ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 8

ซู่เป่ามองป่าขนาดย่อม ตะโกนเรียกเสียงหนึ่ง “เสี่ยวอู่!”

มีเสียงนกร้องเสียงหนึ่งแว่วมาจากในป่าขนาดย่อม นกแก้วสีสันสวยงามตัวหนึ่งบินขึ้นพึ่บพั่บ หมุนตัวบินวนไปรอบๆ แต่ไม่เข้ามา กลับกันบินพึ่บพั่บเข้าไปข้างในลึกกว่าเดิม

ซู่เป่าทำเสียงจุ๊ๆ ทีหนึ่ง ขยับไปข้างหูของซูอี้เซินแล้วพูดกระซิบว่า “ลุงเล็กคะ เสี่ยวอู่กลัวลุงค่ะ”

มือน้อยๆ ของเจ้าเด็กน้อยรวบป้องปาก นัยน์ตากลมโตเปล่งประกายวิบวับ งดงามเป็นอย่างมาก

ซูอี้เซินมองไปทางป่าขนาดย่อม และอดไม่ได้ที่จะกดเสียงต่ำจากนั้นพูดว่า “ซู่เป่า ลุงเรียกคนให้มาจับดีไหม แล้วพวกเราก็พาเสี่ยวอู่กลับไปเลย”

ซู่เป่าขมวดคิ้วเล็กๆ ส่ายหน้าพลางพูดว่า “ไม่เอาค่ะ”

เธอรีบมองซ้ายมองขวาทันที กลัวว่าเจ้านกจะได้ยินเข้า

“อย่าจับเสี่ยวอู่ เสี่ยวอู่ไม่ใช่นกเกเร ถ้าจับเสี่ยวอู่จะกลัว” เธอกดเสียงต่ำพลางพูด

ทันใดนั้นซูอี้เซินคิดว่าน่าขันสิ้นดี เจ้าเด็กน้อยน่ารักจัง!

เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้”

ซู่เป่ากดไหล่ของซูอี้เซินเอาไว้ พูดกำชับว่า “ลุงเล็กยืนอยู่ตรงนี้ห้ามขยับนะคะ”

ซู่เป่าเดินไปข้างในเล็กน้อย แล้วตะโกนว่าเสี่ยวอู่อีกทีหนึ่ง

เสี่ยวอู่เกาะอยู่บนกิ่งไม้ ร้องโหวกเหวกแว๊ดๆ “มีไอ้โง่! มีไอ้โง่!”

ซู่เป่าตั้งใจพูดว่า “เสี่ยวอู่ ลุงไม่ใช่ไอ้โง่ซะหน่อย”

นกแก้ว “มีหมาดุ! มีหมาดุ!”

ซู่เป่าตั้งใจอธิบายต่อไป “แล้วลุงเล็กก็ไม่ใช่หมาดุด้วย”

ซูอี้เซินที่ได้ยินบทสนทนาอยู่ข้างนอก “...”

เสี่ยวอู่ไม่ยอมลงมา

ซู่เป่าเข้าไปใกล้อีกหน่อยโดยไม่ทันรู้ตัว ขณะนี้เองได้ยินเสียงเบาเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหน้า เธอมองไปตามสัญชาตญาณ…

แต่กลับเห็นดวงตาอันแสนคุ้นเคยคู่หนึ่ง กำลังจ้องมองเธออยู่!

ซู่เป่าตกใจจนเนื้อตัวสั่นเทา รีบวิ่งในทันที แต่มู่ชิ่นซินกลับคว้าแขนของเธอเอาไว้

“ฮาย ซู่เป่า...ในที่สุดเธอก็กลับมาแล้ว”

ซู่เป่าจะตะโกน แต่กลับถูกมู่ชิ่นซินอุดปากเอาไว้ทันที!

เธอหัวเราะอย่างอ่อนโยน แล้วกระซิบอย่างอ่อนโยนว่า “ซู่เป่าเป็นอะไรเหรอ ทำไมเห็นน้าแล้วไม่ดีใจเลยล่ะ”

มู่ชิ่นซินไม่รู้ว่าซูอี้เซินอยู่ข้างนอกป่าขนาดย่อม หยิกแก้มของซู่เป่าหันออกไป

เธอพูดอย่างยิ้มเยาะว่า “น้าไม่ชอบที่ท่าทีที่เธอเห็นเป็นคนนอกแบบนี้ อีกอย่าง ฉันก็นับว่าเป็นแม่ของเธอนะ!”

ซู่เป่ายกมือปัดมือของมู่ชิ่นซินออกโดยสัญชาตญาณ หันตัวเตรียมจะวิ่งหนี

มู่ชิ่นซินประหลาดใจเล็กน้อย ยัยเด็กเหลือขอคนนี้มีแรงเยอะขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไร!

มู่ชิ่นซินรีบจับซู่เป่าไว้ทันที แล้วอุดปากเธออีกครั้ง

“ซู่เป่า เธอทำลูกในท้องของฉันตาย ตอนนี้ฉันยังยอมมาดูเธอ แต่เธอดันทำกับฉันแบบนี้” มู่ชิ่นซินหัวเราะพลางพูดอย่างเย็นชา

ซู่เป่าส่ายหน้าฮือๆ

มู่ชิ่นซินยิ้มตาหยี สีหน้าไม่เหมือนกับตอนที่ตีซู่เป่าอย่างเมื่อก่อนเลยสักนิด

“ซู่เป่าบอกว่าไม่ได้ผลักน้างั้นเหรอ แต่ถ้าวันนั้นเธอไม่จู่ๆ โผล่มาจนฉันตกใจ ฉันจะล้มลงไปได้ยังไงล่ะ”

“ฉะนั้นเธอต้องรับผิดชอบ ตอนนี้น้าไม่มีลูก ก็น่าสงสารพอแล้ว...ถ้าพวกลุงๆ ของเธอถามถึงเธอต้องบอกว่าเธอเป็นคนผลัก ได้ยินไหม”

มู่ชิ่นซินพูดปะเหลาะ คิดว่าเด็กที่เพิ่งอายุแค่สามขวบครึ่งคนหนึ่ง ผู้ใหญ่บอกอะไรก็คืออย่างนั้น

แต่ทว่าซู่เป่ากลับเม้มปากแน่น เงียบไม่พูดอะไร สายตาเต็มไปด้วยการต่อต้าน

เธอไม่ได้เป็นคนผลักมู่ชิ่นซิน เธอจึงไม่ยอมรับ

มู่ชิ่นซินมีเวลาไม่มาก จึงหมดความอดทนแล้ว!

เธอเกลียดยัยเด็กนอกคอก ไม่ชอบเจรจาคนนี้ ตีไปสองสามทีก็ไม่ยอมร้องออกมา พูดอะไรก็ไม่ยอมฟัง ช่างทำให้คนหงุดหงิดจริงๆ

หน้าที่ยิ้มอยู่ของมู่ชิ่นซินก็ยู่ลงมา หัวเราะและพูดอย่างเย็นชาว่า “ซู่เป่า เธอมันไม่เชื่อฟังเลยจริงๆ ถ้าเธอยังทำแบบนี้อีกเชื่อไหมว่าฉันจะตีเธอ!”

เรื่องในวันนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด และไม่มีใครเห็นว่าผลักหรือไม่ได้ผลักกันแน่ คนตระกูลซูต้องฟังซู่เป่าอยู่แล้ว

เธอไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เธอยังต้องรักษาภาพลักษณ์ที่สวยงามเอาไว้ แล้วคิดหาวิธีที่ทำให้ได้รับความสนใจจากเทพบุตร

มู่ชิ่นซินเคยเห็นข่าวหนึ่ง ครูอนุบาลตีเด็กคนหนึ่ง ภายหลังขู่เด็กว่าเขามีกล้องโทรทรรศน์ตัวยาวตัวหนึ่ง ไม่ว่าเด็กจะพูดหรือจะทำอะไรเขาก็ได้ยินทั้งหมด เด็กจึงไม่กล้าพูดเรื่องที่ตัวเองถูกตีกับพ่อแม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน