ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 355

ตอนที่355ยาถอนพิษ

เซียวฝานนอกจากสายตาเหม่อลอยแล้วบนร่างกายกลับไม่มีแม้แต่บาดแผลหลินซีนเยียนก็โล่งใจไปเหมือนกัน

ภายใต้ความช่วยเหลือของหลี่ห่ายหลินซีนเยียนถึงจะสามารถช่วยชีวิตอวิ๋นเทียนสี่ออกจากหนองน้ำนั้นได้ นางร้อนรนพร้อมถามอวิ๋นเทียนสี่“เอายาถอนพิษมา”

ใบหน้าของอวิ๋นเทียนสี่ลังเลเล็กน้อยหลินซีนเยียนยกมือขึ้น แหวนที่อยู่ในมือกระทบกับแสงไฟส่องประกายระยิบระยับเขากัดฟันเล็กน้อยและดึงขวดเล็กๆออกจากอ้อมอก“พิษที่เขาโดนนั้นอันที่จริงไม่มียาใดเลยที่จะรักษาได้ยาที่มีอยู่ในตอนนี้ก็แค่ระงับความเจ็บปวดจากฤทธิ์ยาพิษได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น”

แค่แวบเดียวใบหน้าของหลินซีนเยียนกลายเป็นสีฟ้าอีกมือข้างกำกู่พิษที่อยู่บนแหวนไว้แน่นอวิ๋นเทียนสี่สะบัดมืออีกครั้งพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า“วางใจเถอะยาถอนพิษพวกนี้ข้ายังมีอีกมากแค่ยาขวดเล็กนี้ก็พอให้เขากินไปครึ่งปีแล้วเดือนหนึ่งจำเป็นต้องกินแค่เม็ดเดียวรอให้เขากินยานั้นหมดก่อนข้าค่อยส่งมันไปให้เจ้าหากกินไปตลอดหละก็มันก็เท่ากับยาถอนพิษแล้ว”

“สมเป็นเจ้าของศาลาความลับแห่งสวรรค์แท้ๆ“หลินซีนเยียนกัดฟันด้วยความโกรธนางควรจะรู้ตั้งนานแล้วว่าคนอย่างอวิ๋นเทียนสี่ไม่ใช่คนจิตใจอ่อนโยนถึงตอนนี้เขายังคงทำเป็นเล่นอยู่นางใช้มือลูบเบาๆไปมาบนกู่พิษที่อยู่บนแหวน“ดูเหมือนเจ้าคงจะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเป็นแน่”

“ไม่ไม่ไม่ข้าไม่ได้โกหกท่านจริงๆยาพิษนี้ข้าไม่มีแม้แต่ยาถอนพิษจริงๆยานี้ตอนแรกข้าหาคนที่สูงส่งมาปรุงยาเพื่อนำยานี้มาใช้กำจัดศัตรูไหนๆก็กำจัดศัตรูแล้วข้าจะทำช่องโหว่ไว้ทำไมท่านจะต้องเชื่อใจข้าชะตาของข้าอยู่ในกำมือของท่านแล้วข้าจะโกหกท่านไปทำไมกัน”

ใบหน้าของอวิ๋นเทียนสี่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสายตาของเขาจ้องมองไปที่มือของหลินซีนเยียนความกลัวที่ฉายอยู่บนใบหน้านั้นมิใช่การแกล้งทำ

หลินซีนเยียนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วในสถานการณ์แบบนี้การที่อวิ๋นเทียนสี่จะพูดความจริงนั้นมีความเป็นไปได้มากเพียงแต่เขาตอนนี้ไม่อยากจะเชื่อความจริงเท่านั้นเอง

อันที่จริงลึกๆในใจของนางนั้นได้เชื่อคำพูดของอวิ๋นเทียนสี่ไปแล้วและท่านโจวเองก็ออกตัวแทนเซียวฝานดูแล้วท่านโจวพูดเซียวฝานมีชีวิตอยู่อีกแค่สามเดือนเพียงเท่านั้นฝีมือการรักษาของท่านโจวหาได้มีใครเทียบไม่ ในเมื่อเขาพูดอย่างนั้นแล้วนางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพิษยาได้แทรกซึมไปถึงไหนแล้ว

หลินซีนเยียนถอนหายใจเทยาจากขวดเล็กๆนั้นออกมาหนึ่งเม็ดและป้อนไปที่ปากของเซียวฝานยานั้นออกฤทธิ์ได้รวดเร็วภายในไม่กี่พริบตาที่ออกฤทธิ์ ในตาของเซียวฝานก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากที่ใกล้หมดลมหายใจและตายไปในที่สุดนั้นกลับเปลี่ยนเป็นสายตาที่สดใส เพียงแต่สายตาที่สดใสของเขานั้นกลับยิ่งเต็มไปด้วยรอยบาดแผลที่ปรากฏออกมา

“ท่านดูสิเขาฟื้นแล้วข้าไม่ได้หลอกท่านใช่หรือไม่”อวิ๋นเทียนสี่ดูเหมือนจะกลัวนางทำกู่พิษนั้นแตกรีบชี้ไปทางเซียวฝาน

หลินซีนเยียนไม่ได้มองเขาแต่กำลังจับจ้องไปที่เซียวฝานเพียงแต่คำพูดที่พูดออกมานั้นกลับพูดกับอวิ๋นเทียนสี่“เขาจะจดจำเรื่องที่สับสนที่เกิดขึ้นหรือไม่”

“......”อวิ๋นเทียนสี่ไม่คิดว่านางจะถามอย่างนั้นออกมาสายตาที่ระมัดระวังมองไปที่นางแม่มดนั้นเขากัดฟันพร้อมกับพูดว่า“ยังจำได้ในตอนแรกที่เขาฟื้นขึ้นมาก็จะสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆที่ไม่ชัดเจนนั้นได้คนที่กินยานี้เข้าไปหากเขาไม่ต้องการนึกถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นนั้นมันจะทำให้เขาอยู่ก็เท่ากับตายทั้งเป็น”

มันเลวร้ายหาสิ่งใดมาเทียบได้!

หลินซีนเยียนกัดฟันโกรธแต่ใจกลับเป็นห่วงเซียวฝานนางไม่รู้ว่าในช่วงกี่เดือนสุดท้ายของชีวิตมนุษย์นั้นนางทำให้เขากลับมามีสติอีกครั้งใช่เรื่องที่ถูกต้องหรือไม่คนที่มีความยิ่งทะนงอย่างศิษย์พี่จะสามารถรับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นหากต้องการลืมความทรงจำไปได้หรือ?

“ศิษย์พี่”เสียงของนางสะอื้นออกมาเล็กน้อยสายตาจ้องไปที่ใบหน้าของเซียวฝานกลัวที่จะเห็นร่องรอยของความสิ้นหวังจากใบหน้าของเขา

แต่ทว่าเรื่องที่ทำให้นางหวาดกลัวมากที่สุดกลับยังไม่เกิดขึ้นเซียวฝานกลับมามีสติเพียงแต่น้ำตานองเขาเกลือกกลิ้งเขากลืนน้ำลายกัดฟันแล้วพูดไปว่า“ศิษย์น้องลำบากเจ้าแล้ว”

แค่เพียงไม่กี่คำก็ทำให้หลินซีนเยียนประสบความสำเร็จ

เผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่มนุษย์ก็ไม่สามารถเจอได้นั้นคนที่ลำบากที่สุดก็ไม่ใช่เขาหรอกหรือแต่ว่าในสถานการณ์แบบนี้คำแรกที่เขาพูดออกมาจากปากคือพูดว่านางลำบากนางลำบากกว่าเขาที่ไหนกันหละเพราะว่าคำพูดของเขาคำนี้ยิ่งแสดงให้เห็นว่าในใจข้างในทั้งหมดของเขานั้นเข้มแข็งมากเพียงไร

เขาดูเหมือนจะรู้แล้วว่าหลินซีนเยียนเป็นห่วงเขาดังนั้นในวินาทีแรกเขาเลือกคือไม่ใช่สิ้นหวังแต่คือทำอย่างไรให้หลินซีนเยียนไม่สิ้นหวังในเวลานี้แล้วสิ่งแรกที่เขาเลือกก็คือความรู้สึกของนางถึงแม้ว่าลึกๆในใจของเขาจะสิ้นหวังแล้ว แต่เขาก็ต้องแสดงออกว่าเขานั้นเข้มแข็งร่างกายของเขานั้นมันเป็นสิ่งที่ยากมากกว่าความสิ้นหวัง

หลินซีนเยียนห้ามใจตัวเองไม่ให้หม่นหมองแทนเซียวฝานไม่ได้นางอดไม่ได้ที่จะกอดเขาไว้ในอ้อมอกมันไม่เกี่ยวข้องกับความรักใดๆหางเพียงแค่อยากใช้อ้อมกอดอันอบอุ่นของนางมาจัดการกับความสิ้นหวังที่ลึกๆของผู้ชายคนนี้เขาไม่ใช่คนที่นางรักแต่ว่าเขาคือครอบครัวของนางในสายตาของนางนั้นไม่ว่าอะไรก็สามารถทำให้คนในครอบครัวได้

น่าเสียดายในเวลาสั้นๆนั้นนางลืมไปแล้วว่ามันคือจริยธรรมอย่างเคร่งครัดในสมัยโบราณ

ดังนั้นการกระทำของนางทำให้หลี่อวี้นซ่านตุปัดตุเป๋ถอนลงไปสองก้าวหากไม่ใช่เพราะลี่ห่ายเอื้อมมือไปจับเขาไว้เขาก็คงตกลงไปในโคลนนั้น

ส่วนอวิ๋นเทียนสี่เองก็ตกใจไปไม่น้อยเช่นกันหากเขาจำไม่ผิดหละก็ผู้หญิงคนนี้คือชายาของโม่จื้อเฟิงแห่งตระกลูอู่เซวียนอ๋องอู่เซวียนอ๋อง~หาใช่ตระกูลหมาแมวธรรมดาไม่ หรือว่าผู้หญิงคนนี้กล้าสวมเขาให้กับท่านโม่จื้อเฟิงนี้นี้ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงที่ไร้ศักดิ์ศรีอยู่อีกหรือ

“ซีนเยียน”เซียวฝานสังเกตได้ถึงสีหน้าของทุกคนที่เปลี่ยนไปแต่ว่าเขาไม่ได้ผลักหลินซีนเยียนออกแต่กลับปรารถนาความอบอุ่นและกลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายของนาง

ลมกำลังพัดเย็นลงแล้ว

ชั่วสักครู่หนึ่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือของคนที่หลงเหลืออยู่ในโคลนก็ดังขึ้น

“ใช่แล้วย่าของฉันเจ้ายังไม่ได้ช่วยชีวิตคนอื่นเจ้าดูสิน้ำโคลนท่วมคอพวกเขาไปหมดแล้วหากไม่รีบช่วยพวกเขาพวกเขาคงต้องตายจริงๆแล้ว”อวิ๋นเทียนสี่ขมวดคิ้วรีบกระโกนเสียงดังเพื่อเตือน

แต่ทว่าหลินซีนเยียนกลับไม่ขยับเลยนางปล่อยเซียวฝานแล้วหันมาอย่างช้าๆความขุ่นเคืองในสายตานางวิ่งออกมาความแค้นอันเข้มข้นในสายตาของนางทำให้อวิ๋นเทียนสี่ตกใจจนเกือบล้มลงกับพื้น

“ใครบอกว่าข้าจะช่วยพวกเขา”หลินซีนเยียนพึมพำเล็กน้อย“เมื่อกี้ตั้งแต่ต้นจนปลายข้าไม่ได้พูดเลยสักนิดว่าข้าจะช่วยพวกเขา”

“เจ้าเจ้า”อวิ๋นเทียนสี่เก็บกลั้นความเศร้าใจ แต่ว่าก่อนหน้านี้หลินซีนเยียนแค่พูดว่าจะไว้ชีวิตเขา แต่ไม่แม้แต่น้อยว่าจะไว้ชีวิตคนอื่นๆ เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าจะโดนนางคนนี้หลอก

“ขอร้องท่านหละปล่อยพวกข้าไปเถอะขอร้องหละยาย”ในน้ำโคลนแห่งนั้นพวกเขาได้ยินที่หลินซีนเยียนพูดต่างพากันตกใจกระพือด้วยความหวาดกลัวโดยไร้ซึ่งยางอายรีบตะโกนขอร้องให้ไว้ชีวิตพวกเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต