ซู่เป่าเห็นซูเหอเวิ่นทำท่าทางโกรธ ผู้ใหญ่ตัวน้อยราวกับตบไหล่ของเขา “คนหนุ่มสาว อย่าทำหน้าหมดอาลัยตายอยากสิ!”
ซูเหอเวิ่นกลุ้มใจ “ฉันไม่ใช่คนหนุ่มสาวซะหน่อย”
ซู่เป่าชะงักไปชั่วครู่ แล้วพูดขึ้นว่า “หนูน้อย อย่าทำหน้าหมดอาลัยตายอยากสิ!”
ซูเหอเวิ่น “…”
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่า นายหญิงซูตะโกนเรียกอยู่ชั้นล่าง “กินข้าวกันได้แล้ว! ซู่เป่า รีบลงมาสิจ๊ะ”
“ซูเหอเหวิน ซูเหอเวิ่น ซูจื่อซี หานหาน!”
นายหญิงซูตะโกนเรียกไปทั่ว
ทันใดนั้นข้างบนก็ได้ยินเสียงเหล่าเด็กๆ วิ่งลงมาเอย ไม่เต็มใจเอย อืดอาดยืดยาดเอยดังขึ้นมา
คนที่วิ่งลงมานั่นต้องเป็นซู่เป่าแน่ คนที่อืดอาดยืดยาดไม่เต็มใจเป็นซูจื่อซีอย่างไม่ต้องสงสัย
หานหานอยู่ในห้อง หานหานกำลังทำการบ้านอยู่
เธอเงยหน้าขึ้นมาอย่างน่าสงสาร “พ่อคะ ไปกินข้าวก่อนได้ไหมคะ”
ซูจื่อหลินนิสัยเคร่งขรึม ไม่รู้จักยืดหยุ่น
เมื่อครู่บอกว่าถ้าทำการบ้านไม่เสร็จจะไม่อนุญาตให้เธอไปหาซู่เป่า ไม่อนุญาตให้เธอไปกินข้าว เขาไม่ให้เธอไปเลยจริงๆ
ก่อนหน้านี้หานหานถูกเหวยหว่านให้ท้าย แม้แต่ตัวอักษรคำว่าต้าก็ยังไม่รู้ (*ต้าเป็นตัวอักษรภาษาจีนตัวหนึ่งที่นับว่าเขียนง่ายเพราะมีเพียงแค่สองลำดับขีด)
ปีนี้เธออายุหกขวบ ปีหน้าก็เข้าเรียนชั้นประถมแล้ว
พี่ใหญ่ทั้งสองก็เป็นตัวท็อปของห้อง ซู่เป่าเองก็เป็นเด็กที่ฉลาดหลักแหลม มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่คนหนึ่งดื้อรั้น อีกคนหนึ่งก็ติดเกม ในฐานะพ่อไม่มีทางที่จะไม่กดดันอยู่แล้ว
หานหานร้องไห้ “หนูเพิ่งจะอยู่ชั้นอนุบาลสามเองนะคะ! หนูต้องมาทำการบ้านอะไรกัน เด็กคนอื่นๆ ไม่มีใครเขาทำกันหรอก”
ใบหน้าของซูจื่อหลินไร้อารมณ์ “คนอื่นก็คือคนอื่น ลูกก็คือลูก”
ตัวอักษรสองสามตัวเขียนมาทั้งบ่ายแล้ว อืดอาดยืดยาดจนเขาแทบจะคุมพลังแห่งบรรพกาลเอาไว้ไม่อยู่
หานหาน “…”
ฮือๆ เธออยากไปกินข้าวกับซู่เป่า!
ซูจื่อหลินข่มอารมณ์โทสะนั่งอยู่ข้างๆ หิวเป็นเพื่อนหานหาน
หานหานทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เขียนไปทั้งน้ำตา...
ในขณะนี้เอง ซู่เฟินหอบดอกไม้ช่อโตขึ้นมาข้างบน ฝีเท้าของเธอเบาหวิว ไม่มีเสียงเลยสักนิดราวกับการเดินของผีอย่างนั้น...
เธอเดินผ่านห้องของหานหาน ขยับเข้ามาใกล้อย่างเงียบๆ ดวงตาทั้งคู่กรอกมองไปรอบๆ แอบมองสถานการณ์ข้างใน
ดูอยู่ชั่วครู่รู้สึกไม่มีอะไรน่าดู ขณะนี้เองจึงเดินไปอีกด้านอย่างพอใจเป็นอย่างมาก วางช่อดอกไม้ทีละห้อง แล้วสำรวจทีละห้องอย่างเงียบๆ...
ชั้นล่าง ในห้องอาหารแสนกว้างขวางครึกครื้นเป็นอย่างมาก นายหญิงซูให้คนเก็บอาหารไว้ให้ซูจื่อหลินกับหานหาน
คนตระกูลซูมองอาหารสองสามอย่างที่มู่กุยฝานยกมาเสิร์ฟ รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก
ไก่ต้มขิงยังพอใช้ได้ ถึงยังไงก็แค่เทน้ำลงไปพอต้มสุกก็ตักออกมา นี่เป็นอาหารที่เขาทำได้สำเร็จมากที่สุดจานหนึ่ง
ต่อไปเป็นไข่ฝูหรง นายหญิงซูหยิบช้อนตักตักบางอย่างที่เหลวอย่างกับ...“นี่...นี่คือ...”
มู่กุยฝานไม่มีเปลี่ยนสีหน้า “ผมชิมแล้ว ถึงจะหน้าตาอัปลักษณ์แต่รสชาติว้าวมากๆ เลยครับ”
นายหญิงซูแสยะยิ้ม “เหอะ...”
แล้วคีบของสีเทาที่ดำจนไหม้ขึ้นมา “แล้วนี่คือ”
มู่กุยฝาน “มะเขือครับ”
นายหญิงซู “…”
เธอเข้าใจเหตุผลทั้งหมด ลองย้อนกลับไปพวกเราก็ไม่ติดใจว่าทำไมมันถึงอยู่ในสภาพนี้
เพียงแต่...
“ทำไมไม่หั่น” นายหญิงซูถาม
มู่กุยฝานรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย “นี่ก็หั่นแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
มะเขือหนึ่งลูกตัดสองท่อน ตัดได้เท่ากันมากๆ เลยด้วย!
คนตระกูลซู “...”
ซูอีเฉินคีบขึ้นมาหนึ่งชิ้นเงียบๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ใช้ได้ทีเดียว”
ทุกคนแบ่งกันคนละชิ้น ไม่อร่อยทุกคนก็กินด้วยกัน ยุติธรรมมากๆ
หวังว่าครั้งต่อไปเขาจะทำได้ดีขึ้นหน่อย...ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงทนไม่ไหวแน่!
ซูอิ๋งเอ๋อร์จ้องเขม็ง บ่นอย่างทนไม่ไหว “ ‘มะเขือ’ ที่อร่อยขนาดนี้ ต้องเหลือไว้ให้พี่รองชิ้นหนึ่งสิ”
ซูอี้เซินยังคงยิ้มเล็กน้อย “น่าเสียดายจริงๆ คนอื่นๆ ไม่อยู่ เลยพลาดมะเขือรสชาติดีขนาดนี้ไป ครั้งต่อไปต้องทำให้พวกเขากินโดยเฉพาะด้วยนะ”
มู่กุยฝานก็คิดเห็นเช่นนี้ พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “ได้ครับ”
ซู่เป่ากินไข่ฝูหรงซู๊ดๆ จนหมดชาม ข้างปากยังเลอะซุปไข่นิดหน่อย
ใบหน้าของเธอฉีกยิ้มกว้าง ยกนิ้วโป้งตั้งขึ้น “อร่อยมาก!”
มู่กุยฝานฉีกยิ้ม
ต่างพูดกันว่าลูกสาวเป็นแก้วตาดวงใจ คำโบราณไม่เคยหลอกลวงฉันเลยจริงๆ ด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...