ตอนที่ 73 หลุดพ้นจากการควบคุมไม่ได้
เอ้อร์ยาทำงานได้หลายอย่างเกินกว่าที่หลินซีนเยียนคาดการณ์เอาไว้อีก แถมนางยังทำได้คล่องแคล่ว แต่บางทีก็กลัวว่าเจ้านายจะตำหนิ ดังนั้นนางจึงตั้งใจทำงานอย่างมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้อยู่ในเรือน นางก็ทำความสะอาดทั้งเรือนไปรอบหนึ่ง แล้วยังทำอาหารรสชาติดีอีกต่างหาก
ยามพลบค่ำ กลิ่นหอมฟุ้งของอาหารได้อบอวลไปทั่วโต๊ะอาหาร
อี้เซิงได้กลิ่นหอมนั้นก็จ้องไปยังอาหารหลากสีสันตั้งอยู่บนโต๊ะอย่างตกตะลึง ที่มุมปากราวกับมีน้ำลายไหลออกมา เมื่อหลินซีนเยียนเดินมาเห็นต้องชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เรียกเอ้อร์ยาด้วยท่าทางที่ดูร้อนรน “เอ้อร์ยา ฝีมือการทำอาหารของเจ้าเรียนมาจากที่ไหนหรือ? ฝีมือระดับนี้สามารถเปิดร้านอาหารได้เลยรู้หรือไม่”
เอ้อร์ยายิ้มอย่างเคอะเขิน “เมื่อก่อนพ่อของข้าเคยเป็นพ่อครัวมาก่อน ดังนั้นข้าจึงได้ร่ำเรียนมาบ้าง ”
“อ๋อ งั้นข้าก็เก็บของล้ำค่ามาได้น่ะสิ”หลินซีนเยียนกวักมือเรียกเอ้อร์ยามานั่งทานข้าวด้วยกัน เอ้อร์ยาเริ่มสงวนท่าที แต่ในที่สุดก็สู้ฉิวลั่วเยียนไม่ได้ จึงเดินมานั่งลงทานข้าวอย่างว่าง่าย
แสงไฟสีเหลืองหม่นสว่างไปทั่วห้อง สะท้อนเป็นภาพเงาทั้งสามที่ทานข้าวพร้อมเพรียงกันอย่างสนุกสนาน
เห็นอี้เซิงมีพอใจไปกับการกินข้าวด้วยคำใหญ่ๆ ส่วนใบหน้าของเอ้อร์ยาก็ดูมีความสุข หลินซีนเยียนรู้สึกว่าทุกอย่างมันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตอนที่นั่งทานข้าวอย่างมีความสุขปราศจากแรงกดดันครั้งแรกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร
ถ้าหากหยุดช่วงเวลาแบบนี้ได้ ควรจะดีไม่น้อยเลย
น่าเสียดาย ยิ่งทำให้คนตัดใจไม่ได้ มันยิ่งจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในค่ำคืนนี้ มีฝนปรอยๆตกดังเปาะแปะ ลมหนาวที่พัดมากระทบกันหน้าต่างเกิดเป็นเสียงปังปังดังตลอดทั้งคืน
หลินซีนเยียนนอนหลับอย่างรู้สึกกระวนกระวาย หลับตาและพลิกตัวไปอีกฝั่ง ทันใดนั้น เธอก็เบิกตาโพลงแล้วหันหน้ากลับไปมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ
นอนหลับมาครึ่งค่อนคืน จู่ๆ ก็มีคนมานอนอยู่ข้างๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอตั้งสติได้ทัน เกรงว่าจะตกใจตายไปนานแล้ว
เธอกำลังจะส่งเสียงกรีดร้อง แต่ถูกมืออุ่นๆของคนนั้นมาปิดที่ปากของเธอ
“ข้าเอง”
เพียง 3 คำง่ายๆ ยิ่งเพิ่มความคุ้นเคยของน้ำเสียงนั้น ในช่วงวินาทีนั้นทำให้หลินซีนเยียนเบิกตาโพลงกว้างกว่าเดิมอีก ความหวาดกลัวในตอนแรกได้หายไปในที่สุด พร้อมกับความเกลียดชังที่บังเกิดขึ้นในใจ
“ท่านอ๋อง ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร”ความเกลียดชังที่อยู่ในดวงตาได้หายไปอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนมาแทนที่ด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
“ทำไมหรือ เห็นข้าแล้วไม่ดีใจ?”น้ำเสียงของโม่จื่อเฟิงไม่แสดงความดีใจหรือโกรธเคืองใดๆ
หลินซีนเยียนยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “จะเป็นไปได้อย่างไร บ่าวต้องดีใจที่ได้เจอท่านอ๋องสิเพคะ”ดีใจกับมารดาสิ เห็นผียังรู้สึกดีใจกว่ามาเห็นเขาเสียอีก
“เช่นนั้นก็ดี”โม่จื่อเฟิงยื่นมือออกไปควักตัวเธอเข้ามาอ้อมอกของตนเอง “หลายวันนี้อยู่นอกจวนมีชีวิตดีหรือไม่?”
“อื้ม ดีเพคะ”สถานที่ที่ไม่มีเขา ไม่ว่าที่ไหนก็ดีไปหมด
โม่จื่อเฟิงเอามือไปประคองที่หลังของเธอ แล้วค่อยๆลูบไล้ลงมาเรื่อยๆ ฝ่ามือของเขาร้อนอย่างมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไม หลินซีนเยียนกลับรู้สึกหนาวเย็นอย่างบอกไม่ถูก
“ทะ ท่านอ๋อง ท่านบอกว่าปล่อยพวกเราออกจากจวนแล้วไม่ใช่หรือ?”หลินซีนเยียนโกรธจนกัดฟันพูด แต่ไม่กล้าแสดงความโกรธที่อยู่ภายในใจออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...