ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 9

อีกฝั่งหนึ่ง หลังไล่มู่ชิ่นซินไปแล้ว ซูอี้เซินยังหลอกล่อนกอยู่เป็นเพื่อนซู่เป่า

ซูอี้เซินเหนื่อยใจเป็นอย่างมาก จับไม่ได้หลอกล่อได้เพียงอย่างเดียว นกแก้วไม่ใช่คนสักหน่อย แล้วนี่จะเรียกยังไง

“เจ้านกแก้วตัวน้อย รีบออกมาเถอะ ฉันจะให้แกกินเนื้อเลย” ซูอี้เซินหลอกล่ออย่างแสดงละครตบตาไม่ได้เรื่อง

นกแก้วจ้องซูอี้เซิน ส่ายหน้าหงิกๆ ราวกับชายหนุ่มจอมทะเล้นอย่างนั้น “ไม่กินเนื้อ ไม่กินเนื้อ กินเนื้อมันจะอ้วนตุ๊ต๊ะ!”

ก็คือไม่ลงมานั่นเอง

ซูอี้เซินสูดลมหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ตัดสินใจใช้ไม้เด็ด “ซู่เป่า เราไปกันเถอะ ไม่ต้องไปสนใจมันแล้ว!”

ซู่เป่าร้อนใจ จับเสื้อผ้าของซูอี้เซินเอาไว้แล้วขอร้อง “ไม่เอา ลุงเล็กอย่าทิ้งเสี่ยวอู่...”

เธอร้อนใจจนในดวงตามีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมา แต่ไม่กล้าร้อง

ซูอี้เซินใจตุ้มๆ ต่อมๆ นึกเสียใจในทันที

เขารีบขอโทษ “ขอโทษนะๆ ลุงเล็กผิดเอง ลุงเล็กไม่ควรพูดแบบนี้”

ในโลกของเด็กน้อย ‘การใช้ความรุนแรง’ กับเจ้าตัวเล็กของเธอ ก็เหมือนกับใช้ความรุนแรงกับเธอเช่นกัน

ซูอี้เซินตระหนักได้ถึงปัญหาข้อนี้ แทบอยากจะต่อยตัวเองสักหมัด

ซู่เป่าอึ้ง เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดขอโทษกับเธอ...

ทันใดนั้นเจ้าเด็กน้อยก็เผยใบหน้าที่มีรอยยิ้มออกมา ตบบ่าของซูอี้เซินแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรนะคะลุงเล็ก!”

ก่อนหน้านี้เธอเองก็พูดคำว่าขอโทษมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีใครพูดคำว่าไม่เป็นไรกับเธอเลย

ด้วยเหตุนี้เสี่ยวซู่เป่าจึงอภัยให้ซูอี้เซินในทันใด เพราะเธอรู้ว่าคนที่ไม่ได้รับคำว่า ‘ไม่เป็นไร’ ตอบที่จริงมันน่าเสียใจขนาดไหน

สองลุงหลานหลอกล่อนกกันต่อไป

เสี่ยวซู่เป่า “เสี่ยวอู่เป็นเด็กดีนะ รีบออกมาเถอะ เมื่อกี้ลุงเล็กแค่หลอกแกน่ะ เขาไม่ใช่คนไม่ดีนะ”

ซูอี้เซิน “เสี่ยวอู่ขอโทษนะ แกลงมาเถอะ! แล้วเราไปจิงตูกัน คฤหาสน์ที่จิงตูใหญ่มากเลยนะ แกยังหาตัวเมียได้อีกด้วย...อะแฮ่มๆ”

ซูอิ๋งเอ่อร์ ซูเยว่เฟยและซูลั่วเห็นว่านานแล้วเสี่ยวซู่เป่าก็ยังไม่กลับมา ออกตามหาจนมาเจอที่สวนหลังบ้าน

ดังนั้นจึงเห็นฉากแปลกๆ หนึ่งคนโต หนึ่งตัวเล็กหลอกล่อนกตัวหนึ่ง

หลังจากได้รู้ต้นสายปลายเหตุทั้งสามคนก็ได้เข้าใจ ที่แท้จุดประสงค์ที่ซู่เป่ายืนกรานจะกลับตระกูลหลินให้ได้ก็คือนกแก้วตัวนี้นี่เอง

นกแก้วเป็นเพียงนกหงส์หยกธรรมดาๆ ตัวหนึ่ง ทั้งตัวมีขนสีเขียวมรกตสดใส นัยน์ตาดวงน้อยกลอกไปกลอกมา กำลังจ้องมองมาที่พวกเขา

ซูอิ๋งเอ่อร์ ‘หัวหน้าคนงาน’ แสนอารมณ์ร้อนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ก่อนใคร พูดหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาว่า “ฉันละยอมแกจริงๆ เจ้าแปด นกตัวเดียวก็ล่อลงมาไม่ได้ ไอ้ขยะเอ้ย!”

ซูเยว่เฟยกับซูลั่วไม่ได้พูดอะไร ซูอี้เซินล่ออยู่ตรงนี้มานานสองนานแล้วนกแก้วก็ยังไม่ลงมา หมายความว่านกตัวนี้หลอกยากจริงๆ

อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด นกแก้วที่อยู่บนต้นไม้โยกไปโยกมาแล้วร้องขึ้นว่า “เจ้าแปดๆ ไอ้สารเลวพันปี! เจ้าแปดๆ ชอบกินอึๆ!”

ซูอี้เซิน “...” มันแม่ง

“แกแน่แกก็ไปสิ!” เขาพูดอย่างโมโห

ซูอิ๋งเอ่อร์หัวเราะฮ่าๆ ยกแขนขึ้น “ดูฉันนะ!”

“โฮ๊ะ โฮๆๆๆๆ โฮ๊ะ โฮๆๆๆๆ!” ซูอิ๋งเอ่อร์ตบแขนตัวเองพลางร้องเรียกไปด้วย ส่งสัญญาณให้นกแก้วรีบมาเกาะบนแขนของเขา

ซู่เป่าเบิกตาโพลง

เอ่อ ลุงห้าเหมือนลิงกอริลลาเลย

ซูเยว่เฟยแสยะยิ้มมุมปาก

ซูลั่วกอดแขน ยิ้ม “เหอะ...ก็แค่ล่อนกแก้วตัวเดียว ถึงขั้นต้องบังคับตัวเองให้ย้อนกลับไปเป็นบรรพบุรุษซะแล้ว”

นกแก้วที่อยู่บนต้นไม้กำลังตะโกนร้องว๊ากๆ “ไอ้โง่! ไอ้โง่!”

ซูอิ๋งเอ่อร์ที่อารมณ์ร้อนคว่ำโต๊ะเสียตรงนั้น ชี้ไปที่นกแก้วอย่างกระหืดกระหอบ “แกลงมาเลยนะ!”

นกแก้วเกาะอยู่บนต้นไม้กระพือปีกพึ่บพั่บ “ไม่ไปๆ อย่าคิดจะหลอกปู่ของแกนะ!”

ซูอิ๋งเอ่อร์เริ่มสงสัยชีวิต นกแก้วนี่ฉลาดขนาดนี้เชียวเหรอ

ซู่เป่าเอามือปิดปากแอบขำ เธอมองประเมินซูอิ๋งเอ่อร์ลุงห้าอย่างสงสัย

ลุงห้าดูโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก แต่ก็เหมือนจะไม่ได้โหดเหี้ยมขนาดนั้น...

เจ้าเด็กน้อยมองประเมินเหล่าลุงๆ อย่างเงียบๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน