นอกห้องมีหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ ข้างๆ เธอคือมู่กุยฝาน
ในมือของมู่กุยฝานถือมีดปลายแหลมเล่มหนึ่ง กำลังจี้คอของหญิงสาวเอาไว้
หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใคร แต่เป็นซู่เฟิน!
“อย่าขยับ” มู่กุยฝานพูดด้วยน้ำเสียงชืดๆ แฝงเจตนาฆ่าอันเย็นเฉียบเล็กน้อยท่ามกลางความไร้รูปร่าง
ซู่เฟินเบิกตาโพลง พูดซ้ำๆ อย่างหวาดกลัวว่า “อย่าตัดหัวฉันเลยค่ะ...อย่าตัดหัวฉันเลยค่ะ...”
มู่กุยฝานหรี่ตามอง
เมื่อตอนบ่ายตอนที่มีดหั่นผักกระเด็นไป เธอเองก็กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ พูดอยู่ซ้ำๆ ว่าอย่าตัดหัวของเธอ
คนทั่วไปเห็นมีดลอยไปหรือจี้อยู่บนคอ ก็ควรจพูดว่า ‘อย่าฆ่าฉัน’หรือ ‘ช่วยด้วย’
ผู้หญิงคนนี้ ไม่ปกติอย่างที่คิดไว้จริงๆ
“เธอเป็นใคร” น้ำเสียงของมู่กุยฝานเย็นชา
สีหน้าของซู่เฟินซีดเผือด พูดขึ้นอย่างสั่นเครือ “ฉัน...ฉันซู่เฟินไงคะ...”
มู่กุยฝานกับซูอีเฉินมองหน้ากันทีหนึ่ง
ซูอีเฉินถามขึ้นว่า “เธอมาทำอะไรที่นี่”
ซู่เฟินพูดขึ้นอย่างอึกๆ อักๆ “ตอน ตอนกลางคืนฉันนอนไม่หลับ ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวพอดี...”
นัยน์ตาของเธอกรอกไปมา แล้วมองไปที่ซูเหอเวิ่น “เหมือนจะเป็นเสียงของคุณชายน้อยเหอเวิ่น...คุณชายน้อยเหอเวิ่นไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
สายตาของซูอีเฉินประกายความเย็นชาออกมาเล็กน้อย แต่ทว่ากลับพูดชืดๆ ว่า “ไม่มีเรื่องอะไร เธอก็กลับไปเถอะ!”
มู่กุยฝานได้ยินที่ซูอีเฉินพูดก็ชักมีดปลายแหลมกลับมา
ซู่เฟินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง มองมู่กุยฝานอย่างระวังทีหนึ่ง ขณะนี้เองจึงพูดขึ้นมาว่า “ค่ะ...ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้...”
พูดจบก็รีบจากไปในทันที
ซูเหอเวิ่นพูดขึ้นว่า “พ่อครับ นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอ”
ซูอีเฉินกดเสียงต่ำลง “ห้องพักของเหล่าสาวใช้อยู่อีกฝั่งของคฤหาสน์ ห่างไปประมาณห้าร้อยเมตร ต่อให้แกจะแหกปากร้องเรียกดังแค่ไหน เธอก็ไม่มีทางได้ยิน แล้วมาเร็วขนาดนี้”
คุณภาพการตกแต่งของคฤหาสน์ตระกูลซูยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ประตู ผนัง ประสิทธิภาพของฉนวนกันเสียงของแก้วเก็บเสียงเป็นอย่างดี
ไม่อย่างนั้นตอนที่ซูเหอเวิ่นเคาะประตูก๊อกๆ คนอื่นในตระกูลซูก็ถูกทำให้ตื่นไปตั้งนานแล้ว
แน่นอนว่า มู่กุยฝานเป็นกรณีพิเศษ
“อย่างที่สอง คฤหาสน์หลังนี้มีเด็กตั้งมากมายขนาดนั้น ทำไมเธอถึงรู้ว่าคนที่เสียงดังคือแกล่ะ”
พอเด็กกรีดร้องขึ้นมาก็แยกยากว่าใครเป็นใคร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซูเหอเวิ่น ซูเหอเหวินและซูจื่อซีทั้งสามคนล้วนเป็นเด็กผู้ชาย เสียงใกล้เคียงกันมาก
มั่นใจว่าเป็นเสียงของซูเหอเวิ่นทันที น่าสงสัยเป็นอย่างมาก
สองจุดนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่าเธอโกหก!
ซูเหอเวิ่นสมองไว พอคิดขึ้นได้ก็พูดกระซิบอย่างหวาดกลัวว่า “พ่อครับ พ่อหมายความว่าเมื่อกี้คนที่อยู่ในห้องผมคือเธอเหรอครับ”
ซูอีเฉินพยักหน้า โทรศัพท์เรียกอาเนี่ยขึ้นมา ให้เขาไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่กลับตรวจสอบไม่พบ
กล้องวงจรปิดถูกคนกดหยุดเอาไว้
ซูเหอเวิ่นคิดว่ายิ่งน่ากลัวกว่าเดิม บางครั้ง คนที่มีร่องรอยพิลึกกึกกือก็น่ากลัวเสียยิ่งกว่าผีซะอีก
ซูอีเฉินเงยหน้ามองไปทางมู่กุยฝาน มู่กุยฝานเองก็กำลังมองมาพอดี สายตาของทั้งสองคนมีประกายของการวางแผนชั่วอย่างหนึ่ง
มู่กุยฝานพยักหน้า พูดอย่างขึ้นเสียงเล็กน้อย “งั้นผมกลับไปก่อนละนะ”
ซูอีเฉินพูดขึ้นว่า “โอเค”
ซูเหอเวิ่นรีบพูดขึ้นว่า “พ่อครับ ผมอยากไปนอนห้องพ่อ...”
ซูอีเฉินอืมเสียงหนึ่ง จากนั้นก็พาซูเหอเวิ่นกลับห้อง
ไม่นานในคฤหาสน์ตึกหลักก็เงียบงันอีกครั้ง
ไม่นานเท่าไร ประตูของชั้นหนึ่งก็ถูกแง้มออกอย่างเงียบๆ เงาคนเส้นหนึ่ง ‘ฟิ้ว’ เข้ามาเงียบๆ...
ขณะนี้เอง มู่กุยฝานกำลังนั่งยองอยู่บนคาน หัวเราะอย่างเย็นชาเงียบๆ
คนปกติถ้าถูกจับได้คาหนังคาเขาหนึ่งครั้ง จะไม่กล้ากลับมาอีกครั้งเด็ดขาด
สาวใช้ตรงหน้าคนนี้ ถ้าาความคิดเธอไม่แปลกประหลาดจนถึงขั้นน่ากลัว ก็คือไม่ความคิดที่ไม่เหมือนคนปกติ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...