ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 120

ได้ยินซู่เป่าเรียกตัวเองว่าเจี่ยเชอหลุนซือจี ลูกตาของผีสาวหัวขาดถลึงออกมา เสียงอากาศรั่วในลำคอดังฟี่ๆๆ อยู่นานสองนานถึงพูดขึ้นว่า

“คือ...แจสแทรมสกี แจส - แทรม - สะ - กี!”

“แจสแทรมสกี...เป็นชื่อที่เท่ วางท่า แล้วก็ทันสมัยมากชื่อหนึ่ง! พวกแกเข้าใจไหม ก็อีแค่...พวกบ้านนอก!”

ผีสาวหัวขาดราวกับจะรู้สึกโกรธที่คนอื่นทำให้ชื่ออันวิเศษของเธอ ‘แปดเปื้อน’ เธอใช้เสียงลมรั่วพูดเป็นพรวนอย่างขาดๆ หายๆ

มู่กุยฝานมองผีสาวที่อยู่ในภาพ รู้สึกมีความคุ้นเคยกับผีสาวตนนี้อย่างบอกไม่ถูกอย่างหนึ่ง

ซูเหอเวิ่นขมวดคิ้ว พูดพึมพำอย่างดูถูก “แจสแทรมสกี...ชื่อนี้หมายความว่าแข็งทื่อและไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร ช่างเป็นการเสียดสีจริงๆ...”

ได้ยินคำของซูเหอเวิ่น ในสมองของมู่กุยฝานก็เกิดปิ๊งขึ้นมา ในที่สุดก็นึกออกแล้วว่าคุ้นหน้าที่ไหน!

สิบปีก่อน เขาอายุสิบหก เขาเข้าไปคลุกคลีอยู่ในองค์กรดำนั่น และได้ตาม “รายชื่อ” พอดี

ไม่รู้ว่าองค์กรไปลักพาตัวผู้หญิงกลุ่มหนึ่งมาจากไหน แล้วส่งไป ‘รับงาน’ ยังต่างประเทศ

หนึ่งในผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวมามีคนหนึ่งยังไม่ทราบสถานการณ์แน่ชัด เอาแต่พูดว่า (ฉันไม่ใช่คนประเทศหลง พวกขยะอย่างพวกนาย อเมริกาจะลงโทษพวกแกแน่...)

ชื่อของผู้หญิงคนนั้นก็ชื่อซือจีอะไรนี่เหมือนกันพอดี เป็นชื่อที่แข็งทื่อมากๆ...

ในขณะนี้เอง ซู่เป่าที่ฟังคำของผีสาวจบก็พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “อืมๆๆ คุณน้าเจี่ยโทวเชอหลุนซือจี คุณน้าตายยังไงคะ”

ริมฝีปากของมู่กุยฝานยกยิ้ม ทันใดนั้นความทรงจำในสมองก็ตู้มแตกเป็นเสี่ยงๆ

เขาหัวเราะเสียงเบาอย่างอดไม่ไหว

สีหน้าของเจ้าเด็กน้อยจริงจังเป็นอย่างมาก ส่งสายตาปิ๊งๆๆ ผีสาวโกรธจนใกล้จะตายแล้ว

“เธอหุบปากไปเลยนะ! แจสแทรมสกี! ฉันชื่อแจสแทรมสกี!”

จี้ฉางใช้มือตัดออกไป เสียงปังตัดแขนข้างหนึ่งของผีสาวหัวขาดลงมา

เจี่ยเชอหลุนซือจีกรีดร้องทีหนึ่งในทันใด แขนข้างนั้นสลายกลายเป็นไอพิฆาต จากนั้นก็สลายหายไป!

จี้ฉางหัวเราะอย่างเย็นชา “พูดจาแบบนั้นกับลูกศิษย์ของข้าได้อย่างไร”

ผีสาวหัวขาดหงอยลงในทันใด กอดศีรษะของตัวเองเอาไว้แน่น

จี้ฉาง “เป๋าน้อย ต่อสิ”

ซู่เป่าพูดขึ้นว่า “ได้เลย! คุณน้าซือจีที่ใช้ล้อรถปลอม คุณน้าเป็นคนที่ไหน เวลาตกฟากคือเมื่อใด ทำไมถึงตาย”

ซู่เป่าไม่เข้าใจชื่อนี้จริงๆ รู้สึกเพียงว่าแปลกๆ ทำไมถึงพูดไม่ถูกเลยสักครั้ง...

ผีสาวหัวขาด “...” เหนื่อยแล้ว

เธอน้อยเนื้อต่ำใจและรู้สึกไม่ยุติธรรม ยังเน้นย้ำประโยคที่ว่าว่า ‘ฉันชื่อแจสแทรมสกี...’ ถึงจะพูดต่อว่า “เป็นคนเมืองร้างของอเมริกา”

จี้ฉางถือพู่กัน ไม่เงยหน้าขึ้นมา “ข้าให้เจ้าบอกสถานที่เกิด!”

เจี่ยเชอหลุนซือจีราวกับหากพูดสถานที่เกิดของตัวเองออกไปแล้วจะขายหน้าอย่างนั้น จึงพูดด้วยน้ำเสียงเล็กๆ และรวดเร็ว “&*#…”

ซู่เป่าเงี่ยหูฟัง “อะไรนะ”

เจี่ยเชอหลุนซือจี “หมู่บ้านหลิ่งเป้ยอำเภอหนีหนิว!”

ซู่เป่าคิด แล้วถามขึ้นว่า “อ๋อ งั้นชื่อเดิมของคุณน้าล่ะคะ”

เจ้าเด็กน้อยคิดว่าเจี่ยเชอหลุนซือจีเป็นแค่ชื่อเล่น ก็เหมือนกับชื่อเล่นที่ทุกคนเรียกเธอว่าซู่เป่า ฉะนั้นเจี่ยเชอหลุนซือจีน่าจะยังมีชื่อจริงอีกชื่อ

เจี่ยเชอหลุนซือจีไม่กล้าพูดอยู่นานสองนาน ชื่อเดิมของเธอเชยมากจริงๆ เธอไม่อยากพูดมันออกมาเลยสักนิด

แต่เมื่อเห็นสายตาแสนคมกริบของจี้ฉางพุ่งมองมา มีดในมือของมู่กุยฝานเองก็ ‘หล่น’ ลงบนพื้นอย่างไม่ตั้งใจ...

เจี่ยเชอหลุนซือจีตกใจจนรีบสารภาพออกมา พูดอย่างสั่นระรัวว่า “ฉัน ฉันชื่อหวังต้านี ครอบครัวฉัน...ยากลำบากมากๆ...”

“แต่การไปใช้ชีวิตที่อเมริกาเป็นความฝันของฉันมาโดยตลอด ตั้งแต่เด็กฉันก็คิดว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่น ฉันเป็นคนมีสายเลือดสูงส่งตั้งแต่เกิด แต่จนใจที่มาเกิดผิดที่...”

ทุกคนแสยะยิ้ม “...”

ซู่เป่าถามขึ้นอย่างสงสัย “งั้นที่คุณน้าได้ไปอเมริกา ถือว่าได้ทำฝันให้เป็นจริงหรือยังคะ”

ผีสาวหัวขาดพูดขึ้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ยัง...”

เดิมเธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวที่มาจากบ้านนอก ที่บ้านไม่ได้มีเงินอะไร และไม่ได้มีภูมิหลังอะไร

ตั้งแต่เล็กจนโตคะแนนก็ไม่ได้ดีอะไร สอบมหาวิทยาลัยไม่ติด เธอเลยทำได้เพียงเผชิญหน้ากับสองตัวเลือก

ไม่กลับบ้านเดิมไป จากนั้นก็แต่งงานมีลูกใช้ชีวิตผ่านไป

ไม่ก็เข้าโรงงานทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต จากนั้นก็ยังคงแต่งงานและมีลูกใช้ชีวิตผ่านไป

ไม่ว่าจะเป็นทางเลือกแบบไหน เธอก็ไม่ต้องการทั้งนั้น

ผีสาวหัวขาดฉุนเฉียวจนมีเสียงฟู่ๆ ในลำคอ “หรือว่าชีวิตนี้ของฉัน...ฟู่...จะเป็นแบบนี้เหรอ! ฟู่...ฉันจะไม่ยอมแพ้...”

ใบหน้าของซูเหอเวิ่นเย็นชา “งั้นจะโทษใครได้ แม้แต่มหาลัยยังสอบไม่ติดเลย มันเป็นปัญหาของตัวคุณเอง!”

ซูเป่า “ใช่แล้ว!”

เจี่ยเชอหลุนซือจีโกรธและรู้สึกไม่ยุติธรรม “ที่ฉันสอบมหาลัยไม่ติดก็เป็นเพราะระบบของประเทศหลง! การศึกษาที่แข็งทื่อไม่รู้จักยืดหยุ่น พันธนาการความสามารถและอิสระของฉัน...”

ในทันนั้นซู่เป่าก็แทรกขึ้นมาว่า “คุณน้าต้านีคะ งั้นคุณน้าสอบได้คะแนนเท่าไรเหรอคะ”

เจี่ยเชอหลุนซือจีตอบ “สองร้อยหกสิบคะแนน...”

ซู่เป่า “โอ้โห! งั้นคุณน้าก็มีพรสวรรค์มากๆเลย!”

ลุงใหญ่กับคุณพ่อเทพเจ้าแห่งสงคราม “...”

ซูเหอเวิ่นวิทยาศาสตร์ทั่วไป “คะแนนสบยเข้ามหาลัยมักอยู่ที่เจ็ดร้อยหกสิบคะแนนนะ!”

เพิ่งจะสอบได้สองร้อยหกสิบ เขาหลับตาแล้วใช้หน้าทำยังสอบได้คะแนนเยอะกว่าเธอซะอีก!

ซู่เป่าเข้าใจแล้ว “งั้นนี่ก็เป็นคนกากน่ะสิ! เหมือนพี่หานหานเลย”

ไม่รู้ว่าหานหานนอนกรนตั้งแต่เมื่อไร มิหนำซ้ำยังเป่าขี้มูกเป็นฟองอีกต่างหาก

เจี่ยเชอหลุนซือจีแก้ต่าง “ฉันเองก็พยายามแล้ว เป็นเพราะเหตุผลของระบบ! และตอนฉันเด็กๆ พ่อแม่ฉันไม่มีเงินส่งฉันไปเรียนกวดวิชา...”

ซู่เป่า “งั้นคุณน้ามีความสามารถพิเศษอะไรเหรอคะ พูดภาษาฝรั่งเก่งไหมคะ”

เจี่ยเชอหลุนซือจีอ้าปาก

เธอไม่มีความสามารถพิเศษอะไร หน้าตาก็ไม่นับว่าสะสวย ภาษาอังกฤษก็ไม่ดี

ฉะนั้นเธอจึงไปอเมริกาไม่ได้ ทำได้แค่เป็นแคชเชียร์อยู่ซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ

มีความฝันอยากออกนอกประเทศที่อยู่ในใจแต่ก็ไปไม่ได้ เอาแต่คิดว่าตัวเองต้องเป็นคนชนชั้นสูงกว่าคนรอบข้างแต่กลับจำเป็นต้องขลุกกับพวกเขา ข้อนี้ทำให้เธอยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น

ในที่สุดวันหนึ่งก็เป็นโอกาสของเธอ มีฝรั่งคนหนึ่งมาที่ซูเปอร์มาเก็ต

“ช่วงเวลานั้น ฉันรู้สึกว่าฉันอยากเห็นแสงสว่างของพระเจ้า ราวกับเป็นรางวัลที่ฉันพากเพียรและไม่ถอดใจมาเป็นเวลานาน...”

“ฉันตามไปถามไถ่สารทุกข์สุขดิบฝรั่งคนนั้น เป็นไกด์ให้เขา ไปร้านเหล้าเป็นเพื่อนเขา”

เพื่อให้สื่อสารกับเขาได้อย่างไม่มีอุปสรรค เธอยังอดหลับอดนอนเรียนภาษาอังกฤษอีกด้วย

จนกระทั่งลงเงินของตัวเองไปเป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวจนถึงขั้นเพื่อนนอน เพราะเธอได้ยินคนอื่นบอกว่าเพียงแค่คบกับชาวต่างชาติและตั้งท้องลูก ก็จะได้กรีนการ์ดของอเมริกามาฟรีๆ...

เธอเองก็ทำสำเร็จแล้ว ชายต่างชาติคนนั้นช่วยเธอจัดการเรื่องวีซ่าและพาเธอไปอเมริกา

ซู่เป่าถามขึ้นอย่างสงสัย “คุณน้าไปเอาเงินมาจากไหนคะ”

ไปที่ที่ไกลขนาดนั้น ต้องใช้เงินมากใช่ไหม

เจี่ยเชอหลุนซือจีพูดขึ้นอย่างไม่แย่แส “ก็พ่อฉันน่ะสิ...ฉันบอกว่าจะเอาเงินเพื่อไปต่างประเทศเขาไม่ให้ แต่พอตัวเองป่วยกลับมีเงินไปผ่าตัดซะงั้น...”

ฟู่...ฟู่...เธอจะยอมได้ยังไง

เธอก่อเรื่องในโรงพยาบาล พ่อของเธอให้เงินเธออย่างที่คิดเอาไว้ เธอได้ไปเหยียบพื้นแผ่นดินอเมริกาสมดังปรารถนา

“ตอนที่ลงจากเครื่องบิน ฉันรู้สึกว่าทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งสวยงาม สมแล้วที่อเมริกาเป็นแดนสวรรค์ แม้แต่อากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นหวานหอม...ไม่เหมือนที่นั่น มีแต่กลิ่นเหม็นของท่อไอเสียรถยนต์และสภาพแวดล้อมที่รับมลพิษ...”

ซู่เป่า “…”

ได้ยินแล้วก็โมโหเล็กน้อย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน