ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 7

ในมือของมู่ชิ่นซินถือกระต่ายอยู่ตัวหนึ่ง ซึ่งก็คือตุ๊กตากระต่ายของซู่เป่าตัวนั้น

“คุณพ่อคุณแม่คะ พวกคุณวางใจเถอะค่ะ กระต่ายของซู่เป่าตกอยู่ที่บ้าน เธอต้องกลับมาเอาแน่ๆ ค่ะ”

คนอื่นไม่รู้ว่ากระต่ายตัวนี้สำคัญต่อซู่เป่า แต่มู่ชิ่นซินรู้

นี่เป็นของเพียงอย่างเดียวที่แม่ผู้อายุสั้นของซู่เป่าทิ้งไว้ให้เธอ ยัยเด็กเหลือขออุ้มอยู่ทุกวัน ขนาดตอนที่ถูกเธอตีจนสาหัสที่สุดก็ยังไม่วางมือ

มู่ชิ่นซินจำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่ง ไม่ว่าเธอจะหยิกยังไงซู่เป่าก็ไม่ร้อง แต่เมื่อเธอชิงกระต่ายมาตัดหู ซู่เป่ากลับร้องไห้อย่างหนัก

หลินเฟิงเห็นกระต่ายขาดรุ่งริ่งที่อยู่ในมือมู่ชิ่นซินตัวนั้น ก็ขมวดคิ้วแล้วถามขึ้นว่า “คุณแน่ใจเหรอว่าเธอจะกลับมา”

เขาไม่เชื่อ กระต่ายเน่าๆ ตัวหนึ่งจะมีค่าอะไรให้คิดถึง

มู่ชิ่นซินหัวเราะอย่างอ่อนโยน “พี่เฟิง ปกติคุณไม่มีเวลาดูแลซู่เป่า คงไม่รู้ว่าเธอชอบกระต่ายน้อยตัวนี้ที่สุด นี่เป็นของที่ระลึกเพียงอย่างเดียวที่แม่เธอทิ้งไว้ให้เธอ สำหรับเธอแล้วมันสำคัญมาก”

นายหญิงหลินครุ่นคิด เป็นอย่างนี้จริงๆ

หนึ่งปีมานี้ยัยเด็กเหลือขอนั่นไม่เคยวางลงจากมือเลย เข้าห้องน้ำก็ต้องพากระต่ายน้อยไปด้วย

เธอพูดอย่างดีใจ “เยี่ยมไปเลย หวังว่าเธอจะกลับมาจริงๆ นะ!”

ขอแค่กลับมา แค่เด็กคนเดียวโอ๋ง่ายจะตายไปไม่ใช่เหรอ

มู่ชิ่นซินก้มหน้า ปิดบังความสว่างไสวที่ลอดเข้ามาแล้วหายไป

ซู่เป่ากลับมาอย่างแน่นอน นอกจากกระต่ายตัวนี้แล้ว เธอยังมี ‘เจ้าตัวเล็ก’ ที่สำคัญเป็นอย่างมากอยู่ที่นี่ตัวหนึ่ง นั่นก็คือนกแก้ว

นกแก้วตัวนี้ไม่รู้ว่าหลงมาจากบ้านไหน ซึ่งอยู่ในป่าขนาดย่อมหลังบ้านตระกูลหลิน

คนอื่นเข้าใกล้มันไม่ได้ จะบินออกมาก็ต่อเมื่อซู่เป่าปรากฏตัวเท่านั้น

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมู่ชิ่นซินถึงมั่นใจเป็นอย่างมากว่าซู่เป่าจะกลับมา

กระต่ายจะส่งคนมาเอาก็ได้ แต่นกแก้วมีเพียงซู่เป่าเท่านั้นที่จะพาไปได้

มู่ชิ่นซินพูดขึ้นว่า “ฉันเพิ่งเย็บกระต่ายเสร็จ และซักจนสะอาดเรียบร้อยแล้ว รอซู่เป่ากลับมาเธอต้องดีใจมากแน่ๆ”

หลินเฟิงโผกอดมู่ชิ่นซินด้วยความดีใจ พูดขึ้นว่า “ลำบากคุณแล้วนะ! นี่ คุณช่างใจดีจริงๆ ซู่เป่าทำร้ายคุณแบบนั้นแล้ว คุณก็ยังไม่คิดเล็กคิดน้อยแถมยังช่วยเธอเย็บกระต่ายอีก...รอเราฟื้นตัวได้แล้ว ผมจะต้องชดเชยคุณแน่”

มู่ชิ่นซินซบในอ้อมอกของหลินเฟิงแล้วแสร้งพูดว่า “ขอแค่ได้ช่วยพี่เฟิงแบ่งเบาความทุกข์ก็พอแล้วค่ะ”

นายหญิงหลินพูดอย่างลุกลี้ลุกลนว่า “เร็วเข้าๆ เก็บกวาดบ้านเร็วเข้า!”

หลังจากคนตระกูลหลินล้มละลายเหล่าคนใช้ก็ออกไปกันหมดแล้ว ตอนนี้บ้านตระกูลหลินไม่มีคนใช้เลยแม้แต่คนเดียว

ดังนั้น หลินเฟิงที่เพิ่งบอกว่าจะชดเชยมู่ชิ่นซินอย่างดิบดี รีบสั่งให้มู่ชิ่นซินจัดการทำความสะอาดทันที

มู่ชิ่นซินทำตามอย่างว่านอนสอนง่าย แต่ลับตาพวกเขาในดวงตากลับปรากฏความชั่วร้ายอย่างหนึ่งขึ้นมา

ไมบัคสีดำสองสามคันขับมายังหน้าประตูบ้านตระกูลหลิน และหยุดลง

ชายหนุ่มรูปร่างสูงสง่า หล่อเหลาแบบไม่ธรรมดาลงมาจากรถ ข้างหลังคนที่ถูกพยุงลงมาคือคุณท่านซู สถานการณ์เช่นนี้ต่อให้อยู่ในจิงตูก็ทำให้คนต้องตกตะลึง

แต่วันนี้กลับมาเพื่อเอาตุ๊กตากระต่ายตัวหนึ่งเท่านั้น...

มู่ชิ่นซินฉลาดเป็นอย่างมากไม่ลงมาชั้นล่าง แต่แอบมองจากระเบียงชั้นสาม สายตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา

ที่แท้นี่ก็คือลูกชายทั้งแปดแห่งตระกูลซู!

มองชายหนุ่มท่าทางไม่เหมือนคนธรรมดาทั้งแปดแห่งตระกูลซู มู่ชิ่นซินตาร้อนเป็นอย่างมาก ถ้าสามารถเคียงข้างคนใดคนหนึ่งในนั้นได้ละก็...

เธอตะลึงขึ้นมาโดยพลัน เมื่อเห็นชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีดำในนั้น มือข้างหนึ่งของเขาซุกเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขามองไปรอบๆ ทีหนึ่ง ดันขาแว่นกรอบทองบนสันจมูกอย่างลวกๆ ทั้งตัวเผยให้เห็นกลิ่นอายความภูมิฐานอย่างหนึ่ง

ซูลั่ว!

มู่ชิ่นซินตื่นเต้นอย่างสุดขีดขึ้นมาโดยพลัน ซูลั่วเป็นนักแสดงชายระดับประเทศที่ยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิง และเป็นเทพบุตรในฝันของเธอ!

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเทพบุตรของตัวเองใกล้ขนาดนี้ มู่ชิ่นซินเอามือทาบอก ใจเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ ตื่นเต้นจนหน้าแดงไปหมด

คนตระกูลหลินที่รออยู่ที่ประตูตั้งนานแล้วเห็นคนตระกูลซูมาอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด จึงรีบไปรับหน้า

“โอ้ คุณท่านซู! ประธานซู! ยินดีต้อนรับ...”

พูดไปพลางยื่นมือออกไปจับมือซูอีเฉิน

ซูอีเฉินมองหลินเฟิงด้วยสายตาเย็นชาทีหนึ่ง ล้วงกระเป๋ามือเดียวดูไม่อยากจะรับน้ำใจเอามากๆ

คุณท่านหลินพูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณท่านซู คุณมาหนานเฉิงเป็นครั้งแรกใช่ไหม ผมก็ว่าทำไมอากาศที่หนานเฉิงช่วงนี้ถึงได้ดีขนาดนั้น! ที่แท้ก็เพราะพวกคุณมานี่เอง! เร็วเข้าๆ เชิญด้านในก่อน!”

คุณท่านซูหัวเราะอย่างเย็นชาทีหนึ่ง “อากาศดีจริงๆ ทำหลานสาวฉันหนาวจนต้องเข้าโรงพยาบาล ตระกูลหลินของพวกแกนี่ดีจริงๆ”

ทันใดนั้นคุณท่านหลินก็อิหลักอิเหลื่อเป็นอย่างมาก

นายหญิงหลินหัวเราะแล้วพูดว่า “ให้ตายเถอะ คุณท่านซูคุณก็ช่างล้อเล่นจริงๆ เราปฏิบัติต่อซู่เป่าอย่างดีมาตลอด วันนั้นเธอเกิดโมโหคุณน้าของเธอ พ่อของเธอเองก็โกรธที่ไม่ได้ดั่งใจเลยสั่งสอนเธอไปเล็กน้อย...”

เธอพูดพลางมองไปทางซู่เป่าอย่างเอ็นดู “เสี่ยวซู่เป่า รีบมาให้ย่ากอดหน่อยมา! ไม่ได้เจอหนูตั้งหลายวันแล้ว ย่าคิดถึงหนูจะตายอยู่แล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน