ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 392

ตอนที่ 392 การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดอันแสนสงบ

เพียงแต่ แววตาของเด็กสาวคนนั้นกลับทำให้ผู้คนเยิ่งเพิ่มความประหลาดใจขึ้น

หลินซีนเยียนมองเห็นความคุ้นเคยบางอย่างจากแววตาของเด็กคนนั้น ก็ราวกับแรกเริ่มตอนที่นางเป็นฝ่ายกระตุ้นโม่จื่อเฟิงก็ไม่ปาน เผยความสิ้นหวังและความเพียรอันไม่ย่อถอยประการหนึ่ง

ฉากย้อนความหลังในสมองผุดขึ้นมา หลินซีนเยียนพลันรู้สึกหัวใจค่อยๆ แตกสลาย มีความรู้สึกจำพวกสูดหายใจไม่เข้า

คนรอบด้านต่างตกตื่นยิ่ง โดยเหล่าบุรุษตอนที่มองเห็นเด็กสาวคนนี้ ปรับเปลี่ยนทัศนคติก่อนหน้าของพวกเขา แววทอประกายตาพลันวิบวับขึ้นมา หากว่าก่อนหน้ายังด่าทอยายแก่คนนั้นไร้ยางอายล่ะก็ เช่นนั้นตอนนี้ ผู้ชายพวกนั้นกลับเริ่มอิจฉาโชคเรื่องผู้หญิงของใต้เท้าผู้ว่าขึ้นมาแทน

นี่ก็คือฝูงชนคนมุง มักจะไม่ได้วิจารณ์ตามแนวพัฒนาการของเรื่องราว ก็ลืมเลือนอารมณ์ก่อนหน้าไปเสียสิ้น กลับเลือกข้อมูลที่ทำให้ตนเองเพิ่มความผ่อนคลายแทน

“ใต้เท้าผู้ว่า ท่านก็รับเด็กคนนี้เอาไว้เถิด อย่างไรเสียยายแก่อย่างข้าก็เลี้ยงดูชีวิตนางไม่ไหวแล้ว ก็ให้นางติดตามท่านได้กินข้าวสักคำเถิด หากว่าท่านไม่ต้องตาจริงๆๆ เช่นนั้นยายแก่อย่างข้าก็จะขายเด็กคนนี้ไว้ที่นี่ก็สิ้นเรื่องแล้ว” ยายแก่ร้องไห้จนน้ำมูกน้ำตาไหล ซ้ำยังหันหน้ามาแผดร้องใส่คนรอบด้าน “พวกท่านใครต้องการเด็กคนนี้บ้าง เช่นนั้นก็ควักเงินออกมาซื้อไปเถิด วันนี้ข้ายายแก่ไม่อาจเอานางกลับไปได้แล้ว!”

ประกาศขายหลานสาวของตนเองต่อหน้าธารกำนัล วิธีการของหญิงชราคนนี้ช่างทำให้คนรู้สึกละอายนัก แต่ว่า คนรอบด้านกลับเป็นนกกระจอกไร้เสียง โดยเฉพาะเหล่าผู้ชาย ราวกับมองฝ่ายตรงข้าม ล้วนประมวลเหตุการณ์โดยรอบ

เพียงชั่วขณะนั้น หลินซีนเยียนก็เห็นแจ้งถึงความเฉยชาของมนุษยชน ก่อนหน้ายังปกป้องความยุติธรรมแก่เด็กคนนั้น พริบตาเดียวกลับรู้สึกว่าเด็กคนนั้นเป็นเนื้ออ้วนพีชิ้นหนึ่งไปแล้ว

แต่เพียง แม้ฝูงชนจะกำลังประมวลสถานการณ์ แต่กลับไม่ได้หยัดลุกขึ้น ราวกับคนทั้งหมดต่างมองไปยังรถม้าคันนั้นโดยไม่รู้ตัว หลินซีนเยียนฉุกคิด ก็รู้ถึงสาเหตุที่ฝูงชนไม่กล้าแสดงความเห็นตามอำเภอใจ

เด็กสาวที่น่ามองเพียงนี้ เป็นความคิดที่ผู้ชายแต่ละคนมีอยู่บ้าง ฝูงชนกลัวว่าเผื่อตอนนี้ใต้เท้าผู้ว่ามีใจยอมรับเด็กสาวคนนี้ไว้ ใครก็ตามว่าท่าทีจะรับซื้อเด็กคนนี้ไปในยามนี้ เช่นนั้นก็เป็นโทษต่อใต้เท้าผู้ว่าเข้าให้แล้ว

บ่าวสารถีราวกับก็ตกตะลึงในรูปลักษณ์ของเด็กสาวคนนั้น แม้กระทั่งเขาก็ยังมีท่าทีไม่แน่ใจขึ้นมา หันหน้าไปมองประตูรถม้าด้านหลัง เสมือนรอให้คนด้านในให้คำชี้แนะเพิ่มเติม

“เด็กสาวผู้นี้ราคาเท่าไร ข้ารับซื้อ”

ขณะที่ฝูงชนยังรอคอยใต้เท้าผู้ว่าภายในรถเอ่ยคำนั้น หลินซีนเยียนกลับปริปากขึ้นมา เมื่อนางเอ่ยปาก คนทั้งหมดล้วนหันมามองยังทิศทางของนาง ทั้งสะใจในความช้ำชอกของศัตรู ทั้งดูอุปรากรจรรโลง ทั้งถูกเรือนร่างและรูปโฉมของนางทำให้ตกตะลึง

“โอ้ว วันนี้เป็นอะไรไปหนอ เหตุใดจึงมีแม่นางที่สวยกินกันไม่ลง”

“นั่นสิ ยามเอ่ยวาจาก็เป็นเบญจกัลยาณี ถึงแม้อายุจะมากสักหน่อย แต่ก็มีเสน่ห์ของหญิงสาวมากกว่า”

“สาวงามซื้อสาวงาม นี่ซื้อกลับไปไม่อาจใช้ระบายโลกีย์ได้กระมัง ข้าได้ยินมาว่ายิ่งเป็นหญิงน่ามอง ความริษยาก็ยิ่งแกร่งกล้า ยิ่งไม่อาจทนเห็นผู้อื่นดูดีกว่านางเชียว”

คนด้านข้างเริ่มวิพากษ์วิจารณ์หลินซีนเยียน อาจเพราะคนที่เอ่ยคำมีมากขึ้น เสียงวิจารณ์ของฝูงชนก็ยิ่งเล็ดลอดเข้าสู่โสตหูของคนภายในรถม้า ก็แม้กระทั่งสาวน้อยที่คุกเข่าต่อหน้ารถม้ายังอดมองมาทางหลินซีนเยียนไม่ได้

หลินซีนเยียนกลับไม่ได้สนใจคำวิจารณ์ของฝูงชน เดินไปยังเบื้องหน้าของหญิงชราคนนั้น ล้วงตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงจากอกส่งไปให้ “ท่านบอกเอง ขายให้ใครก็ได้ เงินร้อยตำลึงนี้สามารถซื้อบ่าวได้หลายคน ข้าซื้อนางคนเดียว ท่านไม่ว่า เงินตั๋วนี้ก็เพียงพอชุบเลี้ยงครอบครัวท่านไปได้หลายปีเลยเชียว”

หญิงชราอ้าปากค้างกว้าง ครู่ใหญ่จึงค่อยเรียกสติกลับมา ราวกับนางไม่ได้คาดหมาย ภายใต้เหตุการณ์ต้องโทษสมมติต่อใต้เท้าผู้ว่านี้ กลับยังมีคนที่ไม่รู้จักกันโผล่มาซื้อจริงๆ ก่อนหน้านางเพียงนึกอยากหยามใต้เท้าผู้ว่าก็เท่านั้น ไม่ได้นึกอยากขายเด็กคนนี้ให้บุคคลอื่นเลยจริงๆ สักนิด! เด็กคนนี้ในบ้านนางถึงแม้จะเป็นสินค้าทำราคาชิ้นหนึ่ง แต่ดีร้ายก็งดงามไร้ที่สอง นางยังนึกอยากจะมีต้นเงินต้นทองให้สูบเงินระยะยาวสักต้น จะอยากขายออกอย่างง่ายดายอย่างนี้เสียที่ไหนเล่า

“โอ้ว ดูท่าเมื่อครู่หญิงแก่เช่นท่านบอกว่าอยากขายเด็กคนนี้เสียก็ไม่ใช่เรื่องจริงแล้ว? อ้อ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านแค่อยากใช้วิธีหลอกลวงใต้เท้าผู้ว่า มาบรรลุจุดประสงค์ที่อยากให้เด็กคนนี้เข้าสู่จวนผู้ว่า ท่านเจ้าเล่ห์เพทุบาย นึกอยากส่งเด็กคนนี้เข้าจวนผู้ว่า จุดประสงค์นี้ก็ไม่บริสุทธิ์แล้ว สรุปแล้วท่านต้องการวางแผนอะไรกันแน่”

ถ้อยคำเหล่านี้ หลินซีนเยียนไปสวมหมวกใบบะเริ้มที่วางอุบายให้เด็กสาวคนนี้เข้าสู่จวนผู้ว่า ยิ่งเป็นบุคคลที่ยศศักดิ์สูงใหญ่ ข้อฉงนใจยิ่งหนักหน่วง จากคำชวนฉุกของหลินซีนเยียนนี้ ต่อให้ใต้เท้าผู้ว่าคนนั้นมีใจอยากรับเด็กสาวคนนี้ ก็กลัวว่าก็ต้องไตร่ตรองเสียหน่อยแล้ว

“เด็กป่าเถื่อนมาจากไหนกัน เจ้าพูดพล่าม ยายแกอย่างข้าอยากขายเด็กคนนี้จริงๆ จะอยากโกลาหลสู่จวนผู้ว่าเพื่อวางแผนร้ายอย่างเจ้าว่าเสียที่ไหน” หญิงชราถูกหลินซีนเยียนว่าเสียจนหน้าแดงหูเรื่อ ยิ่งกังวลว่าใต้เท้าผู้ว่าจะคิดจริงจัง ตกใจเสียจนมือค่อนข้างสั่นระริกแล้ว

“หากว่าไม่ใช่ เช่นนั้นเหตุใดข้าเสนอเงินสูงเพียงนี้แล้ว ท่านยังไม่ยอมขาย?” หลินซีนเยียนยิ้มเย็น สบถอยู่พักหนึ่ง นางไม่อาจหวั่นเกรงบุคคลใดๆ

หญิงชราคนนั้นลังเลเล็กน้อย เกร็งหนังศีรษะกล่าวอย่างอึกอัก “ข้าไม่ขายเสียที่ไหน ขายให้เจ้า ขายให้เจ้า!” หญิงชราผู้นั้นคว้าตั๋วเงินในมือหลินซีนเยียนหยัดกายขึ้นแล้วลุกออกไป เกรงว่าจะถูกใต้เท้าผู้ว่าสงสัยขึ้นมาจริงๆ จะทำให้ยิ่งเดือดร้อนกว่าเก่า

หญิงชราผละออกจากฝูงชนและหายลับไปอย่างรวดเร็ว แต่เด็กสาวที่คุกเข่าอยู่ผู้นั้น สีหน้าตั้งแต่ต้นจนจบยังคงจืดเจื่อน หลังจากที่หญิงชราจากไปแล้ว นางเพียงยันกายขึ้นแช่มช้า มายอบกายตรงหน้าของหลินซีนเยียนเล็กน้อย พลางกล่าว “สวัสดีคุณหนู จากนี้ไปข้าก็เป็นคนของท่านแล้ว”

ยามที่นางเอ่ยวาจา น้ำเสียงสงบเย็น ไม่ได้มีความโกรธขึ้งและเคืองแค้นที่ถูกญาติแท้ๆ ทรยศเลยสักนิด ในแววตาของนาง มีความลุ่มลึกและผันผวนที่ซึ่งเดิมทีไม่ควรมีในวัยของนาง

หลินซีนเยียนรู้สึกว่ามองเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ทะลุอยู่บ้าง ดังนั้นจึงทำเพียงพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้กล่าววาจา นางเหลือบมองรถม้าคันนั้นที่จอดเอาไว้อยู่ กระทั่งตอนนี้ ในรถม้ายังคงไร้การเคลื่อนไหวใดๆ ก็ประหนึ่งในรถม้าคันนั้นไม่มีคนอยู่เลยแม้แต่น้อย

“ไปเถิด” หลินซีนเยียนดึงสายตากลับมา เตรียมจะพาเด็กสาวคนนั้นเดินจากสถานที่ไร้อารยะนี้ไป

ใครจะรู้ ทั้งสองเพิ่งจะหมุนกาย องครักษ์สองสามนายก็กรูเข้ามายังเบื้องหน้าของพวกนาง หนึ่งในนั้นให้สัญญาณมือแก่หลินซีนเยียน พลางกล่าว “แม่นางทั้งสองโปรดหยุดก่อน ใต้เท้าผู้ว่าเรียนเชิญท่านทั้งสองไปดื่มชาที่จวนสักครู่”

หลินซีนเยียนหยุดฝีเท้าครู่หนึ่ง หัวคิ้วกลับขมวดแน่นขึ้นมา กล่าวเสียงเย็น “ทำไม การซื้อขายอิสระนี้ ก็สะดุดตาใต้เท้าผู้ว่าเข้าให้แล้ว ใต้เท้าผู้ว่านึกอยากชำระบัญชีภายหลัง ในเมื่ออยากครอบครองเด็กคนนี้ ก่อนหน้าใต้เท้าผู้ว่าก็พูดตรงไปตรงมาเอง ข้าแค่คนสามัญคนหนึ่ง จะกล้าปะทะกับใต้เท้าผู้ว่าเสียที่ไหน เหตุใดยังต้องรอให้ข้าซื้อนางก่อนค่อยมาชำระบัญชี”

นางจงใจกล่าวเสียงดัง ทำให้คนรอบด้านล้วนได้ยินกันถ้วนหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต