ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 350

ตอนที่350ให้ความพอใจ

หลี่อวี๋นซ่านเอาหัวเข้าใกล้บนหน้าอกนางแม้ร่างกายจะอ่อนแอแต่หูไวตาไวได้ยินทุกคำพูดของนางรู้สึกถึงความร้อนแผ่มาจากร่างกายนางเขาถึงกับหวังให้เวลาหยุดไว้ตรงนี้

“เจ้ายืนขึ้นมาได้หรือไม่?”แต่น่าเสียดายคำถามหลินซีนเยียนทำลายฝันของเขานางค่อยๆผลักเขาออก

แววตาหลี่อวี๋นซ่านมืดมัวลงทันทีเขาถ่วงเวลาไม่ขยับตัวทันทีและพูด“ที่หน้าอกข้ามียาเม็ดบำรุงเลือดขวดหนึ่งเจ้าให้ข้ากินเม็ดหนึ่งคงลุกขึ้นมาได้”

หลินซีนเยียนพยักหน้าไม่สนเรื่องความแตกต่างระหว่างชายหญิงเอื้อมมือล้วงเข้าไปหยิบขวดลายครามเล็กๆออกมา“นี่ใช่หรือไม่?”เห็นหลี่อวี๋นซ่านพยักหน้านางถึงเทยาออกมาเม็ดหนึ่งจากในขวดลายครามมาป้อนให้เขากิน

ผลของยาเม็ดดีถนัดหลี่อวี๋นซ่านถ่วงเวลาไม่นานหลังจากนั้นหลินซีนเยยียนพยุงให้ยืนขึ้นมา สามคนเดินตามเส้นทางที่พวกเขามา

อาจเป็นเพราะเวลาอยู่ในถ้ำนานดังนั้นตอนที่พวกเขาเดินออกมาจากถ้ำภูเขาไม่นานมีเสียงกับดักเริ่มดังครันครืนขึ้นมาจากด้านหลังทั้งสามคนก็ไม่เสียเวลาคุยกันมากกว่านี้และออกไปทางด้านหน้าอย่างสุดชีวิตจนกระทั่งตอนฝีเท้าก้าวออกจากปากถ้ำภูเขาได้ทั้งสามคนหอบหายใจแรง

ตอนกลับไปมองอีกครั้งก็เข้าไปในปากถ้ำภูเขาทั้งสองฟากมีหนามแหลมปรากฏออกมาแวบหนึ่งเหมือนกับดักจะกลับมาทำงานหมดแล้วใช้เวลาเข้าไปได้แค่หนึ่งชั่วโมงตามที่คิดไว้จริงๆ

หลี่ห่ายนำเกิงจีนเต็มหีบมัดไว้กับหลังอูฐหลังจากนั้นพาอูฐของหลี่อวี๋นซ่านไปที่ด้านหลังอูฐของตัวเองเขาประคองหลี่อวี๋นซ่านขึ้นไปบนหลังอูฐแล้วพูดกับหลินซีนเยียน“แม่นางหลินตอนเดินทางกลับครั้งนี้ต้องรบกวนเจ้าดูแลนายน้อยด้วยแล้ว”

ครั้งนี้ที่เขาเรียกไม่ใช่หลานรักแต่เป็นนายน้อย

สายตาหลี่อวี๋นซ่านแฝงความแปลกใจพยักหน้าให้หลี่ห่ายอย่างปล่อยวางทันที

“อื้มข้ารู้แล้ว”หลินซีนเยียนตอบรับหลี่ห่ายประคองนางขึ้นอูฐ

หลี่ห่ายกำลังขี่อูฐขึ้นไปทางด้านหน้าหลินซีนเยียนที่กำลังพยุงหลี่อวี๋นซ่านนั่งอยู่บนอูฐตัวหลังถูกฉุดดึงให้เดินไปข้างหน้าความเร็วช้ากว่าตอนมามาก

กลางหุบเขามืดมากเหมือนเดิมคบไฟข้างอูฐทั้งสองตัวเป็นแหล่งที่มีแสงเพียงจุดเดียว

“ท่านอา”ไปดินแดนมรณะ”หลี่อวี๋นซ่านอ่อนแอแต่ยังกรานจะพูด

หลี่ห่ายหันกลับมาสงสัย“ไปด้วยเหตุใดเจ้าบาดเจ็บหนักต้องรีบออกไปหาหมอมารักษาเจ้าถึงจะถูกและสถานที่คนตายนั้นมัน.....”

“ข้าไม่เป็นไรข้ายังเรื่องหนึ่งที่ยังทำไม่เสร็จ”ตอนหลี่อวี๋นซ่านพูดเขามองหลินซีนเยียนโดยไม่รู้ตัว

หลินซีนเยียนรู้ที่เขาพูดคือเรื่องจะช่วยนางจัดการกับคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์“เจ้าบาดเจ็บร้ายแรงนักเรื่องจัดการพวกเขายังมีโอกาสหลัง”แม้ไม่ยอมแต่หลินซีนเยียนกลับไม่อยากให้หลี่อวี๋นซ่านไปเสี่ยงชีวิตอย่างนี้เพื่อนางอีกบางอย่างนางชดใช้คืนให้ไม่ได้

แต่หลี่อวี๋นซ่านกลับส่ายหน้าไม่ยอม“ไม่!เรื่องที่ข้าเคยสัญญากับเจ้าแล้วว่าจะทำให้ได้!”

“ไม่ต้องหรอก!”ความแค้นของนาง นางต้องไปขอร้องโม่จื่อเฟงไม่อยากให้หลี่อวี๋นซ่านทำอะไรเพื่อนางอีกด้วย

ความโกรธไร้เหตุผลของนางทำให้แววตาหลี่อวี๋นซ่านยิ่งเผยความท้อแท้เขาเงียบไปครู่หนึ่งมุมปากยิ้มเศร้า“ใช่สิไม่มีข้า เจ้าก็ยังมีสามีของเจ้าเขาคงทำทุกอย่างเพื่อเจ้าได้”

หลินซีนเยียนไม่ตอบคำถามนี้เพราะไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหนดีสำหรับโม่จื่อเฟงนางรักเดียวใจเดียวไปแล้วในหัวใจไม่อาจปันใจให้คนอื่นอีกฉะนั้นจะติดค้างอะไรก็ช่างมันเถอะความแค้นก็ยังเป็นของตัวนางเองจะลากหลี่อวี๋นซ่านมาทำผิดด้วยคงไม่คุ้มกัน

“ท่านอาไปสถานที่คนตาย”ตอนที่หลินซีนเยียนเงียบหลี่อวี๋นซ่านยังมีคำสั่งเหมือนเดิม

หน้าหลี่ห่ายดูไม่เห็นด้วยแต่สุดท้ายยังถอนหายใจหงุดหงิดแล้วขี่อูฐเปลี่ยนเส้นทางเสียงท้อแท้หมดหวังพ่นออกมาจากปากเขา“แม่นางหลินเจ้าก็อย่าบ่ายเบี่ยงไปเลยอย่างไรถ้าเจ้าแต่งงานเป็นภรรยาไปแล้วและนายน้อยตระกูลข้าคงไม่มีโอกาสอีกแล้วแต่ข้าดูออกนายน้อยจริงใจกับเจ้า เจ้าควรทำให้เขาหยุดเก็บความเศร้าเสียใจเอาไว้ในใจนะหลังจากออกจากหุบเขาจิตวิญญาณจันทราไปก็ทางใครทางมันในอนาคตเจ้าสองคนอาจจะมีโอกาสได้พบกันอีก

หลินซีนเยียนอยากปฏิเสธแต่ฟังคำพูดของหลี่ห่ายก็เงียบไปนางกลัวว่าจะเป็นหนี้บุญคุณใจหลี่อวี๋นซ่านไม่กลัวผูกติดเสียใจที่ไหนกัน

เหมือนพวกชายหญิงที่แยกทางกันมักจะทำเรื่องพวกปาฏิหาริย์เหลือเชื่อมาเซ่นไหว้บูชาความรักที่ตัวเองใกล้จะสูญเสียไป

นางถอนหายใจสุดท้ายก็ยังเงียบต่อไปหลี่อวี๋นซ่านจัดการเรื่องมากมายเพื่อนางนี่เป็นครั้งสุดท้ายก็ควรจะพอใจความรักในช่วงเวลาหนึ่งของเขาแล้วล่ะ

ทั้งสามคนเดินทางท่ามกลางความมืดด้านหลังมีเสียงแผ่วเบาดังขึ้นมาโดยบังเอิญแม้แต่หลินซีนเยียนรู้สึกถึงภัยเข้าใกล้ตัวไม่ต้องพูดถึงหลี่ห่ายและหลี่อวี๋นซ่านที่สามารถต่อสู้ได้เลย

หัวคิ้วนางขมวดจนจะพันกันจะหันกลับไปแต่ถูกหลี่อวี๋นซ่านดึงแขนเสื้อไว้เขาบอกเป็นนัยให้นางทำเป็นไม่รู้ ใจหลินซีนเยียนร้อนรนจมูกกลับได้กลิ่นคุ้นเคยอย่างฉับพลันแค่แวบเดียวหลินซีนเยียนรู้แล้วว่าคนที่ตามมาอยู่ด้านหลังน่าจะเป็นคนของศาลาความลับแห่งสวรรค์

ท้องฟ้ามืดแล้วโรคคนแก่ของเซียวฝานกำเริบแล้วล่ะดังนั้นกลิ่นนั่นต้องออกมาจากตัวเขาแน่นอน

ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มืดมิดอย่างนี้พวกเขาจุดคบไฟไว้ระดับสูงเป็นธรรมดาที่จะดึงดูดพวกกลุ่มทหารไล่ตามมาได้รวดเร็วมากและกลุ่มหมอกหนากลับกลายเป็นที่กำบังที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับพวกเขาพวกเขาคิดว่าทำเรื่องลับๆล่อแต่ไม่มีใครรู้มัวแต่มองด้านหน้าหารู้ไม่มีภัยอันตรายซ่อนเร้นอยู่ข้างกาย

เมื่อสามคนมาถึงป่าหินหลี่ห่ายก็หยุดเพราะเป็นเวลามืดค่ำยิ่งทำให้ป่าหินดูลึกลับและน่าสะพรึงกลัวมองพื้นด้านหน้าออกไปหนึ่งจั้งก็มองไม่เห็นแสงจนสุดลูกหูลูกตา

“ด้านหน้าเป็นที่คัดเลือกเกิงจีนแล้วพวกเรารีบข้ามไปขนเกิงจีนกลับไปสองสามหีบเอาไปรายงานผลก็พอแล้วอย่าให้คนอื่นพบที่นี่”หลี่อวี๋นซ่านที่กำลังพิงตัวหลินซีนเยียนพูดเสียงดัง

หลี่ห่ายกระพริบตาตอบโต้เร็วมาก“กลัวอะไร พวกเราวางกับดักที่นี่ มีแต่พวกเราที่รู้ว่ากับดักอยู่ที่ใดบ้าง คนอื่นเข้ามาก็ต้องตาย”

“แม้จะพูดเช่นนั้นพวกเราต้องระวังตัวบ้างถึงจะถูก”หลี่ห่ายพูดตอบรับแต่ตอนที่เขาพึ่งพูดจบก็มีคนหกเจ็ดคนออกมาจากกลางหมอกหนา

คนพวกนี้ไม่ใช่ใครอื่นกลุ่มคนศาลาความลับสวรรค์และเซียวฝานที่ถูกรวบตัวไว้คนที่ยืนด้านหน้าสุดคืออวิ๋นเทียนซีด้านหลังเขามีคนติดตามมาสองคนท่านเซียวและผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นภรรยาเซียวฝานกำลังจับแขนเซียวฝานขนาบทั้งซ้ายขวาแววตาเซียวฝานมองเฉื่อยชาไปทางด้านหน้าราวกับไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต