ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1138

สรุปบท ตอนที่ 1138 หลักฐานของหว่านลี่: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

ตอน ตอนที่ 1138 หลักฐานของหว่านลี่ จาก ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 1138 หลักฐานของหว่านลี่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายวัยรุ่น ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน ที่เขียนโดย ไอซ์ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ซู่เป่าหยุดปลดปล่อยอานุภาพแล้วนั่งแหมะลงบนพื้นมองดูหว่านลี่ที่จมอยู่ในดินจนเหลือแต่หัว

น้ำตาของนางไหลพรากไม่หยุด เหมือนกับหอยหลอดที่พ่นน้ำอยู่บนหาดทราย

คราวนี้ซู่เป่าสงสัยขึ้นมาจริง ๆ แล้ว

"เธอบอกว่าเธอเป็นลูกสาวของพ่อฉัน มีหลักฐานไหมล่ะ?"

ซู่เป่าไม่เชื่อว่าพ่อของเธอจะมีลูกสาวอีกคน แต่หว่านลี่คนนี้ก็ดูไม่เหมือนคนที่กำลังโกหก

นางเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่านางเป็นลูกสาวของจักรพรรดิแห่งเฟิงตู ทำไมน่ะหรือ?

หว่านลี่พยายามดิ้นรนอยู่พักหนึ่งแต่ก็พบว่าทำยังไงนางก็ขยับตัวไม่ได้

พื้นดินในยมโลกนี้โดยทั่วไปแล้วต่อให้ถูกฝังอยู่ใต้ดินนางก็ออกมาได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้นางกลับติดแหงก

"ข้ามีหลักฐานอะไร ข้าก็ไม่บอกเจ้าหรอก" หว่านลี่กัดฟันและจ้องมองซู่เป่าด้วยสายตาเย็นชา ขนาดตัวติดอยู่แบบนี้แล้วก็ยังไม่ยอมก้มหัวให้

นางเลือกที่จะหลับตาไม่สนใจซู่เป่า!

จู่ ๆ อารมณ์ของซู่เป่าก็เปลี่ยนไป เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในน้ำเต้าวิญญาณของเธอ

เธอตั้งสมาธิสัมผัสดูแล้วพูดด้วยความยินดีว่า "พี่พาน พวกพี่ตื่นกันแล้วเหรอ"

วินาทีต่อมาบนพื้นก็มีขุนพลผีทั้งหลายเพิ่มขึ้นมา

ผีทั้งหมดทั้งยอง ๆ ล้อมรอบหว่านลี่แล้วลูบคางพลางมองนางอย่างพิจารณา

หว่านลี่ "..."

น่าอับอาย... น่าอับอายเป็นที่สุด!!

หลังจากฟังซู่เป่าเท้าความให้ฟังแล้วบรรดาผีทั้งหลายก็ประหลาดใจมาก

ผีขี้ขลาดแอบคิดในใจว่านี่เจ้าตัวเล็กของเขาเก่งขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย?! เดิมทีคิดว่าหลับยาวไปคราวนี้ตื่นมาอีกทีเขาจะเก่งกว่าเธอและปกป้องเธอได้แล้วซะอีก…

ผีหลายใจสงเสียงขึ้นมาด้วยความสงสัย "ท่านมู่ไปมีลูกสาวโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ นับตั้งแต่เขาไปเกิดที่โลกมนุษย์เบ็ดเสร็จแล้วก็เพิ่งจะ 256 ปีเอง แต่ยัยลิ้นจี้นี่เป็นปีศาจเฒ่าอายุตั้งสามพันกว่าปีแล้ว…"

ซู่เป่า : คำนวนเบ็ดเสร็จได้เปะมาก…

หว่านลี่พูดด้วยความโมโหว่า "เจ้าสิเป็นปิศาจเฒ่า!"

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครสนใจนางเลย

ผีเจ้าสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ท่านพี่เจ้าคะ เป็นไปได้ไหมเจ้าคะว่าอาจจะเป็นลูกนางในในวังจักรพรรดิเมื่อสมัยก่อน นางในปรนนิบัติรับใช้จักรพรรดิแล้วให้กำเนิดยัยลิ้นจี่นี่โดยที่จักรพรรดิไม่รู้..."

หว่านลี่อยากจะกระอักเลือด นางชื่อหว่านลี่ ไม่ยัยลิ้นจี่อะไรนั่นสักหน่อย!

ผีหลายใจส่ายหน้า "เป็นไปไม่ได้! ฉันพยายามอย่างหนักมาตั้งนานขนาดนั้นแล้วยังไม่เคยแม้แต่จะได้แตะขอบเตียงของท่านมู่เลยด้วยซ้ำ จะมีคนหน้าด้านกว่าฉันได้อย่างไร... ไม่สิ หมายถึงเก่งกว่าฉันน่ะ"

บรรดาผีทั้งหลาย "..."

เผลอพูดความจริงไปแล้วสินะ

"เธอบอกว่ามีหลักฐานไม่ใช่เหรอ ค้นดูก็รู้แล้ว" ผีดวงซวยขู่ว่า "จะบอกหรือไม่บอก? ถ้าไม่บอกฉันจะจัดการเธอซะ"

หว่านลี่ "! !"

ดวงตาของนางแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยว และนางก็ยิ่งรู้สึกว่าซู่เป่านั้นน่ารังเกียจและไร้ยางอายมากกว่าเดิม เจ้านายเป็นอย่างไรผีก็เป็นอย่างนั้น!

ผีขี้ขลาดยิ้มน้อย ๆ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า "อย่าหยาบคายนักสิ อยู่ต่อหน้าตัวเล็กต้องระวังคำพูดหน่อยนะ... "

หว่านลี่มองไปก็เห็นชายหนุ่มหล่อเหลาราวกับดวงดารา เขาสดใสและอบอุ่น หัวใจขอนางเต้นรัวและแอบคิดในใจว่า ช่างดีผิดพวกพ้องเสียจริง...

แต่วินาทีต่อมากลับได้ยินเขาพูดต่อว่า "เดี๋ยวฉันจะพาตัวเล็กไปหลบก่อนนะ"

มีเธอสูงส่งอยู่คนเดียวหรือไง?

ซู่เป่าเองก็โกรธ ทำไมพอเจอหน้าปุ๊บก็ต้องมาทำร้ายเธอด้วย หลังจากที่เธออธิบายไปแล้ว หว่านลี่ก็คิดจะฆ่าเธอขึ้นมา ถ้าตอนนั้นเธอหลบไม่เร็วพอ ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ใครจะไม่โมโหบ้างล่ะ!

หว่านลี่ถูกดึงตัวขึ้นมาจากพื้น นางทำหน้านิ่งพยายามอดกลั้นความโกรธไว้แล้วหยิบภาพวาดภาพหนึ่งออกมา

"ภาพภาพวาดนี้จักรพรรดิเป็นคนวาดให้ท่านแม่ของข้าเอง" หว่านลี่บอกว่า "คนในภาพก็คือจักรพรรดิ แม่ของข้า... และตัวข้า"

ทุกคนมองไปที่ภาพวาดทันที มองแล้วก็ต้องตกตะลึงกันไปครู่หนึ่ง

มันเป็นภาพวาดแบบโบราณ แต่ดูสมจริงมาก ๆ ราวภาพพิมพ์ 3 มิติ

ในภาพมีคนสามคน หนึ่งในนั่นมีผู้ชายร่างสูงสวมชุดโบราณสีดำกำลังมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ บนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มน้อย ๆ และแขนของเขาโอบรอบเอวของนาง

ใบหน้านี้ซู่เป่าคุ้นเคยเป็นอยางดี นี่คือพ่อของเธอเอง!

ผู้หญิงในภาพอุ้มเด็กอายุประมาณสามขวบไว้ในอ้อมแขน สามารถดูออกได้ไม่ยากว่านี่คือหว่านลี่ตอนเด็ก ๆ

ถ้าไม่บอก มองแวบแรกก็คงคิดว่านี้เป็นภาพครอบครัว

ซู่เป่าพูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า "มีแค่ภาพวาดภาพเดียวเนี่ยเหรอ?"

ภาพถ่ายก็ยังตัดต่อกันได้เลย แค่ภาพวาดภาพเดียวจะนับเป็นหลักฐานได้ไง?

หว่านลี่มองดูภาพของจักรพรรดิด้วยความหลงใหลและพูดว่า "จักรพรรดิคือบิดาผู้ให้กำเนิดของข้า ภาพวาดนี้ต้องเป็นภาพที่เขาวาดเองไม่ผิดแน่ ลายมือชื่อนี้เป็นลายลายมือชื่อของเขาเอง..."

ซู่เป่ากวาดตามองตามมุมต่าง ๆ แล้วก็เห็นว่ามีชื่อ 'มู่กุยฝาน' ประทับอยู่บนภาพวาดจริง แม้ว่ามันจะถูกซ่อนไว้อย่างจงใจ แต่ก็ยังแผ่อานุภาพที่น่ากลัวออกมาเช่นเดิม

หากมู่กุยฝานอยู่ที่นี่ เขาต้องจำได้แน่นอนว่าอานุภาพที่อยู่บนตัวอักษรนี้เหมือนกับอานุภาพที่ถูกเขียนไว้บนก้อนหินใต้บึงเหมันต์...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน