ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 6

ในห้องผู้ป่วยที่ว่างเปล่า ทิศทางที่เสียงแว่วมาไม่มีใคร ไม่มีแม้แต่เงาผี

ซู่เป่าจับผ้าห่มเอาไว้ ถามขึ้นว่า “คุณคือใคร”

ในใจเธอกลัวนิดหน่อย

เสียงนั้นค่อยๆ เรียกหา “ข้าคืออาจารย์ของเจ้า เรียกอาจารย์สิ”

ใบหน้าเล็กๆ ของซู่เป่าย่นลง ไม่หลงกล

“เดิมหนูไม่เคยมีอาจารย์อยู่แล้ว” เธอพูดขึ้น

เสียงนั้นราวกับสำลักไป

เวลานี้บนโต๊ะข้างห้องผู้ป่วย มีผีที่คนธรรมดามองไม่เห็นนั่งอยู่ตนหนึ่งเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมยาวสีขาว

สีหน้าของเขาขาวซีดเป็นอย่างมาก นัยน์ตาทั้งสองดำขลับลึกซึ้ง ดั้งจมูกสูงโด่ง ขอบริมฝีปากสีแดงชาด หว่างคิ้วแฝงไปด้วยไอชั่วร้าย ดูพราวไปด้วยเสน่ห์เป็นอย่างมากอย่างเห็นได้ชัด

เขาจ้อง มองเจ้าเด็กน้อยตรงหน้าที่แม้แต่ตรรกะในการพูดก็ยังไม่เข้าใจ

ชิ หลอกยากเสียไม่มี...

“เป๋าน้อย...” เขาลองเอ่ยปากอีกครั้ง

ซู่เป่าพูดขึ้นประโยคหนึ่งอย่างอัดอั้น “หนูคือเสี่ยวซู่เป่า ไม่ใช่เป๋าน้อย”

ชายหนุ่ม “...”

เขาลูบคางแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าจริงๆ นะ ตอนที่แม่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้ยกเจ้าให้เป็นศิษย์ของข้าแล้ว”

เมื่อซู่เป่าได้ยินประโยคนี้ ในใจต่อต้านเป็นอย่างมาก

เธอพูดขึ้นว่า “แม่หนูไม่ทำอย่างนี้หรอก”

แม่ไม่มีทางยกเธอให้คนอื่น แม่ไม่มีทางไม่ต้องการเธอ

ชายหนุ่มหมดคำพูดไปชั่วขณะ

ซูจิ่นอวี้เห็นเขาตอนใกล้จะตาย เลยขอร้องให้เขาปกป้องคุ้มครองซู่เป่ากับตระกูลซูหลังจากที่เธอตายไป

ตอนนั้นซู่เป่าเพิ่งจะสองขวบ มองไม่เห็นร่างวิญญาณของเขา แต่เขาได้รับการคารวะจริงๆ เป็นอาจารย์ของเธอ!

สองวันก่อนตอนที่ซู่เป่าใกล้จะตาย ในที่สุดถึงได้ยินเสียงของเขาแล้ว แต่ตอนนี้เจ้าตัวเล็กกลับไม่เชื่อเขาซะนั้น...

ชายหนุ่มลูบจมูก พูดปะเหลาะว่า “แม่ของเจ้าชื่อซูจิ่นอวี้ เจ้าชื่อซู่เป่า เจ้าดูสิข้ารู้หมดทุกอย่าง”

ซู่เป่าเม้มปาก “คนอื่นก็รู้กันทั้งนั้น”

ชายหนุ่ม “...”

เยี่ยมไปเลย นี่คือเจ้าเด็กน้อยที่ผีเห็นแล้วก็ยังต้องปวดหัว หลอกยากเสียไม่มี

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าแขนขาเล็กๆ ของเธอสู้ผู้ใหญ่ไม่ได้ และยังโหยหาอยากมีบ้านละก็...เดาว่าคนตระกูลหลินคงไม่มีโอกาสได้รังแกเธอหรอก!

ชายหนุ่มเอาแต่ยิ้มอยู่คนเดียว พูดขึ้นว่า “เจ้าเด็กน้อยไม่ต้องคิดมากมายขนาดนั้น รอเจ้าหายดีแล้ว จุดธูปให้ข้าสามดอก เซ่นไหว้ด้วยเนื้อหมูชิ้นหนึ่ง พิธีคารวะของเราก็เป็นอันเสร็จสิ้น”

“ข้าชื่อจี้ฉาง ตอนมีชีวิตเป็นผู้ยิ่งใหญ่”

ซู่เป่ามองไปทางมวลอากาศด้านข้างกลุ่มหนึ่งอย่างประหลาดใจ

ไส้ไก่ ทำไมถึงชื่อไส้ไก่ล่ะ (*ออกเสียงคล้ายจี้ฉาง)

จี้ฉางไม่รู้ความคิดของซู่เป่า เห็นแววตาของเธอดูฉงนจึงพูดขึ้นว่า

“เจ้าไม่รู้จักข้าถือเป็นเรื่องธรรมดา ข้าไม่ใช่คนในยุคของพวกเจ้า ข้าเก่งกาจมาก ข้าสอนเจ้าได้หลายอย่าง ให้เจ้าไม่ต้องถูกผู้ใดรังแก...”

ทันใดนั้นซู่เป่าก็ถามขึ้นมาโดยพลัน “ผู้ยิ่งใหญ่ตายได้ด้วยเหรอ”

จี้ฉาง “…”

ซู่เป่าถามขึ้นอีก “เก่งกาจขนาดนี้ ทำไมท่านถึงตายล่ะ”

จี้ฉางไปต่อไม่ถูก รู้สึกว่าเจ้าเด็กน้อยคนนี้รับมือยากนิดหน่อย

ซู่เป่าจับผ้าห่ม ก้มหน้าลงเล็กน้อย เม้มปากถามคำถามสุดท้าย “ถ้าคุณคืออาจารย์จริงๆ ทำไมถึงไม่สนใจหนู...”

หลังจากแม่ตายไป ไม่ว่าเธอจะร้องไห้หรือว่าเจ็บปวด ก็ไม่มีใครสนใจเธอ

หนึ่งปีมานี้เธอเรียนรู้การมองสีหน้าของพ่อ พยายามทำให้ตัวเองไม่น่ารำคาญแต่ก็ยังไม่เคยเห็นความชื่นชอบบนหน้าของปู่กับย่าเลยแม้แต่น้อย

มิหนำซ้ำเธอยังถูกคุณน้าแอบตีอีกด้วย...

ไม่มีใครช่วยเธอเลย

จี้ฉางอึ้ง ในใจไม่สบอารมณ์อยู่เล็กน้อย

เขาไม่ได้อธิบายอะไร พูดอย่างเงียบๆ ว่า “เชื่อฟังนะ ต่อไปนี้อาจารย์จะคอยปกป้องเจ้าเอง”

ซู่เป่าเม้มปาก หันหน้าไปและไม่พูดอะไรอีก

จี้ฉางลูบศีรษะของซู่เป่าแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนเถิด ดึกๆ อาจารย์ค่อยมาใหม่ ของสิ่งนี้ถือซะว่าเป็นของขวัญพบหน้ากันครั้งแรกที่ข้ามอบให้เจ้า”

เขาขึ้นมาอย่างรีบร้อน ยังมอบหมายงานของยมโลกได้ไม่ชัดเจน ก็ต้องลงไปอีกครั้งแล้ว

ซู่เป่ารู้สึกเพียงว่าบนมือร้อนนิดหน่อย มีด้ายแดงเส้นหนึ่งสวมอยู่บนมือของเธอ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร ในห้องผู้ป่วยไม่มีเสียงแล้ว ซู่เป่าลืมตามองรอบๆ ยังไม่เห็นอะไรเช่นเดิม

แต่สิ่งที่ไม่รู้คือ เธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจอันแสนอบอุ่นแบบนั้นอีกแล้ว ความเจ็บปวดบนร่างกายต่างบรรเทาลงไปไม่น้อย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน