ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1053

สรุปบท ตอนที่ 1053 จักรพรรดิที่นั่งตกใจอยู่ริมบึงเหมันต์คือตัวเขาเองซะงั้น: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

สรุปตอน ตอนที่ 1053 จักรพรรดิที่นั่งตกใจอยู่ริมบึงเหมันต์คือตัวเขาเองซะงั้น – จากเรื่อง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

ตอน ตอนที่ 1053 จักรพรรดิที่นั่งตกใจอยู่ริมบึงเหมันต์คือตัวเขาเองซะงั้น ของนิยายนิยายวัยรุ่นเรื่องดัง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดยนักเขียน ไอซ์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในใจมู่กุยฝานก็พอจะคาดเดาอะไรได้แล้ว แต่ทำไมถึงเป็นเขาล่ะ?

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำ

มู่กุยฝานขมวดคิ้วและดําดิ่งสู่ก้นบึงเหมันต์อีกครั้ง

ถึงแม้ว่าที่ก้อนหินจะมีตัวอักษรคำว่า “ฝาน” สลักอยู่แถมอยู่มีลวดลายเว้านูนก็ตาม แต่โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างเรียบ

มู่กุยฝานเดินตามก้อนหินนี้และเช็คไปทั่ว และพบว่าก้อนหินนี้คล้ายกับบันไดอยู่เล็กน้อย

เขาคิดอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ตัดสินใจขึ้นไปเติมลมที่ผิวน้ำก่อน จากนั้นค่อยดำดิ่งลงไปข้างล่างก้อนหินต่อ

ปรากฏว่าพอลงลึกไปประมาณหนึ่งเมตร ก็เจอก้อนหินขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

ก้อนหินก้อนนี้คล้ายกับก้อนก่อนหน้านี้เลย เพียงแต่บนนี้มีตัวอักษรเขียนไว้ว่า “กุย”

ยังคงเป็นตัวอักษรลี่ซูอยู่เช่นเคย คราวนี้เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเลยเลยว่าเป็นตัวอักษรลี่ซูแบบตัวเต็ม ด้วยความที่คำว่าฝานทั้งตัวเต็มและตัวย่อมีลักษณะการเขียนค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นเมื่อกี้ก็เลยดูไม่ออกว่าเขียนเป็นตัวเต็มหรือเปล่า

มู่กุยฝานดีดตัวและลอยขึ้นไปบนผิวน้ำแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ

พอเอาสองคำนี้มารวมกันแล้วก็เป็นไปตามที่เขาคาดไว้เลย

ถ้ำเซียนบึงเหมันต์นี้…เขาเป็นคนสร้างงั้นเหรอ?

หรือว่าคนสร้างจะเป็นแค่คนที่ชื่อคล้ายกัน?

มู่กุยฝานยังคงไม่เชื่อว่าตัวเองจะมีตัวตนแบบนั้นจริงๆ

เขากัดฟันแล้วดำดิ่งลงไปข้างใต้อีกครั้ง

เดิมทีตอนที่เขาช่วยเจ้าตัวเล็กวิเคราห์นั้น เขาก็แค่คาดเดาว่าบึงเหมันต์นี้จะลึกแค่ไหนก็เท่านั้น แต่ตอนนี้จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าความลึกของบึงนี้ไม่สามารถที่จะคาดเดาได้เลย เพราะไม่รู้ว่ามันจะลึกสุดถึงตรงไหนกันแน่ หรือว่าจะเป็นดินแดนลับแลเก้าแห่ง

มู่กุยฝานดำดิ่งลงไปเรื่อยๆ จนถึงบันไดขั้นที่สาม พอถึงตรงนี้เขาก็รู้สึกหมดแรงเล็กน้อย เพราะระยะห่างระหว่างบันไดขั้นที่สามและบันไดขั้นที่สองคือสองเมตร ไม่เพียงแต่แรงดันน้ำจะเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีแรงกดดันที่มองไม่เห็นอีกด้วย

แต่เขาก็ยังสามารถมองเห็นตัวอักษรที่เขียนอยู่บนก้อนหินก้อนที่สามได้อย่างชัดเจน ปรากฏว่าเป็นคำว่ามู่จริงๆ ด้วย

แล้วหินก้อนที่สี่ล่ะ…

มู่กุยฝานฝืนดําน้ำลงไปภายใต้แรงกดดัน และทันทีที่เห็นเงาของหินก้อนที่สี่จู่ๆ ก็มีแรงกดดันมหาศาลพัดเข้ามาที่เขา!

มู่กุยฝานรู้สึกว่าเหมือนตัวเองกำลังถูกบดขยี้เป็นชิ้นๆ และยังรู้สึกเหมือนลูกกระตาของตัวเองแทบจะถลนออกมาแล้ว

เส้นเลือดที่แขนนูนขึ้นราวกับว่าเขากำลังจะตายในวินาทีต่อไปอย่างงั้นแหละ

แต่มู่กุยฝานยังไม่แล้วใจก็เลยอดทนต่อแรงกดดันที่กระหน่ำเข้ามา และเดินหน้าต่อไปอีกหนึ่งก้าว และในที่สุดก็เห็นตัวอักษรตัวที่สี่อย่างชัดเจนเสียที

จักรพรรดิ!

แค่มองไปแวบเดียว ตัวอักษรนี้ก็เหมือนกับมีแรงกดดันพุ่งออกมา น่าจะมาจากร่องรอยของคนที่เขียนคำนี้ในตอนแรก เหมือนกับว่าเป็นกลิ่นไอของคนๆ หนึ่ง

ผ่านมานานขนาดนี้แล้วก็ยังมีแรงกดดันมหาศาลนี้อีก พอยิ่งเข้าไปใกล้เรื่อยๆ อาจจะบดขยี้คนจนแตกสลายได้อย่างง่ายดายเลยนะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนที่เขียนคำพวกนี้ในตอนแรกนั้นเก่งแค่ขนาดไหน!

มู่กุยฝานรีบหนีออกไปทันที และไม่นานนักก็รีบโผล่ขึ้นมาหายใจที่ผิวน้ำอย่างทุลักทุเล!

เขาไม่หันหัวกลับไปด้วยซ้ำ เขาว่ายตรงไปที่ริมฝั่งทันทีและนั่งอยู่ริมบึง ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความช็อกอยู่เลย

ตามคำว่า “มู่กุยฝาน” รวมถึงคำว่า “จักพรรดิ” บนหินก้อนที่สี่ พอรวมกับคำก่อนหน้าแล้วก็สามารถคาดเดาได้ว่ามีก้อนหินอยู่อย่างน้อยเจ็ดก้อนอยู่ใต้บึงเหมันต์ และด้านบนก็น่าจะมีตัวอักษรขนาดใหญ่สลักไว้อยู่เจ็ดตัวซึ่งก็คือ

จักรพรรดิเฟิงตูคือมู่กุยฝาน!

แต่ขีดจำกัดของมนุษย์อยู่ที่สิบเจ็ดเมตรเท่านั้น…

คิ้วของมู่กุยฝานขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

พอเป็นแบบนี้แล้ว เขาไม่มีทางดำลงไปถึงหินก้อนที่เจ็ดได้ในขณะนี้แน่ๆ และตามสัญชาตญาณของเขายังคิดว่าความลับน่าจะอยู่ใต้หินก้อนที่เจ็ดแน่ๆ

มู่กุยฝานรู้สึกคับแค้นใจมาก

แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้หรอก ความจริงเกี่ยวกับซู่เป่านั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องไล่ติดตามให้ได้

“งั้นก็ลองดูหน่อย!” มู่กุยฝานสายตาเด็ดเดี่ยว

เขาไม่ลังเลอีกต่อไป รีบกระโดดลงในบึงเหมันต์ทันที!

เหมือนกับตอนที่เขาฝึกความเร็วกับแมวเลย เพียงแต่ครั้งนี้เป็นการฝึกในบึงเหมันต์ที่ต้องทนต่อแรงกดดันของตัวอักษรเหล่านั้นให้ได้

มู่กุยฝานเข้าใกล้หินขนาดใหญ่ที่เขียนว่า “จักรพรรดิ” อยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกบดขยี้ทุกครั้งเช่นเดียวกัน จนครั้งสุดท้ายที่เขาฮึดสู้เข้าไปใกล้ แต่สุดท้ายก็เลือดออกเจ็ดทวารซะงั้น

เขาไม่กล้าจู่โจมต่อไปแล้วก็เลยรีบดีดตัวขึ้นมา และนั่งหอยอยู่ริมบึงเหมันต์

พอไม่มีน้ำในบึงเหมันต์มาเจือจางแล้ว เลือดบนตัวของมู่กุยฝานก็ทำให้เสื้อผ้าของเขากลายเป็นสีแดงในทันที เธอเพียงแต่มีเลือดไหลบนร่างกาย แต่รวมถึงตา จมูกและหู…ทั้งหมดทั้งมวลมีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด พอมองคนที่เลือดออกเจ็ดทวารจากที่ไกลๆ แล้ว มันช่างน่าขนลุกเสียจริง

มู่กุยฝานลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก จากนั้นก็ไปพยุงกำแพงหิน พุ่มดอกไม้และเดินก้าวเข้าไปในถ้ำเซียน

เขาต้องการพักผ่อนสักหน่อย…

แค่แป๊บเดียวเท่านั้น…

จู่ๆ มู่กุยฝานก็ล้มลง และหมดสติเป็นลมล้มพับที่พื้นทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน