋นซ่านจะลงมือกับเขาอีกทั้งจังหวะที่ถอยหลังหมัดองครักษ์สองคนในกลุ่มมีเลือดสดๆหยดลงมา

หลายคนไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ร่างหลี่อวี๋นซ่านยืนตรงแล้วพูดเสียงเย็นชา“ข้าถูกคนรังแกถึงขนาดนี้แล้วพวกเจ้ายังไม่ออกมาอีกรึ?”

หลินซีนเยียนมองไปรอบๆอย่างรู้สึกสงสัยข้างกายหลี่อวิ๋นซ่านมีผู้พิทักษ์ลับอยู่อย่างนั้นหรือ?แต่ดูเหมือนไม่น่าแปลกใจเขาเป็นหนึ่งลูกท่านหลานเธอของตระกูลขุนนางลึกลับจะมีผู้พิทักษ์ลับหลายคนข้างกายก็คงปกติแต่เห็นหลี่อวี๋นซ่านใช้วิธีนี้ดูเหมือนในวันปกติคนอยู่ในพื้นที่ลับจะเข้ามาข้องเกี่ยวเรื่องของเขาไม่ได้มีแค่เมื่อเขาพบกับอันตรายถึงจะออกมาช่วยชีวิตได้

ในตอนนั้นหลินซีนเยียนไม่รู้ที่นางคาดคะเนนั้นใกล้เคียงที่แท้หลี่อวี๋นซ่านถือเป็นลูกหลานของตระกูลที่เดินทางไปต่างถิ่นมีประสบการณ์อย่างโชกโชนรอบตัวไม่มีคนปกป้องเพราะสำหรับตระกูลแม้แต่ตัวเองคนเดียวยังไม่สามารถปกป้องได้ก็ไม่มีคุณสมบัติสืบทอดมรดาของตระกูลแต่ครั้งก่อนหลี่อวี๋นซ่านถูกโม่จื่อเฟิงทุบตีบาดเจ็บถ้าไม่ใช่เกราะกระจกนั่นเขาคงเป็นคนตายไปแล้ว

ด้วยอิทธิพลของตระกูลไม่ยอมให้เขาใช้ผู้พิทักษ์ลับแต่พ่อของเขาเป็นหัวหน้าตระกูลหลี่คนปัจจุบันดังนั้นจึงแอบส่งผู้พิทักษ์ลับของตัวเองสองสามคนให้อยู่กับหลี่อวี๋นซ่านเรื่องนี้ภายหลังหลินซีนเยียนได้ฟังจากปากหลี่อวี๋นซ่านแล้ว

ตอนที่หลี่อวี๋นซ่านพูดจบเป็นไปตามที่คาดคิดรอบตัวเขาก็ปรากฏคนชุดดำสามคนในเวลาชั่วพริบตาเดียวคนชุดดำสามคนนี้มีฝีมือชั้นสูงกว่าองครักษ์ของอวิ๋เทียนซีอย่างเห็นได้ชัดเพราะพลังที่ทั้งสามคนสำแดงออกมาทั้งเลือดเย็นทั้งเหี้ยมโหดดวงตาทั้งคู่นั้นทั้งเด็ดเดี่ยวและกระหายเลือด

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”อวิ๋นเทียนสี่เห็นผู้พิทักษ์ลับหลายคนในเวลาชั่วพริบตาเดียวก็รู้ว่าวันนี้เกรงว่าตัวเองจะไม่ระวังตัวเข้าเสียแล้วต้องรู้แน่ว่าเขาเป็นเจ้าสำนักศาลาความลับแห่งสวรรค์ยังไม่สามารถมีผู้พิทักษ์ลับไว้ครอบครองอย่างนี้ได้แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับมีอยู่ข้างกาย

มีผู้พิทักษ์ลับพวกนี้ใช่ว่าทุกคนจะมีไว้ครอบครองได้เพราะการเลี้ยงฝึกผู้พิทักษ์ลับไว้เป็นเรื่องฝืนธรรมชาติอย่างยิ่งจำเป็นต้องคัดเลือกเด็กอายุต่ำกว่าสามขวบมาฝึกฝนอย่างเข้มงวดโหดเหี้ยมไม่เพียงแต่ฝึกวิทยายุทธแห่งขุนเขาแต่ยังต้องมีนิสัยอดทนอดกลั้นเพราะทั้งชีวิตของผู้พิทักษ์ลับคนหนึ่งต้องอยู่ในสถานที่อันมืดมิดไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างซื่อตรงและเปิดเผยได้คามทรมานในจิตใจยากลำบากกว่าฝึกฝนวรยุทธมากนัก

ดังนั้นการเลี้ยงผู้พิทักษ์ลับคนหนึ่งจะต้องทุ่มเทกำลังและสติปัญญาหลายสิบปีปกติมีเพียงคนในราชวงศ์และกูลขุนนางลับบางพวกถึงสามารถเลี้ยงผู้พิทักษ์ลับไว้ให้เชื่องได้สำนักทั่วไปสามารถมีเพียงแค่องครักษ์ฝีมือดีสักหน่อยเท่านั้นเอง

“ข้าเป็นใครมันก็ไม่ใช่กงการอะไรของเจ้า!”เสียงหลี่อวี๋นซ่านไม่พอใจเดินตรงไปด้านหลังคำพูดของเขาทำให้หลินซีนเยียนระบายความโกรธออกมาไม่น้อยในทันที

เจ้าสำนักที่บัญชาการศาลาความลับแห่งสวรรค์มีนามเรียกขานว่าตาเฒ่าลามกโสมมหลินซีนเยียนอยากยกนิ้วโป้งชมเขาสักทีจริงๆ

อวิ๋นเทียนสี่โกรธไม่เบาเห็นพวกองครักษ์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกผู้พิทักษ์ลับอย่างชัดเจนแล้วจึงกัดฟันล้วงอาวุธขนาดใหญ่ออกมาจากหน้าอก

หลินซีนเยียนมองอาวุธในมือเขารูม่านตาดำขยายในพริบตานี่ไม่ใช่ภาพฉบับย่อธนูที่นางเคยมีโอกาสวาดที่ศาลาความลับแห่งสวรรค์รึนึกไม่ถึงว่าจะอยู่ในมืออวิ๋นเทียนสี่เสียแล้วนางคิดว่ากระดาษวาดรูปนี้อวิ๋นเทียนฉี่ใช้วิธีคว้าแย่งไปจากมือเซียวฝานอย่างแน่นอน

“ระวัง!”นางทนไม่ได้รีบเตือน“ธนูสั้นในมือเขายิงได้ติดกันสิบแปดครั้ง!”

หลี่อวิ๋นซ่านอึ้งงงขมวดหัวคิ้วขึ้นมา

กลับเป็นอวิ๋นเทียนสี่หน้าเขาตกใจราวกับพึ่งนึกได้ว่าหลินซีนเยียนอยู่ด้วยแต่สำหรับเขาหลินซีนเยียนที่ใช้หน้ากากปกปิดใบหน้าเป็นเพียงคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็น“เจ้าเป็นใครอีก?”คาดไม่ถึงว่าคำพูดประโยคเดียวที่ออกมานี้แม้แต่กลไกของธนูนางก็รู้ของสิ่งนี้เป็นของที่เขาพึ่งทำออกมาได้ไม่นานและไม่เคยปรากฏอยู่บนท้องตลาด

“พวกเจ้ายังงงอะไรกัน?”หลี่อวิ๋นซ่านกลับไม่เปิดโอกาสให้อวิ๋นเทียนสี่พูดมากกว่านี้โบกมือตัวเองเห็นเพียงฝ่ามือเขาโบกไปทั้งสองข้างเพราะก่อนหน้านี้องครักษ์รวมกลุ่มต่อสู้และผิวถูกขูดข่วนไปขนาดเท่านิ้ว“ข้าบาดเจ็บแล้วพวกเจ้ายังไม่ลงมือ?อย่าลืมล่ะพ่อข้าเคยพูดถ้าข้าบาดเจ็บแม้เพียงนิดเดียวพวกเจ้าต้องลงมือช่วยข้า!”

ผู้พิทักษ์ลับทั้งสามคนต่างเงียบหลี่อวี๋นซ่านแค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้นเองพูดตามตรงแล้วกะอีแค่พวกเขาลงมือเท่านั้นเองแม้ในใจขัดขืนแต่ชีวิตของเจ้านายพวเขากลับจำเป็นต้องทำ

“องศายิงของธนูก็ยิงได้แค่หนึ่งร้อยแปดสิบองศานี่คืออันตรายที่เจ้าเห็นตรงหน้า!อีกอย่างมุมองศายิงของธนูจะปรับเสร็จในช่วงสั้นๆตอนก่อนธนูสั้นจะยิงออกมาจะปรับไม่ได้อีก”ตอนที่ผู้พิทักษ์ลับกำลังต่อสู้หลินซีนเยียนเตือนทันที

มีคำชี้แนะของนางผู้พิทักษ์ลับทั้งสามคนเข้าใจทันทีเข้าไปจับโจรจับหัวหน้าทั้งสามคนพุ่งเข้าไปทางอวิ๋นเทียนสี่และทั้งพวกเขาฉลาดมากไม่เข้าโจมตีอวิ๋นเทียนสี่ซึ่งๆหน้าแต่กระโดดขึ้นไปบนหัวอวิ๋นเทียนสี่แล้วค่อยพุ่งไปที่ด้านบนปักลงไปบนหัวอย่างจังๆ

อวิ๋นเทียนสี่จะคิดถึงได้ที่ใดกันธนูที่เขาเอาไว้ใช้ปกป้องชีวิตสุดท้ายถูกคนทำลายไปอย่างง่ายดายขนาดนี้ตอนที่ผู้พิทักษ์ลับก้มตัวพุ่งลงเขาจะเปลี่ยนขอบเขตยิงธนูก็ไม่อาจทำได้ทำได้แต่ถลึงตามองผู้พิทักษ์ลับทั้งสามคนก้มตัวลงมาจากฟากฟ้าและดิ่งลงมาใช้วิทยายุทธปราบเพียงแค่พริบตาเดียวก็จับกุมเขาได้แล้ว

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”อวิ๋นเทียนสี่ถูกสามคนกดอยู่บนพื้นธนูในมือก็โยนออกไปแล้วเขาดิ้นรนเงยหัวมาทางหลินซีนเยียน“เจ้ารู้กลไกของธนูได้อย่างไร?เจ้ากับศาลาความลับแห่งสวรรค์มีอะไรเกี่ยวข้องกัน?”

อวิ๋นเทียนสี่ถูกปราบจนพ่ายองครักษ์ของเขาก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

มองอวิ๋นเทียนที่ถูกกดลงบนพื้นความเกลียดแค้นในตาหลินซีนเยียนยิ่งแข็งกร้าวมากขึ้นจนกระทั่งนางหยิบธนูขึ้นมาจากพื้นตามสัญชาตญาณหลังจากนั้นให้หัวธนูชี้ไปที่หัวคิ้วอวิ๋นเทียนสี่เพียงแค่นางเหนี่ยวไกปืนเบาๆศัตรูที่ทำร้ายอาจารย์นางจนตายก็ลงสู่ขุมนรกอเวจีทันที!

“เจ้าเจ้าฆ่าข้าไม่ได้นะ!ข้าเป็นเจ้าสำนักศาลาความลับแห่งสวรรค์ถ้าเจ้าฆ่าข้าเจ้าก็เป็นศัตรูกับกำลังทั้งหมดของศาลาความลับแห่งสวรรค์ไปก็แล้วกัน!”อวิ๋นเทียนสี่จำใจทำได้แค่เสนอตัวเอง

เพียงแค่หลินซีนเยียนได้ยินชักมุมปากยิ้มเย็นชาความปรารถนาอยากฆ่าในดวงตายิ่ง“เจ้าตายแล้วศาลาความลับแห่งสวรรค์คงแตกแยกกันยังจะพูดถึงกำลังอะไรอีก?”

“ฮ่าๆๆ...”อวิ๋นเทียนสี่ได้ยินก็หัวเราะทันที“ช่างเป็นเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจริงๆเจ้าคงไม่คิดว่าเพียงตาเฒ่าอย่างข้าคนเดียวจะสามารถควบคุมศาลาความลับสวรรค์ไว้ได้หรอกนะ?เจ้าน่าจะเคยได้ยินตระกูลหลิงเซียงหนานหรือไม่?”ตอนที่เขาพูดไม่ได้มองหลินซีนเยียนแต่มองไปทางหลี่อวี๋นซ่านราวกับว่าจะพูดประโยคนี้กับเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต