ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 414

ตอนที่414การประนีประนอมของผู้มีวุฒิภาวะ

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่สายลมพัดโชยมาต้นไม้เหี่ยวแห้งในบ้านใบไม้ที่เหลือไม่กี่ใบก็ปลิวร่วงหล่นตามสายลม

หลินซีนเยียนค่อยๆย่อตัวนั่งลงยื่นมือเอื้อมไปอยากที่จะลูบใบหน้าของหลีฮวนแต่ว่ามือของนางยังไม่ทันได้สัมผัสไปที่ผิวหนังอันเย็นยะเยือกนั้นก็โดนเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษผลักออกไป

”“ไสหัวไปซะ!”เจ้าของร้านบ้านยาวิเศษมองจ้องนางด้วยความโมโห“พวกแกพวกหัวขโมย!หัวขโมย!เพียงเพราะยาสมุนไพรเพียงต้นเดียวพวกแกถึงกับต้องทำร้ายลูกสาวของข้าจนตายพวกแก……ไอ่พวกหัวขโมย……”

เจ้าของร้านบ้านยาวิเศษแผดเสียงสุดท้ายก็เหลือเพียงเสียงสะอึกสะอื้น

ในเสี้ยววินาทีนั้นอยู่ๆหลินซีนเยียนก็รู้สึกเจ็บที่หัวใจน้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวนางไม่ใช่หรือที่เป็นหัวขโมยหลีฮวนกับเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษไม่ได้ทำผิดอะไรเลยแต่กลับต้องมาสังเวยชีวิต

นางเคยเกลียดสังคมที่คนแข็งแกร่งมักจะชนะคนที่อ่อนแอเสมอแต่คิดไม่ถึงเลยว่าวันหนึ่งนางจะถูกบีบให้กลายเป็นคนแบบที่นางเกลียดที่สุด

นางเองก็ร้องไห้เผชิญหน้ากับการต่อว่าของเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษนางได้แต่ก้มหน้าไม่มีเรี่ยวแรงที่จะถกเถียง

เห็นไหล่ที่สั่นเทาของนางนัยน์ตาของอินฉีก็ปรากฏแววตาเจ็บปวดรวดร้าวเขายกมือขึ้นอย่างอ่อนโยนอยากจะกอดนางไว้ในอ้อมแขนแต่ว่าตอนที่มือของเขาสัมผัสโดนตัวของหลินซีนเยียนกลับถูกมือที่เยือกเย็นคู่นั้นทำให้ตกใจจนต้องเก็บมือกลับไป

อีกทางหนึ่งอี้เซิงลืมตาขึ้นมาอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวก็เห็นภาพแบบนี้เขาก็เผลอร้องไห้ตามไปด้วยอดไม่ได้ที่จะใช้เสียงที่แหบพร่าเรียกขึ้น:"พี่สาว......พี่สาว...."

หลินซีนเยียนได้ยินเสียงของเขารีบลุกขึ้นวิ่งไปอยู่ข้างๆอี้เซิงทันที

"พี่สาว...."อี้เซิงพยามใช้แรงพูด พูดแต่ละคำออกมาอย่างยากลำบาก"พี่สาวให้ข้าตายเถอะหากข้าตายแล้วข้าก็ไม่อยากให้พี่สาวรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตด้วย...."

หลินซีนเยียนอยากจะพูดสองสามประโยคเพื่อปลอบใจเขาแต่ว่าพอปากขยับกลับพูดอะไรไม่ออกในสถานการณ์แบบนี้นางไม่รู้จริงๆว่านอกจากร้องไห้กับสวดมนต์ขอให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นยังจะทำอะไรได้อีก

ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเรื่องราวใกล้จะถึงตอนจบแล้วอินฉีก็กำมีดสั้นแน่นอีกครั้งเขาใช้มีดสั้นแทงเข้าที่คอของเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษ:"ลูกสาวของเจ้าตายไปแล้วคนตายไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้อีกหากว่าเจ้ามอบยานั่นออกมาข้าจะไว้ชีวิตเจ้าให้อนาคตเจ้ามีโอกาสได้กลับมาแก้แค้นหากว่าเจ้าตายไปพร้อมกับลูกสาวเจ้าเช่นนั้นแค้นครั้งนี้ก็จะไม่มีคนมาชำระแทนพวกเจ้าแล้วอีกอย่างข้ารับประกันได้เลยหากว่าเด็กคนนั้นตายไปเพราะไม่ได้ยารักษาชีวิตของทุกคนในบ้านยาวิเศษข้าอินฉีขอเอาไปละกัน"

ตอนที่เขาพูดคำว่า'อินฉี'ออกมาพวกคนชุดดำที่ปิดหน้าพวกนั้นและเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษต่างตกตะลึงออกมาพร้อมกันราวกับใครก็คิดไม่ถึงว่าคนที่ถือมีดสั้นที่ทำเรื่องตัดญาติขาดมิตรคนนี้จะเป็นมหาเสนาบดีที่เยาว์วัยที่สุดในตำนานประวัติศาสตร์ของประเทศหนานเยว่อินฉี!

ชายชุดดำที่ปิดหน้าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษก็มักจะออกไปท่องเที่ยวด้านนอกดังนั้นคนดังที่มีชื่อเสียงในประเทศใหญ่ๆไม่กี่คนพวกเขาต่างก็เคยได้ยินเขาล่ำลือกัน

ถ้าหากว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าเป็นอินฉีจริงเช่นนั้นคำพูดของเขาก็ไม่มีใครคิดจะสงสัยถึงความเป็นไปได้

คนสูงส่งจากราชวังต่างก็เหยียบเลือดปีนป่ายขึ้นไปเจ้าคงจะไม่คิดว่าข้าจะเป็นแบบนางแม่นางที่มีคุณธรรมหรอกใช่หรือไม่?"อินฉียิ้มอย่างเยือกเย็นถือมีดสั้นจ่อใกล้เข้าไปอีกมีดสั้นบาดผิวหนังบนคอของเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษทันทีแค่ออกแรงอีกนิดหน่อยก็ปาดคอฆ่าเขาได้แล้ว

บรรยากาศราวกับหยุดนิ่งผ่านไปสักพักต่างก็ไม่มีใครอ้าปากพูดออกมา

แววตาของเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษดูดิ้นรนมากเขาอยากที่จะไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างแล้วลงนรกไปพร้อมกับลูกสาวแต่ว่าเขาก็เป็นคนที่อายุจะหลักร้อยแล้วประสบการณ์ชีวิตเทียบไม่ได้เลยกับหลีฮวนเด็กสาวคนนั้นความหมายของประสบการณ์ชีวิตอีกอย่างก็คือความจริงเขายอมรับความจริงได้ตอนนี้แม้ว่าเขาจะตายไปก็มีแต่จะดึงคนอีกร้อยกว่าคนในบ้านยาวิเศษตายตามเด็กคนนั้นไปด้วยชีวิตของคนตั้งมากมายขนาดนั้นเขาจะตัดสินใจแทนพวกเขาอย่างเห็นแก่ตัวได้อย่างไร?

ได้!ข้าให้พวกเจ้า!"เจ้าของร้านบ้านยาวิเศษในที่สุดก็ตัดสินใจออกมา

นี่ก็คือบนสนทนาระหว่างผู้มีวุฒิภาวะรู้ว่าตนเองควรที่จะมองตามหลักความเป็นจริงแล้วตัดสินใจอย่างไรแต่น่าเสียดายตั้งแต่ยังเด็กจนกลายเป็นผู้ใหญ่ต้องผ่านสิ่งที่ยากลำบากมากมายคนบางคนยังไม่ทันที่จะได้ลิ้มลองก็ไม่มีโอกาสได้เติบโตไปซะก่อน

อินฉีเก็บมีดสั้นกลับมาเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษก็บอกที่ซ่อนของยาเนื่องจากวันก่อนเขากลัวว่าหลีฮวนจะต้องรีบใช้ดังนั้นสถานที่นั้นเลยไม่ห่างจากเมืองหลวงแคว้นหมันเท่าไหร่นั่งม้าเร็วไปประมาณ1ชั่วโมงก็ถึงแล้ว

ชายที่ปิดหน้าคนนั้นรีบส่งลูกน้องให้ไปเอายาตามสถานที่ที่เจ้าของร้านบ้านยาวิเศษบอกทันทีแล้วก็ให้ทหารรักษาการณ์ของหมู่บ้านนี้นำตัวเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษและหลีฮวนออกไป

รอจนทหารคนนั้นนำคนออกไปแล้วชายชุดดำถึงจะเดินมาหยุดตรงหน้าของอินฉีโค้งคำนับทำความเคารพแก่อินฉี:"คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าจะได้พบกับท่านมหาเสนาบดีอินแห่งประเทศหนานเยว่ที่นี่เลื่อมใสชื่อเสียงท่านมานานแล้วเป็นเกียรติยิ่งนัก"

อินฉีก็โค้งคำนับตอบรับ"ใต้เท้ารู้ว่าข้าคือใครแต่ข้ายังไม่รู้เลยว่าใต้เท้าคือผู้ใด"

"ฮ่าๆ"ชายที่ปิดหน้าเงยหน้าหัวเราะขึ้นดึงผ้าสีดำที่ปิดบังใบหน้าตนเองลง"กระหม่อมโจ่วเฉิงแห่งแคว้นหมัน"

"แม่ทัพใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งแคว้นหมันแม่ทัพใหญ่โจ่วเฉินที่เคยช่วยฮ่องเต้ราชกาลก่อนขยายอาณาเขต?"อินฉีเองก็ตกใจเหมือนกันแต่ว่าเพียงไม่นานเขาก็กลับคืนสู่สีหน้าปกติ"ข้าเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะโชคดีได้มาพบกับแม่ทัพโจ่วเฉินแม่ทัพโจ่วเฉินช่างมีสง่าราศีสมเป็นแม่ทัพของฮ่องเต้ตามตำนานจริงๆ"

"มหาเสนาบดีอินชมเกินไปแล้วจริงสิเจ้าของร้านบ้านยาวิเศษคนนั้นจะจัดการอย่างไรถ้าตามความหมายของท่านมหาเสนาบดีก็...."สำหรับคนที่ทำงานในวังมาเป็นเวลานานหลายปีต่างก็รู้หลักการถอนรากถอนโคนดีโดยเฉพาะทำเรื่องโหดร้ายเช่นนี้ยิ่งจะเหลือคนข้างหลังทิ้งไว้ไม่ได้โจ่วเฉินแม้ว่าในใจจะคิดเล็กคิดน้อยแต่ว่าก็ยังคงถามความเห็นอินฉีอย่างเจ้าเล่ห์

อินฉีเลยขมวดคิ้วออกมาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองทางหลินซีนเยียนแม้ว่าจะรู้ตำแหน่งของยาแล้วแต่ว่าอารมณ์ของหลินซีนเยียนยังคงเศร้าเสียใจจนดูน่ากลัวนางโอบกอดอี้เซิงอยู่อย่างนั้นไม่ขยับ

เช่นนั้น...ก็ทำตามที่พูดไว้แต่แรกละกันปล่อยไปเถอะ"อินฉีถอนหายใจยาวออกมา

คำพูดของเขาทำให้โจ่วเฉินถึงกับสะดุ้งตกใจแรงโจ่วเฉินมองตามสายตาของไปแวบหนึ่งส่ายหน้าออกมาแล้วพูดว่า:"มหาเสนาบดีอินนี่มันไม่ใช่เวลามาเมตตามีคุณธรรมนะพวกผู้หญิงน่ะไม่รู้อะไรคนที่ทำการใหญ่เช่นพวกเราจะทำผิดพลาดไม่ได้!หากว่าท่านลงมือเองไม่ลงเช่นนั้นก็ให้ข้าทำแทนเถอะ"

อินฉีไม่ได้พูดอะไรกำลังจะพยักหน้าแต่กลับเห็นหลินซีนเยียนที่อยู่ฝั่งนั้นโผงผางขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ไม่ได้!"หลินซีนเยียนหันหน้ากลับมาไม่ได้มองไปทางโจ่วเฉิงแต่มองไปทางอินฉีพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ:"หากว่าเจ้าทำร้ายเขาชาตินี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!"นางได้ทำร้ายลูกสาวของเขาจนถึงตายไปแล้วตอนนี้ยังจะไปทำร้ายถึงชีวิตเขาอีกนางทำเรื่องชั้นต่ำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต