ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต นิยาย บท 72

ตอนที่ 72 ชีวิตที่เงียบสงบ

ในช่วงระยะนี้ เมืองเฟิ่งซี แม้จะเป็นเมืองหลวงของแคว้นหนานเยว่ แต่ราคาที่อยู่อาศัยไม่ถือว่าแพงมาก ถึงอย่างไรบ้านเรือนของที่นี่จะใช้เป็นเพียงที่พักอาศัย แต่ไม่ได้ใช้ในการเพิ่มมูลค่า

หลินซีนเยียนเดินดูบ้านพักอาศัยที่นายหน้าขายบ้านแนะนำ ทั้งหมดเป็นบ้านที่ดูใหญ่และสวยมาก แถมราคาก็ไม่แพงด้วย ราคาบ้านที่แพงที่สุดแค่หนึ่งพันตำลึงเท่านั้น มันทำให้ตัวเธอที่มาจากยุคปัจจุบันถอดถอนหายใจไม่หยุดหลายรอบ ในเมืองหลวงยังกล้าขายบ้านถูกขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมที่ดินในยุคโบราณมันถูกกว่ายุคปัจจุบันขนาดนี้นะ?

แต่ว่าพูดถึงเรื่องชนชั้นล่ะก็ ชนชั้นสูงเป็นขุนนาง ชั้นชนกลางเป็นพ่อค้า ส่วนชนชั้นล่างเป็นชาวนา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาพยายามสอบเป็นขุนนางกัน เพราะดูถูกอาชีพพ่อค้า หากว่าได้เป็นขุนนาง ไม่ว่าจะร่ำรวยล้นฟ้าแค่ไหน ในสายตาของพวกขุนนางกันเองก็ถือว่าไม่เป็นอะไร

หลินซีนเยียนถอนหายใจอีกครั้ง ในเมื่อเป็นหญิงสาวที่เดินทางข้ามภพมา จะเป็นขุนนางก็เป็นไม่ได้ แต่เรื่องการทำธุรกิจแย่งผลประโยชน์กันล่ะก็ เธอก็อยากจะลองทำอยู่เหมือนกัน บางทีอาจเป็นเพราะว่าดวงวิญญาณที่มาจากยุคปัจจุบัน ดังนั้นการที่เป็นคนมีเงินจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดและก็น่าเชื่อถือที่สุดในโลกใบนี้ด้วย

เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะตก ในที่สุดหลินซีนเยียนก็เลือกบ้านที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กสำหรับคนสองคน ที่ลานบ้านก็ไม่ใหญ่มาก ในบ้านก็มีอยู่ไม่กี่ห้อง แต่สำหรับหลินซีนเยียนกับอี้เซิงก็ถือว่าใหญ่มากเกินพอแล้ว เหลือเพียงห้องอยู่ไม่กี่ห้องไว้สำหรับคนงานมาช่วยทำงานก็พอ

เจ้าของบ้านดูเหมือนจะเพิ่งออกจากเมืองหลวงไป ดังนั้นข้าวของในบ้านก็ถือว่ายังพอมีอยู่ คืนนี้ทั้งสองคนก็พักในบ้านนี้ไปก่อน วันรุ่งขึ้นค่อยไปหาซื้อข้าวของมาเพิ่มอีก

มองดูพวกคนงานก็ย้ายเครื่องตกแต่งทีละอย่างเข้ามาในบ้าน หลินซีนเยียนที่ยืนอยู่ตรงทางเดินอดไม่ไหวที่จะหยิกใบหน้าของตนเองดู ก็เจ็บนี่ มันไม่ใช่ความฝัน

เธอออกมาจากจวนอ๋องแล้วจริงๆ สามารถมีชีวิตอยู่กับอี้เซิงได้อย่างมีความสุขแล้ว

อี้เซิงก็ดีใจอย่างมาก ทุกวันตามหลินซีนเยียนเข้าเมืองไปเลือกซื้อของ เมื่อผ่านไปแล้ว 5 วัน ในที่สุดข้าวของในบ้านทั้งหมดก็มีครบครันอย่างที่เธอต้องการไว้แล้ว

เช้าตรู่วันนี้ก็มียายแก่พาเด็กสาวอายุ 10 กว่าปีมาที่หน้าบ้านอยู่หลายคน 2 วันก่อนหลินซีนเยียนได้ไปหานางเพื่อจะหาคนมาทำงาน คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ 2 วัน นางก็หาคนมาได้มากขนาดนี้

เมื่อเห็นว่าเด็กสาว 7-8 คนที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีท่าทางหวาดกลัว หลินซีนเยียนก็ขมวดคิ้ว แล้วให้แต่ละคนแนะนำตัวเองทีละคน พอได้ยินพวกนางแนะนำตัว คิ้วของเธอก็ยิ่งขมวดแน่นกว่าเดิม

ที่แท้เด็กสาวพวกนี้ก็เป็นชาวบ้านที่อยู่แถบชานเมืองใกล้ๆ นี้ ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าในบ้านมีพี่น้องเยอะมากเกินไป ทำให้มีชีวิตที่ยากลำบาก ดังนั้นคนในบ้านจึงขายพวกนาง โดยเฉพาะเด็กสาวตัวเล็กๆ ที่ยืนอยู่ตรงมุม มีรูปร่างผอมแห้ง เดินเท้าเปล่า ในฤดูหนาวมีเพียงเสื้อบางๆสวมใส่ พอมีลมพัดมาก็หนาวสั่นไปทั้งตัว

เธอถอดถอนหายใจ ชี้นิ้วไปยังเด็กสาวคนนั้น “ให้นางอยู่ ส่วนคนอื่นข้าจะให้เงินคนละ 1 ตำลึงแล้วให้พวกนางกลับไป ”

การเลือกคนทำงานไม่ใช่ทำบุญ เธอไม่ใช่นักบุญสักหน่อย ย่อมต้องเลือกคนที่มีสุขภาพแข็งแรงมาทำงาน แต่ถ้าเธอมองเห็นเด็กคนนั้นที่กำลังหนาวตัวสั่นและจางหายไปด้วยสีหน้าผิดหวัง เธอก็รู้สึกเจ็บใจมาก

“แม่นางเลือกนางคนนี้หรือเจ้าคะ?”ยายแก่ตกตะลึงจนหยุดชะงักไปสักพัก

หลินซีนเยียนพนักหน้า หยิบเงินออกมาจากในเสื้อมอบพวกนางแต่ละคน 1 ตำลึง แม้ว่าเงินจำนวนนี้อาจจะไม่มากพอสำหรับครอบครัวหนึ่ง แต่พอที่จะให้พวกนางหาซื้อของกินได้ครึ่งเดือน ดังนั้นสีหน้าของพวกนางแสดงความแปลกใจออกมา สุดท้ายก็หมดหวัง เมื่อเจ้านายที่ใจกว้างขนาดนี้ไม่รับพวกนางอยู่ต่อ ช่างรู้สึกน่าสงสารจริงๆ

หลินซีนเยียนก็ยื่นมือไปลูบหัวของนาง “เอ้อร์ยา ต่อไปเจ้าก็มาช่วยงานข้าที่นี่ ทุกเดือนข้าจะให้เงินเจ้าเป็นค่าแรง รอจนกว่าวันที่เจ้าอยากจะจากไป ข้าเพียงบอกเจ้าไว้ก่อนล่วงหน้า”

“ค่าแรงรึ?”เอ้อร์ยาเบิกตาโพลง “ไม่ใช่ข้าขายตัวให้คุณหนูแล้วรึ?”

หลินซีนเยียนยิ้มแล้วส่ายหน้า “ข้าไม่ได้ซื้อทาสสักหน่อย ข้าเพียงเชิญคนมาช่วยงาน”เธอพูดไม่ได้ไว้หน้าของเอ้อร์ยาที่บอกว่าได้ขายตัวให้เธอแล้ว

เอ้อร์ยาตกตะลึงจนพูดไม่ออก ผ่านไปสักพัก จู่ๆ นางก็น้ำตาไหล แต่ก็ยังไม่เอ่ยอะไร เพียงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าของหลินซีนเยียน และก้มหน้าโขกศีรษะลงพื้นอยู่หลายที

หลินซีนเยียนอดไม่ไหวจนถอนหายใจออกมา คนที่อยู่ในสังคมนี้ ตกใจนิดตกใจหน่อยก็นั่งคุกเข้าลง เธอรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้“เพิ่งจะบอกไปเองทำไมถึงลืมแล้ว ต่อไปไม่ต้องคุกเข่าให้คนอื่นตามใจชอบอีก”

เอ้อร์ยารีบเช็ดน้ำตา แล้วลุกขึ้นมาทันที “อื้ม คุณหนูว่ายังไงก็ตามนั้นเจ้าคะ”

หลินซีนเยียนส่ายหน้า สำหรับคนธรรมดาที่โดนความคิดของสังคมศักดินาครอบงำอย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งที่เธอทำได้นั้นมีน้อยมาก บางที ในสายตาของพวกเขา ถึงเธอจะมีชีวิตที่แตกต่าง แต่เธอก็ไม่ได้หวังให้เอ้อร์ยาเข้าใจความคิดของเธอ เธอเพียงจะทำมันให้ดีที่สุด ไม่ให้ละอายใจตนเองก็พอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต