ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 357

ตอนที่357พระชายา

มองการตอบสนองของนางเซียวฝานยิ่งมั่นใจในการทายของตัวเองมากยิ่งขึ้น“ดูเหมือนว่าข้าจะทายถูกแล้วข้ามีชีวิตอีกไม่มากแล้วสินะ”

หลินซีนเยียนพยักหน้าเสียงสั่นๆตอนแรกจะพูดว่าท่านไม่ตายหรอกเท่าจะต้องอายุยืนร้อยปีแต่ทว่ามันติดอยู่ที่ปากแต่กลับพูดไม่ออก

“นานเท่าไรแล้ว”เซียวฝานยังคงถามอีกครั้ง

หลินซีนเยียนกัดริมฝีปากของตัวเองพูดว่า“ไม่เกินสามเดือน”

ในพริบตาดูเหมือนอากาศจะซบเซา

เซียวฝานหยุดชะงักไม่พูดออกมาแม้แต่น้อยเพียงแค่ความสิ้นหวังในสายตาปรากฏแต่แล้วเขาก็ดึงรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ออกมาเอาเอื้อมมือไปลูบหัวของหลินซีนเยียนและพูดว่า“สามเดือนก็เพียงพอแล้วในเวลาก่อนที่จะตายก็ยังมีสติมาได้เยี่ยมเยือนเจ้าข้าแค่นี้ก็พอแล้ว”

เห็นได้ชัดว่าเขายิ้มอยู่แต่ไม่รู้ทำไมรอยยิ้มแบบนั้นทำให้นางรู้สึกว่าในใจกลับอึดอัดเป็นที่สุด

หลินซีนเยียนหลั่งน้ำตาอีกครั้งซบลงในอ้อมกอดของเขา“ศิษย์พี่ท่านอย่ายิ้มเลยในเวลาที่ท่านอยากจะร้องไห้ก็อย่าได้ยิ้มเลยได้ไหมขอร้องท่านหละ”นางไม่สามารถมองดูรอยยิ้มแบบนี้ของเขาได้ต่อไปแล้วเขาอนาถพอแล้วนางไม่ยอมที่จะทนเห็นเขาปลอบประโลมนางแต่ตัวเขาเองในเวลาที่อยากร้องไห้กลับยิ้มออกมา

รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวฝานค่อยๆจางหายไปเพียงแค่ความรู้สึกสิ้นหวังเล็กๆของเขาไม่ได้จากหายไปเขายกมือขึ้นแล้วหยุดชะงักแล้วตัดสินใจหยุดอยู่ที่หลังของหลินซีนเยียน

เขาค่อยๆลูบเบาๆที่หลังของนางเปรียบเสมือนปลอบเด็กดื้อคนหนึ่ง

กระดูกของหลินซีนเยียนก็คือจิตวิญญาณของคนสมัยปัจจุบันในความคิดของนางอ้อมกอดแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าความรักทางชู้สาวแต่คนอื่นที่นี้ไม่ใช่ยุคปัจจุบันในความคิดลึกๆของพวกเขาคิดว่าผู้หญิงกับผู้ชายหากไม่ใช่คู่กันก็ไม่สามารถกระทำแบบนี้ได้ดังนั้นนอกเสียจากหลินซีนเยียนใครก็ไม่รู้ว่าเซียวฝานกับนางมีท่าทีอย่างไร

หลี่อวี๋นซ่านดูภาพต่อหน้าใบหน้าเต็มไปด้วยความละอายเป็นที่สุดแต่ว่าเขาสามารถทำอะไรได้หรือเขาต้องเข้าไปแย้งกับคนที่กำลังจะเข้าโรงศพนะหรือเขายิ้มอย่างเยือกเย็นพยักหน้าและอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา“ซีนเยียนเขาคือสามีของเจ้าหรือ”

เขาก็แค่อยากจะแน่ใจเท่านั้นถ้าหากคนที่กำลังใกล้ตายคนนี้คือสามีของหลินซีนเยียนงั้นก็แสดงว่าเขาต้องรออีกแค่สามเดือนเท่านั้นก็จะสามารถทำให้ชีวิตของเขากลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

ยกโทษให้เขาที่ไม่ช่วยแล้วยังซ้ำเติมในด้านของความรู้สึกนี้เขาจำเป็นต้องเห็นแก่ตัวถ้าหากว่าสามีของนางคือคนที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ทำไมจะต้องไปแย่งมา

สามี

สองคำนี้เตือนสติเซียวฝานในวันนี้หลินซีนเยียนคือภรรยาของเขาแล้ว!

เขาค่อยๆปล่อยมือแล้วลูบที่มือของหลินซีนเยียนแล้วค่อยๆออกจากนางเบาๆเงยหน้าขึ้นมองหลี่อวี๋นซ่าน“ข้าไม่ใช่สามีของนางแต่ว่านางก็ไม่มีทางมีความเกี่ยวข้องใดๆกับเจ้าเหมือนกัน"

“ใช่หรือเจ้าพูดแล้วนะอย่ากลับคำล่ะ“หลี่อวี๋นซ่านนัยน์ตาลุกเป็นไฟในความคิดของเขาตระกูลเซียวในเมื่อไม่ใช่สามีของหลินซีนเยียนงั้นฐานะของเขาก็เหมือนกับตัวเขาเองนะสิ

หลินซีนเยียนได้ฟังที่สองคนนี้คุยกันก็รีบหันหน้าไปจิกหลี่อวี๋นซ่าน“พอได้แล้วหลี่อวี๋นซ่านเจ้ามีสิทธิ์อะไรมากล่าวหาศิษย์พี่ข้า เจ้าก็ได้ทำตามสัญญาแล้วอนาคตข้าจะต้องตอบแทนเจ้าให้ได้!ตระกลูหลี่ของเจ้าไม่ใช่ต้องการค้นหาความลับของถ้ำอื่นๆหรอกหรือข้าก็จะช่วยพวกเจ้าค้นหาถ้ำสักถ้ำก็ให้ถือว่าข้าได้ตอบแทนพวกเจ้าแล้วกันแต่ว่าตอนนี้เจ้าควรจะส่งพวกข้ากลับไปได้แล้ว”

ท่าทางของนางทำให้หลี่วี๋นซ่านเจ็บปวดอีกครั้งเขารักเดียวใจเดียวต่อนางตลอดแต่เขาในใจของนางนั้นก็แค่คนร่วมอุดมการณ์แค่นั้นเอง

“นี้ก็ใกล้จะสว่างแล้วตอนกลางวันแห่งความตายนั้นอันตรายยิ่งกว่าตอนกลางคืนเสียอีก อีกอย่างโกรกธารเยว่หวนนี้ก็ไม่ใช่สถานที่ที่จะอยู่ได้นานเอาอย่างนี้ไหมพวกเราออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที”ท่าทางยืนกรานของพวกเขาทั้งสามทำให้หลี่ห่ายรีบพูดแทรกขึ้น

หลี่วี๋นซ่านลังเลเล็กน้อยสุดท้ายก็พยักหน้า

หลี่ห่ายนำทางพวกเขาออกไปจากที่นี่

หลินซีนเยียนพยุงเซียวฝานตามหลังพวกเขาสองคนหลังจากออกจากแดนแห่งความตายนางและเซียวฝานนั่งบนม้าด้วยกันโดนไม่ได้คำนึงถึงศีลธรรม

หลี่วี๋นซ่านหันหน้ากลับไปมองทั้งร่างกายของเขายิ่งโกรธมากขึ้นทำให้หลี่ห่ายที่กุมบังเหียนอยู่นั้นเหงื่อออกไปตามๆกัน

เพียงแค่สิ่งที่ทำให้หลี่วี๋นซ่านรับไม่ได้ที่สุดก็คือตอนที่พวกเขาเดินออกไปนั้นกลับมีชายขี่ม้าหลายคนหยุดรออยู่ที่นั่นแล้ว

ที่นี่คือทะเลทรายพาหนะที่เหมาะสมที่สุดนั้นคืออูฐแต่ทว่ารถพวกนั้นคือรถม้าอีกอย่างรถทุกคันยังเต็มไปด้วยวิญญาณอีกด้วยนั้นยิ่งแสดงให้เห็นว่ารถม้าพวกนี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

“ท่านลุง คนพวกนี้ท่านรู้หรือไม่ว่าเป็นคนของใครกัน หลี่วี๋นซ่านและหลี่ห่ายนั่งอยู่บนรถอูฐดังนั้นเขาจึงถามด้วยเสียงเบาๆ

หลี่ห่ายมองดูรถพวกนั้นอย่างละเอียดมองบนรถของพวกเขาพบสัญญาลักษณ์เล็กๆก็อดที่จะตกใจไม่ได้“คือคนของท่านอู่เสวียนอ๋องโม่จื่อเฟิง!”

“อู่เสวียนอ๋อง”หลี่วี๋นซ่านเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะพบกับคนของท่านอ๋องคิ้วของเขาสั่นพูด“ในวันนี้พวกเราคนน้อย อีกฝ่ายก็ไม่รู้มาด้วยเหตุผลอะไรยังไงก็ต้องระวังไว้ก่อน”

หลี่ห่ายร้องออกมาแล้วกระโดดลงรถอูฐแล้วลงไปคำนับ“ไม่ทราบว่าท่านแม่ทัพมาที่โกรกธารเยว่หวนมีเรื่องอันใดหรือ”

รถม้าหลายสิบคันมีหนึ่งคันที่มีคนอายุประมาณสามสิบใบหน้ามีหนวดเคราดวงตาทั้งสองคู่ส่องแสงสายตาของเขามองข้ามไปที่หลี่ห่ายสุดท้ายสายตาของเขาหยุดอยู่บนร่างกายของหลินซีนเยียนนายท่านมีคำสั่งหากพบพระชายาตัวปลอมก็ให้ทำเป็นไม่รู้จัก แต่ถ้าหากพบฮูหยินที่เปลี่ยนหน้าก็ให้พูดว่าภารกิจของพระชายาสำเร็จเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็จะตอบสนองกลับมา

แต่ทว่าตอนนี้หลินซีนเยียนไม่ได้เปลี่ยนหน้านั้นก็คือใบหน้าที่จริงของนาง

ดังนั้นแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามก็รีบลงจากม้าโดยไม่สนคำถามของหลี่ห่ายเลยแม้แต่น้อยแต่กลับตรงมาด้านหน้าของหลินซีนเยียนคุกเขาลงคำนับแล้วพูดว่า“ข้าน้อยคารวะพระชายาคุณชาย เป็นห่วงว่าพระชายาจะได้รับอันตรายดังนั้นได้ให้ข้าน้อยมาคอยรับใช้ท่านเป็นพิเศษ”

พระชายา

แค่สามคำนี้ก็ทำให้หลี่วี๋นซ่านตกใจไปไม่น้อย เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้หญิงคนนี้ก็คือพระชายาของอู่เสวียนอ๋องโมจื่อเฟิง

แต่ไหนแต่ไรเขาเองก็ตัดสินใจว่าหากครั้งนี้ได้กลับไปถึงแม้จะลำบากยากเย็นเขาก็จะพยายามลองแย่งชิงความสุขของตัวเองแต่ทว่าพระชายาของอู่เซวียนอ๋องผู้หญิงคนนี้ช่างซ่อนเร้นปิดบังเสียจริง

ด้านหลังนั้นยังมีอีกมากที่กำลังคุกเข่าคารวะอยู่นางยังกล้าที่จะโอบกอดศิษย์พี่ของตัวเองทำให้เขายิ่งเข้าใจผิดมากก็คือคงเป็นเพราะสามีของนางไร้ซึ่งความสามารถดังนั้นทำให้นางมีใจให้กับชายอื่นดูเหมือนว่าในวันนี้เรื่องที่เขาคิดไว้มันซับซ้อนกว่าที่คิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต