ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1113

สรุปบท ตอนที่ 1113 คลื่นการสอบ: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

อ่านสรุป ตอนที่ 1113 คลื่นการสอบ จาก ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

บทที่ ตอนที่ 1113 คลื่นการสอบ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายวัยรุ่น ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ไอซ์ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หลานเสวี่ยเอ๋อร์แอบส่งเสียงหึ

เห็นซู่เป่าถูกผู้คนมากมายขนาดนี้ชอบ หนำซ้ำทุกคนจะมองเธอเป็นใจกลางโดยที่ไม่รู้ตัว

เธอรู้สึกเปรี้ยวฝาดขึ้นมาอีกแล้ว

เจ๋งยังไงนัก...

แค่เพราะตัวตนคุณหนูน้อยตระกูลซูก็เท่านั้นแหละ

หาเธอเป็นคุณหนูน้อยของตระกูลเศรษฐีอันดับหนึ่ง เธอเองก็คงถูกผู้คนมากมายขนาดนี้ชอบ

ถ้าเธอมีพี่ชายที่เก่งกาจหลายคนเหมือนซู่เป่า เธอเองก็คงถูกผู้คนมากมายขนาดนี้ประจบ

แค่สวรรค์ไม่ยุติธรรม ให้ของทั้งหมดนี้กับซู่เป่า จึงทำให้ซู่เป่าได้ใจมากขนาดนี้

ไม่เหมือนเธอ ทุกอย่างของเธอต่างได้มาเพราะความพยายาม

หลานเสวี่ยเอ๋อร์มีความคิดแบบนี้ เธอเดินกลับห้องไปด้วยสีหน้านิ่งเฉย แต่ในใจของเธอไม่นิ่งเฉยเพียงไหนคงมีแค่ตัวเธอเองที่รู้

บังเอิญที่มีเพื่อนร่วมทางถามขึ้น “เอ้ะ เสวี่ยเอ๋อร์ นั่นคือใครกัน คือซู่เป่าที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลซูใช่ไหม”

ผู้ที่มาเรียนในโรงเรียนชั้นสูงได้ ส่วนมากฐานะทางบ้านจะไม่ได้แย่ แต่ตระกูลซูเป็นการมีอยู่ที่พิเศษ

เพราะตระกูลซูรวยมาก พ่อแม่พวกเขาจะมากจะน้อยก็ต้องมีพูดถึงตระกูลซูบ้าง ดังนั้นบางคนก็รู้ว่าคุณหนูน้อยตระกูลซูดรอปเรียนมาโดยตลอด รวมทั้งเด็กๆ ในตระกูลซู นอกจากคนโตที่เป็นอัจฉริยะจะตั้งใจเรียนแล้ว คนอื่นๆ เอะอะก็โดดเรียน

ดังนั้นเด็กๆ ในตระกูลซูจึงถูกเพื่อนร่วมโรงเรียนขานว่า ตระกูลเด็กหัวโจก

อ๋อ แต่เหตุผลส่วนใหญ่ที่ได้ฉายานี้มาเพราะการตบตีของหานหาน

หลานเสวี่ยเอ๋อร์เผยยิ้ม พร้อมพูด “ใครจะรู้กัน คนที่ไม่มาเรียนบ่อยๆ ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้จัก ได้ยินแค่ตระกูลซูตามใจเธอมาก”

เพื่อนของเธอเบะปาก ย่อมต้องมีความรู้สึกอิจฉาบ้าง “ชิ ตามใจเลยไม่มาเรียนหนังสือได้ แม่ของฉันบอกแบบนี้เรียกสำมะเลเทเมา”

หลานเสวี่ยเอ๋อร์รีบเอ่ยพูด “นี่ อย่าว่าคนอื่นแบบนี้สิ บางทีเธออาจจะมีเหตุผลก็ได้”

ข้างกายเธอมีคนเข้ามาดูเรื่องสนุกเพิ่ม ได้ยินหลายเสวี่ยเอ๋อร์พูดแบบนี้ จึงพูดเสริมกัน “จะมีเหตุผลอะไรจึงไม่มาเรียนถึงสองปีได้ ตอนนี้ก็ปลายภาคแล้วด้วย”

“รอดูตอนสอบปลายภาค ดูว่าเธอจะขายหน้ายังไง”

“ใช่ๆ เรียนก็ไม่เรียน จะสอบได้คะแนนดี ๆ ยังไง”

อาทิตย์นี้จะปลายภาคแล้ว ถึงเวลาเธอต้องสู้ซู่เป่าที่ไม่เคยมาเรียนได้แน่

หลานเสวี่ยเอ๋อร์คิดได้ดังนี้ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น คล้ายกับความรู้สึกสูงส่ง เธอจึงมุ่งมั่นในการเรียนมากยิ่งขึ้น

เธอยอมตื่นเช้ากลับดึก มาถึงโรงเรียนคนแรกทันทีที่โรงเรียนเปิด กระทั่งรคุณครูเห็นยังต้องชม “เสวี่ยเอ๋อร์ขยันจริงๆ”

หลานเสวี่ยเอ๋อร์ตอบอย่างถ่อมตัว “คุณครูมาเช้ากว่าค่ะ ของหนูถือว่าเล็กน้อยมากๆ การเรียนควรถ่อมตัวและรอบคอบ”

คุณครูพยักหน้าด้วยสีหน้าภาคภูมิ “อืม สู้ๆ”

หลานเสวี่ยเอ๋อร์ตั้งใจแข่งกับซู่เป่า เห็นว่าเธอเข้ามาในโรงเรียนตามคนส่วนมาก ที่ใกล้เริ่มคาบแล้วจึงถึง จู่ๆ เธอก็รู้สึกว่าเธอชนะซู่เป่าแล้ว

เธอทำแบบนี้ไปเกือบหนึ่งอาทิตย์ เมื่อถึงวันศุกร์

ซูเหอเวิ่นและหานหานส่งซู่เป่ามาถึงในห้องเรียน ซูเหอเวิ่นถามอย่างไม่วางใจ “ซู่เป่า วันนี้สอบปลายภาคแล้ว เธอกังวลไหม”

หานหานเอ่ยถาม “ฉันเอาปากกาอัตโนมัติแท่งนั้นให้ยืมไหม ยังไงฉันมักห้อยท้ายอยู่แล้ว ไม่กระทบแต่นิด”

ซู่เป่าส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ดูถูกหนูอยู่หรือไง”

แม้จะพูดแบบนี้ แต่การอัดเนื้อหาของประถมชั้นหนึ่งสองและสามภายในอาทิตย์เดียวนั้นค่อนข้างกินแรงจริงๆ บวกกับเธอต้องวิจัยลิฟท์ด้วย ดังนั้นซู่เป่าเองก็เริ่มรู้สึกไม่ไหว

เพราะซูเหอเวิ่นดูออกจึงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

ซู่เป่าสีหน้ามั่นใจ “ไม่ต้องห่วง หนูทำได้”

คุณครูพูดปลอบเธอไปพักใหญ่แล้วจึงจากไป

ส่วนซูเหอเวิ่นเหรอ ถือข้อสอบไปอวดกับซู่เป่านานแล้ว

เมื่อตอนใกล้เริ่มคาบ ซู่เหอเวิ่นกลับมาด้วยสีหน้าได้ใจ พร้อมพูดอวดกับเพื่อนข้างๆ “น้องสาวฉันก็ได้ที่หนึ่ง น้องสาวฉันเจ๋งไหม”

เพื่อนข้างโต๊ะ “ว้าว น้องสาวของนายคนนั้นที่หน้าตาน่ารักๆ เหรอ เก่งกาจสุดๆ ไปเลย ทั้งสวยทั้งเรียนเก่ง สุดยอด”

หลานเสวี่ยเอ๋อร์ได้ยิน เสียงร้องไห้ที่เดิมทีได้หยุดลงจากการปลอบของเพื่อนๆ

สุดท้ายร้องออกมาอีกครั้ง

เพื่อนที่ปลอบเธอนั้นต่างหมดคำพูด

เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้น “เอาน่า เราอย่าไปเทียบกับคนอื่นเลย นั่นเป็นพรสวรรค์ของพวกเขาช่วยไม่ได้น่า”

“ใช่ๆ พวกเราเต็มที่แล้วก็พอ อย่าไปเปรียบเทียบกับคนอื่น”

หญิงสาวอีกคนที่เคยคุยกับหลานเสวี่ยเอ๋อร์เมื่อครั้งที่แล้ว พูดขึ้นอย่างแปลกใจ “แต่ซู่เป่านี่เก่งจริงๆ เลยนะ ไม่เคยมาเรียนเลย แต่ยังสามารถสอบได้ที่หนึ่ง”

หลานเสวี่ยเอ๋อร์สะอื้น และส่ายหน้า “พวกเธอคิดง่ายเกินไปแล้ว ตระกูลซูมีเงิน...”

“ฉันไม่ได้เสียใจเพราะฉันสอบได้ไม่ดี ฉันก็แค่ ก็แค่รู้สึกว่าความพยายามของฉันมันจะไปมีประโยชน์อะไร...โลกนี้มันไม่ยุติธรรมจริงๆ...”

สีหน้าของหลานเสวี่ยเอ๋อร์เศร้าโศก

เธอหมายถึง เด็กๆ ในตระกูลซูใช้เงินซื้ออันดับหนึ่งเหรอ

ไม่โรงเรียนแจกข้อสอบให้พวกเขาก่อน

ก็ต้องเป็นติดสินบนคุณครูเพื่อหยวนให้พวกเขาแน่

ยังไงพวกเขาก็ไม่มีสอบได้ที่หนึ่งด้วยความสามารถของตนเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน