ตอนที่ 74 ความหวัง
เช้าวันรุ่งขึ้น ฝนก็หยุดตกแล้ว แต่ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มอยู่ ราวกับจะมีขี้เถ้าร่วงหล่นลงมาอยู่ตลอดเวลา
ท้องฟ้ายังไม่สว่าง เอ้อร์ยาก็ไปทำอาหารเช้าในห้องครัว พอท้องฟ้าสว่างก็มีโจ๊กพร้อมกับกับข้าว 2-3 อย่างจัดวางอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
“ข้าทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว ต้องไปเรียกคุณหนูมาทานหรือไม่?”เอ้อร์ยาลังเลอยู่สักพัก แล้วก็เอ่ยขึ้นมาอีก “แล้วก็ คนผู้นั้นที่อยู่ในห้องของคุณหนูก็ต้องทานหรือไม่?”
“พวกเขาไปแล้ว”อี้เซิงเดินออกมาจากห้อง สายตามองไปยังประตูห้องของหลินซีนเยียน หันหลังไปสูดลมหายใจแล้วก็เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น “ให้พี่นอนต่อสักหน่อยเถอะ พวกเราก็ทานข้าวกันก่อน”
อี้เซิงเดินมาที่ห้องอาหาร นั่งลงและเริ่มทานข้าวอย่างเอาเป็นเอาตาย เพียงหายใจเฮือกเดียวก็ทานโจ๊กไปแล้ว 3 ชาม ตอนที่กำลังจะต่อชามที่ 4 เอ้อร์ยาก็จับที่มือของเขา “ข้าวมื้อหนึ่งกินเยอะขนาดนี้ ระวังจะปวดท้องเอา”
“ถ้าไม่กินเยอะ แล้วจะรีบโตได้อย่างไรล่ะ?”อี้เซิงปัดมือของเอ้อร์ยาออกแล้วตักโจ๊กใส่ชามตัวเอง
เอ้อร์ยามองเขาอย่างตะลึง แต่ไม่ได้ห้ามเขาอีก เพียงมองไปที่ห้องของหลินซีนเยียนเหมือนมองหาตัวช่วย แต่น่าเสียดายที่ประตูห้องนั้นกลับปิดแน่นสนิท ภายในก็ไม่ส่งเสียงอะไรเลย
ตอนเที่ยงตรง ในที่สุดหลินซีนเยียนก็ลุกขึ้นจากเตียง วันนี้เธอรู้สึกหนาวจึงได้สวมเสื้อกันหนาวตัวหนาๆ นอกจากโผล่ให้เห็นเพียงใบหน้า ทั้งตัวของเธอก็คลุมไปด้วยเสื้อกันหนาวอย่างมิดชิด
“พี่”อี้เซิงกำลังฝึกกระบวนท่าอยู่ในลานบ้าน เมื่อเห็นหลินซีนเยียนเดินออกมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที
หลินซีนเยียนจัดแจงเสื้อผ้าให้เขาอย่างเป็นระเบียบ แล้วมองไปยังในลานบ้าน “ทำไมไม่เห็นเอ้อร์ยา?”
“ข้าให้นางไปซื้อไก่”อี้เซิงตอบ
“อี้เซิงอยากกินไก่หรือ?”หลินซีนเยียนจูงมืออี้เซิงไปนั่งลงที่ม้านั่งในลานบ้าน
อี้เซิงส่ายหน้า จากนั้นก็เดินไปด้านหลังของเธอและนวดไหล่ให้ “ทำน้ำแกงไก่บำรุงร่างกายให้พี่ดื่มยังไงขอรับ”
ในช่วงเวลานั้น ดวงตาของหลินซีนเยียนรู้สึกถึงความชื้นแฉะ หากเมื่อคืนเป็นเสมือนขุมนรกที่ป่าเถื่อน แต่ในช่วงขณะนี้เธอกลับโชคดีที่ได้มองเห็นแสงสว่างของความหวังแล้ว
“อี้เซิง ขอบใจเจ้านะ”ไม่เพียงแต่ขอบคุณน้ำแกงไก่ของเขา แต่ขอบคุณที่เจ้าช่วยทำให้เธอได้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่โหดร้ายนั้นไปได้
“พี่ ต่อไปไม่ต้องขอบคุณแล้ว ในภายภาคหน้าพวกเราต้องมีชีวิตที่ดีอย่างแน่นอน และต้องมีสักวันที่พวกเราสามารถหลุดพ้นจากคนผู้นั้นได้ ”อี้เซิงที่เพิ่งกระบวนท่ามาทำให้ทั่วร่างกายของเขาอบอุ่น เขาจับมือของหลินซีนเยียน รู้สึกว่ามือของเธอเย็นราวกับน้ำแข็ง เขาจึงรีบใช้มือเล็กๆของตนเองกุมมือของเธอเอาไว้
หลายวันนี้ อี้เซิงเริ่มพูดมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเปรียบเทียบกับเด็กทั่วไปแล้ว เขาก็ยังคงเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่เขาดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนอยู่มาก
หลินซีนเยียนรู้สึกสงสัยจึงชะโงกหน้าไปดู พวกเธอย้ายมาอยู่บ้านนี้ได้ไม่ถึงครึ่งเดือน นอกจากโม่จื่อเฟิงก็ไม่มีใครอื่นรู้ เธอพยักหน้าให้เอ้อร์ยา เอ้อร์ยาก็วางเมล็ดก๋วยจี๊แล้วเดินไปเปิดประตูหน้าบ้าน
ด้านนอกประตูเป็นสตรีวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์ถือตะกร้าหนึ่งใบอยู่ในมือ ใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจริงใจ ข้างกายของนางยังมีเด็กชายอายุประมาณ 6-7 ขวบอยู่คนหนึ่ง
“ข้าคือสะใภ้เหล่าหลี่ที่อยู่บ้านข้างๆ นี่ก็ใกล้จะข้ามปีแล้ว ข้าทำขนมเทียนไว้เยอะ พวกเพื่อนบ้านที่อยู่ในตรอกซอยนี้ข้าก็แบ่งให้ไปเกือบหมดแล้ว ”ตอนที่สะใภ้เหล่าหลี่พูดอยู่ก็ส่งกระดาษห่อที่อยู่ในตะกร้าให้กับเอ้อร์ยา
เอ้อร์ยาหันหน้าไปมองหลินซีนเยียน หลินซีนเยียนเพียงยิ้มแล้วลุกขึ้นเดินไปยังปากประตู “เอ้อร์ยารีบรับไว้สิ งั้นพวกเราก็ขอขอบคุณสะใภ้หลี่ อากาศหนาวเช่นนี้พวกเด็กๆคงจะอยากกินกัน”
“ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง พวกเราล้วนเป็นเพื่อนบ้านกัน ต่อไปยังต้องพึ่งพากันอีกอยู่มาก ข้าเป็นคนทางใต้ มาอยู่เมืองเฟิ่งซีก็ไม่ค่อยรู้จักใครเท่าไรเลยต้องมาพึ่งพาเพื่อนบ้านเนี่ยแหละ”ตอนที่สะใภ้เหล่าหลี่พูด เด็กชายที่อยู่ข้างๆ ก็จ้องไปที่หลินซีนเยียนอย่างตกตะลึง เมื่อสะใภ้เหล่าหลีเห็นเข้าก็เอามือตบไปที่หน้าผากของเขาทีหนึ่ง “เจ้าเด็กนี่ ไปจ้องหน้าเขาทำไมกัน”
“แม่ พี่สาวคนนี้สวยจังเลย” เด็กชายเอ่ยขึ้น โดนไม่คิด “ พี่สาวเป็นเพื่อนบ้านที่เพิ่งมาใหม่ ดังนั้นพวกเราจึงเดินมาดูว่าพี่สาวงดงามหรือไม่ ท่านแม่บอกเองว่าจะหาสะใภ้ให้พี่ชายมิใช่หรือ? ”
เด็กชายเอ่ยออกมาจากจริงใจ แต่กลับทำให้สะใภ้เหล่าหลี่หน้าแดงก่ำ โกรธจนเอามือตบไปที่หน้าผาก “พูดเหลวไหล! เจ้าเด็กคนนี้นี่ทำไมถึงได้พูดจาเหลวไหล ต่อไปจะไม่พาเจ้ามาด้วยแล้ว”
สะใภ้เหล่าหลี่หันหน้ามาพูดกับหลินซีนเยียน “น้องสาว เจ้าอย่าไปฟังเขาพูดเลย หากไม่ใช่ว่าเพราะแม่นางงดงามราวกับเทพเซียน ลูกชายของข้าไหนเลยจะคู่ควร แต่ไม่ใช่ว่าสะใภ้เหล่าหลี่อย่างข้าจะคุยโวโอ้อวด คนที่อยู่แถวนี้ข้าก็รู้จักหมด ในหนึ่งปีนี้ข้าไปทาบทามให้ล้วนได้แต่งงานไปแล้ว 5-6 งาน หากเจ้ายังไม่ได้แต่งงาน ข้าสามารถช่วยเจ้าในเรื่องนี้ได้ ท่านพ่อท่านแม่ของเจ้ายังอยู่ในบ้านหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาสุดที่รักของท่านอ๋องอำมหิต
ลูกหาย5555...
นางเอกเป็นพวกชอบความเจ็บปวด อ่านแล้วเหนื่อย เหมือนเราเห็นชีวิตคู่ผัวซ้อมเมีย แล้วอยากจะช่วยให้เค้าออกมา ผู้หญิงบอกไม่ต้อง เค้าถูกจริตแบบนี้ สงสารน้องชาย ช่วยมาก็จริง ทุกคืนต้องมานอนฟังอีผัวเมียคู่นี้มันทำร้ายกัน ป่วยจิตสุดๆ...
ทำไมนางเอกไม่คิดประกิษฐ์อาวุธไว้ป้องกันตัวเลยสักที เจอเหตุร้ายตลอดแต่ไม่เคยคิดปกป้องตัวเอง แล้วบอกว่าเป็นนักสร้างอาวุธนี่นะ...