ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1048

เมิ่งหยวนใจหวิวเล็กน้อย แต่เธอก็รู้ตัวว่าคนที่ซุนไห่หยางเรียกไม่ใช่เธอ

แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ไม่บ่นแม้แต่น้อยและยังยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นซุนไห่หยางไว้โดยไม่สงวนท่าทีใดๆ…

แต่สิ่งที่ไม่มีใครเห็นก็คือจู่ๆ ก็มีหัวหมามาอยู่บนหัวของเมิ่งหยวนและกำลังเลียหัวเธออยู่

หมาจอมเลียเป็นแล้วไม่มีวันหาย มีแต่จะย้าย!

**

ที่ตระกูลซู

ซู่เป่านั่งขัดสมาธิบนโซฟาเล็กๆ ของตัวเองแล้วก็สงบสติอารมณ์ตรวจสอบตำหนักพญายมของตัวเองอยู่เงียบๆ

ตำหนักพญายมเคยผ่านการอัพเกรดที่หุบเหวผีร้องไปรอบหนึ่ง

หลังเทพทิวากรและเทพท่องราตรีหวนสู่ตำแหน่ง กลิ่นอายของกฎที่ตำหนักพญายมก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไป

ซู่เป่าตั้งใจสัมผัสอย่างละเอียดอีกที เธอก็เหมือนจะเห็นตัวหนังสือลอยผ่านหน้าเธอเป็นโดยปริยาย เธอก็เลยยื่นมือไปหยิบตัวหนังสือพวกนั้นมาไว้ในมือ

ชั่วพริบตาต่อมา ตัวหนังสือพวกนี้ก็ไหลมาเหมือนทรายดูดอย่างงั้นแหละ และทันใดนั้นก็พัดไปในฝ่ามือของเธอ และทั้งหมดก็ถูกดูดเข้าไปในร่างกายของเธอ!

“นี่มัน…กฎเหรอ?” ซู่เป่าสงสัย ตั้งใจสัมผัสอย่างละเอียดอีกรอบ

กฎจริงๆ ด้วย กฎของโลกใต้พิภพนั่นเอง!

ตอนนี้เธอสามารถเอากฎมาอยู่ในกำมือได้แล้วเหรอ?!

ไม่สิ ก็ไม่ได้อยู่ในมือทั้งหมดหรอก เพราะตัวหนังสือที่ลอยเต็มอยู่ตรงหน้าเธอ เธอจับได้แค่สองแถวในนั้นแค่นั้นแหละ

ซู่เป่ามีความรู้สึกประมาณว่าต้องรอให้ตำหนักพญายมฟื้นฟูกลับสภาพเดิม เธอถึงจะเอากฎมาอยู่ในกำมือได้ทั้งหมด!

ซู่เป่ามองดูฝ่ามือของตัวเองและจับมือแรงๆ หนึ่งทีก็รับรู้ได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่อยู่ในร่างกาย

“ที่แท้…มันยังสามารถอัพเกรดแบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย??” ซู่เป่าถึงกับอึ้ง

ตอนช่วยปลุกให้เทพทิวากรและเทพท่องราตรีที่อยู่ในตัวของพี่ชายสองคนตื่นตัวขึ้น เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะได้รับผลประโยชน์แบบนี้ด้วย!

การแลกเปลี่ยนนี้ช่างคุ้มค่าจริงๆ!

พอพี่ชายอัพเกรดแล้วก็เท่ากับว่าเธออัพเกรดขึ้นด้วย ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้รับผลประโยชน์!

เธอขอลองคิดดูหน่อยว่าจะทำยังไงให้ตำหนักพญายมฟื้นฟูสภาพเดิม? ท่านอาจารย์เคยบอกว่าในตำหนักพญายมจะมีพญายม มีผู้พิพากษาและมียมทูตทั้งสิบ…

งั้นแสดงว่าถ้าปลุกยมทูตทั้งสิบให้ตื่นตัวได้ เธอก็จะสามารถควบคุมกฎทั้งหมดในโลกหลังความตายได้ใช่ไหม?

ถึงเวลานั้นเธอก็คงไม่มีทางกลัวตูซื่อหวังแล้ว!

ซู่เป่าตื่นเต้นสุดๆ จิตใจของเธอมัวแต่จดจ่ออยู่ที่ตำหนักพญายม และเอาแต่เช็ครูปปั้นของยมทูตทั้งสิบอย่างมีความสุข

รูปปั้นของเทพท่องราตรีกับเทพทิวากรไม่เหมือนเดิมแล้วจริงด้วย ส่วนรูปปั้นที่เหลือยังตายตัวอยู่ เหมือนเป็นแค่ก้อนหินธรรมดาก้อนหนึ่งอย่างนั้นแหละ

แต่ของเทพทิวากรและเทพท่องราตรีนั้นไม่ได้เป็นก้อนหินเหมือนเดิมแล้ว แต่ให้ความรู้สึกเหมือนมีชีวิต มีเงาเบลอๆ สีผมดำเข้ม แถมเสื้อผ้าก็ยังพลิ้วไหวแม้ไม่มีลมด้วย…

ราวกับว่าตราบใดที่เทพท่องราตรีและเทพทิวากรยืนอยู่ที่นี่ เงาของทั้งสองคนนี้ก็จะสามารถรวมเข้ากับพวกเขาได้ทันทีและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างสมบูรณ์

“เข้าใจแล้ว ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง…”

ซู่เป่าจมปลักอยู่ในโลกของตัวเอง

จี้ฉางเกยคาง ครุ่นคิดอยู่ข้างๆ

สรุปเขาทำตรงไหนผิดหรือเปล่า? หรือไม่มีพรสวรรค์?

ทำไมซู่เป่าเอะอะๆ ก็รู้แจ้งเอง เขาบกพร่องอะไรหรือเปล่าเนี่ย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน