ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 10

ซูอีเฉินยกมือขึ้นปัด บอดี้การ์ดชุดดำเจ็ดแปดคนด้านหลังรีบมุ่งเข้ามา ลากคนตระกูลหลินทั้งสามคนออกไปข้างนอก

“คุณซูให้พวกแกออกไป ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ”

“ที่ไหนมีชิ้นส่วนพวกแก หมาก็ยังต้องรังเกียจเดียดฉันท์พวกแก!”

บอดี้การ์ดชุดดำลากไปด้วยพลางก่นด่าไปด้วย จากนั้นโยนคนตระกูลหลินเอาไว้นอกบ้าน!

เพราะความเอิกเกริกของตระกูลซู เวลานี้เหล่าเพื่อนบ้านรอบๆ บ้านต่างยืดคอยาว บางคนแสร้งทำเป็นดื่มชาอยู่ในสวน บางคนแสร้งทำเป็นจูงสุนัขผ่านมา ต่างกำลังดูเรื่องตลกของคนตระกูลหลิน

คุณท่านหลินกับนายหญิงหญิงหน้าแดงไปหมด รู้สึกเพียงทั้งขายหน้าและโกรธแค้น

แต่นี่เป็นบ้านของพวกเขานะ!

คนตระกูลซูทำไมถึงได้โยนพวกเขาออกมาอย่างโหดร้ายแบบนี้ ไม่สมเหตุสมผลเกินไปแล้ว!

คนตระกูลหลินใช้ชีวิตอย่างมีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวย รับไม่ได้กับความน้อยเนื้อต่ำใจนี้

แต่อีกฝ่ายคือตระกูลซูแห่งจิงตู ไม่ว่าพวกเขาจะน้อยเนื้อต่ำใจแค่ไหนก็ไม่กล้าทำอะไร

ทำได้เพียงแค่รอตาปริบๆ ให้คนตระกูลซูออกมาอยู่นอกบ้าน...

ไม่มีการก่อกวนของคนตระกูลหลิน เสี่ยวซู่เป่าจึงล่อนกแก้วต่อไป

“เสี่ยวอู่ๆ มาเร็วๆ! แกดูสินี่คืออะไร”

เจ้าเด็กน้อยเอียงศีรษะ ทันใดนั้นก็ยื่นมือออกไป ในฝ่ามือมีแอปเปิลครึ่งซีกเล็กๆ วางอยู่

นี่คือแอปเปิลที่ซูอี้เซินหั่นให้เธอตอนออกจากโรงพยาบาลเมื่อเช้า เธอแอบซ่อนไว้ชิ้นหนึ่ง

นกแก้วขยับไปด้านข้างอยู่บนยอดไม้ โยกตัวไปมา ดวงตาดวงน้อยๆ กลอกไปกลอกมา มองประเมินคนตระกูลซู

ขณะนี้คนตระกูลซูอยู่ห่างมากๆ คุณท่านซูใช้ไม้เท้าค้ำดูแล้วใบหน้าเต็มไปด้วยความขึงขัง แต่นัยน์ตาเผยให้เห็นความตึงเครียดนิดหน่อย

ซูอิ๋งเอ่อร์ยิ่งร้อนใจ แทบอยากจะงอกปีกคู่หนึ่งออกมา บินไปจับนกแก้ว แล้วกดหัวนกกินผลไม้ซะ!

ดูสิ! เจ้าเด็กน้อยของพวกเขายกมือจนเมื่อยไปหมดแล้ว!

ไม่รู้ว่าซูอี้เซินไปเอาธัญพืชสำหรับป้อนนกมาจากไหน เทไว้ในมือแล้วล่อต่อไปเป็นเพื่อนซู่เป่า “ธัญพืชห้าชนิดสดๆ หอมๆ เอาไหม”

ซู่เป่าพยักหน้าอย่างแรง “ลุงเล็กไม่ใช่คนเลว เสี่ยวอู่รีบมาเร็วเข้า เราจะไปกันแล้วนะ”

เหล่าคนตระกูลซูที่อยู่ข้างๆ มองซูอี้เซินกับซู่เป่า ไม่รู้ว่าสองคนนี้ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร จู่ๆ ก็มีความอิจฉาขึ้นมาหน่อยๆ...

ในขณะนี้เอง ในที่สุดนกแก้วก็บินพึ่บพั่บมา ยื่นขา แล้วเหยียบบนหัวของซูอี้เซิน

ซูอี้เซิน “…”

ทันใดนั้นเสี่ยวซู่เป่าก็หัวเราะคิกคักเบาๆ ออกมาเสียงหนึ่ง เหล่าคนตระกูลซูมองเธออย่างเหลือเชื่อ

ตั้งแต่ต้น เสี่ยวซู่เป่าก็ราวกับเป็นหุ่นยนต์ตัวน้อยที่รู้สึกชาชินคนหนึ่ง น้ำเสียงก็ไม่มีขึ้นไม่มีลงเลยแม้แต่น้อย...

สิบวันช่วงพักฟื้นมานี้ บนใบหน้าเล็กๆ ของเธอเองก็ไม่เคยเผยรอยยิ้มเลย ไม่ว่าจะอย่างไรก็จะระมัดระวัง เชื่อฟังจนทำให้คนปวดใจ

ในที่สุดตอนนี้ก็ยิ้มแล้ว...

เบ้าตาของคุณท่านซูร้อนผ่าว คิดว่าตัวเองแก่แล้ว สองวันนี้เอาแต่อยากร้องไห้อย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ตลอด

นกแก้วเห็นซู่เป่ายิ้มแล้ว ราวกับยิ่งภูมิใจ กางปีกขยับไปมา “ตอแหลๆ!”

ซูอี้เซิน “…”

ซู่เป่าอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคัก ตั้งใจแก้ไขให้ถูกต้อง “ไม่ใช่ตอแหล แต่คือลุงเล็กต่างหาก!”

นกแก้ว “เสี่ยวจิ่ว! เสี่ยวจิ่ว!”

ซูอี้เซินแสยะยิ้ม อยากจะรวบนกแก้วตัวนี้ลงมา

นกสีเขียวมีสีสันสดใสตัวหนึ่งเกาะอยู่บนหัวของเขา มันเข้าท่าที่ไหน

แต่เห็นซู่เป่าอารมณ์ดีขนาดนี้ อารมณ์ร้อนใดๆ ของซูอี้เซินก็มลายหายไปแล้ว

เขาเทธัญพืชกระจายไว้ในมือ ล่อนกแก้วให้บินไปที่ไหล่ของเขา แล้วใช้โอกาสตอนที่มันเผลอจับขาของมันเอาไว้

นกแก้วร้องเสียงดังในทันใด “ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! อย่าตุ๋นฉัน! อย่าตุ๋นฉัน!”

ทุกคน “...”

จะว่าไป นกแก้วตัวนี้ชอบเอะอะโวยวายมากจริงๆ...

สุดท้ายตอนนี้นกแก้วก็ถูกใส่โซ่ที่ขา แล้วออกจากบ้านตระกูลหลินไปด้วยกัน

ซู่เป่าลูบนกแก้วตัวน้อย ขยับไปข้างหูมันแล้วใช้เสียงที่มีเพียงเธอและมันเท่านั้นที่ได้ยินปลอบประโลม “ไม่ต้องกลัวนะ นี่คือสร้อยคอ เสี่ยวอู่ใส่สร้อยคอแล้วดูดีจริงๆ! รอกลับถึงบ้านก่อนแล้วค่อยปลดให้แกนะ”

คุณท่านซูยันไม้เท้า มองไปรอบๆ บ้านด้วยดวงตาที่ขุ่นมัวทั้งสอง

นี่คือที่ที่ลูกสาวสุดที่รักของเขาอยู่ก่อนตาย ไม่รู้ว่าตอนที่เธออยู่ที่นี่ได้กินดี หลับสบายหรือเปล่า...

ตอนที่อาการป่วยกำเริบขึ้นมา มีใครเอาใจใส่ดูแลหรือเปล่า...

สวนหลังบ้านตรงนี้เธอเคยมาไหม ชอบเหม่อลอยมองต้นไม้นอกหน้าต่างต้นนั้นใช่ไหม

ในใจคุณท่านซูเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม เหล่าพี่น้องตระกูลซูเห็นคุณท่านซูเม้มปากแล้วเดินอย่างช้าๆ ในใจพวกเขาเองก็หนักอึ้งเช่นกัน

นอกบ้าน

หลินเฟิงเห็นพวกเขาออกมา รีบเข้ามารับหน้าทันที

เมื่อครู่คนตระกูลซูไม่สนใจพวกเขา ตอนนี้เขาต้องหาจุดอ่อนซู่เป่าให้ได้

คุณท่านหลินยิ้มแย้ม “นี่ ฝ่ายคุณท่านซูเก่งกาจอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด จับไปได้ทั้งแบบนี้เลย”

หลินเฟิงเองก็พูดอย่างยิ้มแย้ม “ซู่เป่าชอบนกแก้วสินะ...หนูดูสิพ่อนี่สะเพร่าจริงๆ ต่อไปพ่อจะซื้อนกแก้วให้ซู่เป่าเยอะๆเลย ดีไหม”

บางทีเด็กก็ไม่ประสีประสาเท่าคนใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่ได้โง่

ซู่เป่าเห็นรอยยิ้มอันจอมปลอมของหลินเฟิง จึงก้มหน้าไม่พูดไม่จา กอดกระต่ายน้อยกับนกแก้วไว้แน่น

เธอไม่ได้ต้องการนกแก้วเยอะๆ หลังแม่ตาย เธอเพียงต้องการให้พ่อกอดเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน