สรุปตอน ตอนที่432ร่วมมือกับโม่จื่อเฟิง – จากเรื่อง ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดย ใบไม้แดง
ตอน ตอนที่432ร่วมมือกับโม่จื่อเฟิง ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต โดยนักเขียน ใบไม้แดง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่432ร่วมมือกับโม่จื่อเฟิง
“กอง.....กองสนับสนุน”เสี่ยวหลงชักมุมปากราวกับไม่เข้าใจว่านางกำลังพูดอะไร
อี้เซิงและสวี่ห้าวมองไปทางเสี่ยวหลงพร้อมกันดวงตาทั้งสองคนเปล่งประกาย
“ข้าไม่รู้จริงๆพวกเจ้ากำลังพูดอะไร.....”
เสี่ยวหลงพูดไม่ทันจบหลินซีนเยียนพูดออกมาเบาๆสามคำ“โม่จื่อเฟิง”
สีหน้าเสี่ยวหลงชะงักแต่ลนลานแค่แวบเดียวแต่เขาจะแก้ตัวขึ้นมาทันทีริมฝีปากเขาขยับแต่ไม่พูดอะไรคงจะดีกว่า
เขาไม่พูดหลินซีนเยียนพูดต่อ“เจ้าเป็นคนของโม่จื่อเฟิง”
ที่นางพูดคือประโยคยืนยันไม่ใช่ประโยคคำถามฉะนั้นสุดลึกในหัวใจนางรู้ตัวตนของเสี่ยวหลงอยู่แล้วแต่ตอนที่พูดประโยคนี้ออกมาหน้านางไม่ได้แสดงความตื่นเต้นหรือดีใจแต่กลับมีความเหยียดหยามรางๆ
“เจ้าไม่ต้องปฏิเสธข้ากล้าพูดขนาดนี้ย่อมแน่ใจอยู่แล้วแต่ข้าคิดไม่ถึงจริงๆหลังจากโม่จื่อเฟิงทำเรื่องนั้นออกมายังส่งคนมาคุ้มครองข้าทำไมเพราะข้าเป็นแม่ของลูกเขา เขาไม่อยากให้ลูกเขาไม่มีแม่เลยรังเกียจฝืนใจส่งคนมาปกป้องข้า?งั้นยังสร้างความลำบากให้เขาจริงๆ”หลินซีนเยียนพูดต่อ
“เจ้า......เหตุใดเจ้าถึงเดาออกได้”ในที่สุดเสี่ยวหลงไม่ปฏิเสธเขาคือผู้พิทักษ์ลับ เขาไม่สามารถบอกตัวตนของเจ้านายได้ แต่เมื่อฝ่ายตรงข้ามเดาตัวเองออกแล้วก็คงโทษเขาไม่ได้แล้วล่ะ
หลินซีนเยียนทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจพูดเสียงเย็นชา“มีประโยคหนึ่งเรียกว่าขจัดทุกอย่างที่เป็นไปไม่ได้แล้วส่วนที่เหลือนั้นยิ่งเป็นไปไม่ได้อีกนั่นแหละคือความจริง”
นางคิดไม่ออกจริงๆว่าใครส่งคนมาคุมครองนางแต่คนที่สามารถเลี้ยงผู้พิทักษ์ลับหัวรุนแรงอย่างเสี่ยวหลงได้มีไม่มากนักที่โชคดีคือนางรู้จักคนแบบนี้น้อยมากอินฉีก็เป็นไปไม่ได้ข้างกายอินฉีเหมือนมีคนและอำนาจมากการตัดสินใจมากมายของเขาทั้งหมดใช่ว่าเขาจะควบคุมคนเดียวได้ไหวผู้พิทักษ์ลับแบบนี้เขาคิดจะส่งออกมาอาจจะทำไม่สำเร็จได้งั้นที่เหลือก็มีแค่โม่จื่อเฟิงแล้ว
มีแค่โม่จื่อเฟิงถึงจะสมเหตุสมผลแล้วก็มีอำนาจสามารถส่งผู้พิทักษ์ลับอย่างเสี่ยวหลงมาได้เช่นนี้ อันที่จริงตอนแรกนางเดาออกแล้วแต่สุดท้ายการเดาออกและการเผชิญหน้าเหมือนกันนางไม่อาจยอมรับเผชิญหน้ากับความจริงจึงเลือกที่จะเลี่ยงแต่ตอนนี้นางจะไม่เผชิญหน้าก็คงไม่ได้แล้ว
ไม่ว่าจะพูดอย่างไรผลการตายของเซียวฝานโม่จื่อเฟิงจุดเชื้อเพลิงเผาไปแล้วนางจึงเกลียดชังเขานักแต่ว่าภายใต้สภาพเช่นนี้นางจะโง่ใช้อารมณ์ตัดสินไม่ได้สำหรับเพื่อกำลังที่เข้ามาช่วยเหลือทลายประตูใหญ่หยิ่งศักดิ์ศรีชีวิตเบื้องหน้าไปจะมีความหมายอะไร?หานซิ่งไม่เคยคลานผ่านหว่างขาเอาตัวรอดจนอับอายหรือ?
“นายท่านส่งข้ามาปกป้องเจ้า แต่ก็มีแค่ข้าคนเดียวเท่านั้นไม่มีกองสนับสนุนถ้าเจ้าต้องการกองสนับสนุนเกรงว่าคงจะเกินความจริงไป”เสี่ยวหลงคิดแล้วกล่าวด้วยความนอบน้อมจริงใจ
“พี่สาวที่จริงข้าคิดว่าอู๋เสวียนอ๋องเขา....”อี้เซิงทนพูดคำว่าโม่จื้อเฟิงไม่ได้แม้เขาไม่เข้าใจความรู้สึกระหว่างชายหญิงแต่ทว่าอย่างน้อยทั้งสองฝ่ายอยู่ในสถานะที่แยกกันแล้วความห่วงใยความเป็นความตายของอีกฝ่ายยังคงเหมือนเดิมอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกฝังลึกในใจแค่เป็นเหตุผลนี้ผู้อยู่ในเหตุการณ์มองกลแผนออกเท่านั้นเอง
หลินซีนเยียนตัดบทคำพูดของเขา“หยุดพูดได้แล้ว”
เห็นท่าทางนางเด็ดขาดอี้เซิงก็ทำได้แค่ถอนหายใจไม่พูดอะไรอีก
ได้ยินเพียงเสียงควบม้าดังมาแต่ไกลอีกครั้ง ทันใดนั้นโจว่เฉิงก็พากองทัพทหารเข้ามาสังหารถึงที่นี่ด้วยตัวเอ งแม้กองทัพพระราชวังห้าวหาญเต็มไปด้วยพลังแต่ในที่สุดไม่อาจปราบกลุ่มคนมากมายของโจว่เฉิงได้ดังนั้นหลังจากกองสนับสนุนของโจว่เฉิงมาถึงเพียงเวลาเท่าครึ่งจอกชาก็แพ้ย่อยยับ
หลังจากทหารพระราชวังคนสุดท้ายล้มลงโจว่เฉิงขี่ม้ามาที่หน้าอี้เซิงเขาไม่ลงจากม้าพูดจากด้านบนมายังด้านล่าง“ยังดีที่ข้ามาทันเวลามิฉะนั้นก็ช่วยพวกเจ้าไม่ได้แล้ว”
อาจเป็นไปได้คือสงครามเต็มไปด้วยชัยชนะโจว่เฉิงพูดขึ้นมาก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นนัก มาดท่าทางสูงทะนงยิ่งกว่าเมื่อก่อน รู้สึกเหยียดหยามประชาชนมากนัก
พวกหลินซีนเยียนไม่มีท่าทีจะพูดกับเขาทั้งหมดจึงเงียบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...