ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 122

ซูเหอเวิ่นขนลุกซู่!

ลองคิดดูสิ ผู้หญิงคนหนึ่งแอบเข้าห้องตอนกลางคืน แล้วทำท่าจะกรีดคอของเขา...

ซูเหอเวิ่นตัวสั่นเทา

“โรคจิตชัด ๆ” ซูเหอเวิ่นอดไม่ได้ที่จะสบถออกมา

ผีผู้หญิงหัวเราะอย่างไม่แยแส

ทันใดนั้นซู่เป่าก็นึกบางอย่างขึ้นได้ “ใช่สิ แล้วทำไมเธอถึงตามพ่อฉันกลับมาล่ะ”

เรือสำราญแล่นอยู่กลางมหาสมุทร ผีผู้หญิงก็ตายบนดาดฟ้า ตามหลักเหตุผลแล้วต้องกลับมาไม่ได้สิ

ผีผู้หญิงชักสีหน้าไปทางมู่กุยฝาน

มู่กุยฝานไม่รอให้เธอพูด ก็เอ่ยเสียงอ่อย “ตอนนั้นพ่อไปปฏิบัติภารกิจที่ทะเล เลยได้ขึ้นเรือสำราญลำนั้นพอดี น่าจะตามมาจากตอนนั้น”

ผีผู้หญิงจ้องเขม็งไปยังมู่กุยฝาน หัวเราะเหอะ ๆ ในลำคอ มุมปากปรากฏรอยยิ้มสุดประหลาด

“แกมันหลอกลวง” ผีผู้หญิงพูดต่อ “แกกลัวลูกจะเกลียดแก กลัวแกเหรอ... หึ ๆ ๆ”

“เจ้าเด็กน้อย ฉันจะบอกอะไรให้ พ่อของเธอฆ่าคนบริสุทธิ์บนเรือสำราญ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งรุ่นราวคราวเดียวกับเธอหมอบลงในรถของเขา...ถูกเขาใช้ปืน...ปั๊ง!”

ผีผู้หญิงอุ้มหัวของตัวเอง แล้วทำท่าเอาปืนจ่อหัว

“น่าสงสารสุด ๆ เลยอะ”

“แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง จะไปทำอะไรผิดได้”

“แต่เขาก็ยังลงมือได้ลง พ่อของเธอมันเป็นปีศาจ! ฮ่า ๆ ๆ !”

“ไม่อย่างนั้นฉันก็ยังไม่รู้หรอกว่าพ่อของเธอก็คือไอชายหน้าอ่อนคนนั้นที่มันตัดหัวฉัน...”

ดังนั้นเธอก็เลยตามเขากลับมา

เดิมทีเธอก็ไม่สามารถเดินทางข้ามมหาสมุทรมาได้ แต่ว่าเธอได้กลืนกินวิญญาณที่ตายอย่างอนาจของเด็กคนนั้นก็เลยได้กลับมา

ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณมู่กุยฝาน

ผีผู้หญิงอุ้มหัวของตัวเอง แล้วค่อย ๆ หันกลับมา ลูกตากลม ๆ จ้องมาทางมู่กุยฝาน

ซึ่งหันมาตรงกับทิศทางของกล้องบันทึกวิดีโอพอดี ซูเหอเวิ่นตกใจดวงตาที่จ้องเขม็งของเธอจนตัวแข็งทื่อ

ชั่วพริบตา ผีผู้หญิงก็กรีดร้องเสียงแหลม กลายร่างเป็นไอพิฆาตสีดำ แล้วถูกดูดเข้าไปในน้ำเต้าวิญญาณ!

ซู่เป่าชูมือน้อย ๆ ขึ้น มองน้ำเต้าวิญญาณ และเชือกแดงบนแขนอย่างเงียบ ๆ

สีหน้าของเธอไม่ปรากฏอารมณ์อะไรทั้งสิ้น นิ่งเงียบจนน่าใจหาย

“ซู่เป่า” มู่กุยฝานรีบเดินไปหา

ซู่เป่าราวกับตกอยู่ในภวังค์ของอารมณ์แห่งความสูญเสีย และหดหู่ มองไปยังมู่กุยฝานด้วยสายตาว่างเปล่า

มู่กุยฝานรู้สึกใจดิ่งลง เม้มริมฝีปาก “ซู่เป่า พ่ออธิบายได้”

เจ้าเด็กนี่คงเข้าใจเขาผิดไปแล้วละมั้ง

คงกลัวเขา...และหลังจากนี้จะไม่ยอมอยู่ใกล้เขาอีกแล้ว

เสี้ยววิต่อมา ก็เห็นซู่เป่าหลับตา แล้วล้มตัวลงบนอกของจี้ฉาง

มู่กุยฝานก้าวมาข้างหน้า รับเธอไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะล้มลง!

พอไม่ใช้เครื่องบันทึกวิดีโอ มู่กุยฝานก็มองไม่เห็นจี้ฉางแล้ว เขายื่นมือมาอุ้มซู่เป่าขึ้นแล้วเดินจากไป

ด้านจี้ฉางเห็นเพียงฝ่ามือขนาดใหญ่พัดเข้ามา แล้วเจ้าก้อนแป้งที่อยู่ในอ้อมแขนเขาก็หายไป

จี้ฉาง“……” มีมารยาทไหมเนี่ย

ผีในบ้านถูกจับจนหมดเกลี้ยง ครั้งนี้ซูเหอเวิ่นสามารถวางใจได้จริง ๆ แล้ว เมื่อกี้ทำเอาเกือบเป็นโรคประสาท ตอนนี้ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ขาก็รู้สึกอ่อนแรง

ซูอี้เซินที่เพิ่งจะถึงบ้านถือกล่องยาเข้ามา ก็เห็นมู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าออกไปด้านนอก

“?”

“รอด้วย...”

ซูอีเฉินปราม “ไม่ต้องตามมาแล้ว ซู่เป่าไม่เป็นไร”

เขามองเห็นอาจารย์ของเจ้าตัวเล็กในกล้องถ่ายวีดิโอ

ดูท่าทีก็ดีกับซู่เป่าจริง ๆ คงไม่ให้ซู่เป่าเป็นอะไรแน่นอน

ซูเหอเวิ่นขยี้ตาด้วยความง่วงเต็มประดา “อาเล็ก ทำไมอาช้าขนาดนี้ล่ะ...”

“มีเคสฉุกเฉินกลางดึก ฉันเพิ่งจะออกไปได้ครึ่งทางก็รับสายโทรศัพท์ของพี่ใหญ่”

มาเร็วที่สุดแล้ว คนไข้เคสนี้ก็ถูกโยนไปให้ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์

ขับเร็วจนแทบจะบิน ล้อรถนี่ถึงขนาดเป็นประกายไฟ

แต่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย

ซูอี้เซิน“ตกลงเกิดอะไรขึ้น”

ซูอีเฉินตบบ่าของซูอี้เซิน แล้วเดินจากไป

ซูเหอเวิ่นก็ถือกล้องถ่ายวิดีโอเดินตามหลังไปติด ๆ แล้วก็ตบซูอี้เซินที่...แขน (ก็เหอเวิ่นตบบ่าไม่ถึง)

แค่ชั่วพริบตาในห้องก็เหลือเพียงแต่หานหานที่หลับเอาเป็นเอาตาย

บนพื้นก็ยังมีสาวใช้คนหนึ่งนอนหมดสติอยู่

ไม่นานอาเนี่ยก็เข้ามาแล้วลากสาวใช้ออกไป

ซูอี้เซิน“???”

“???”

**

ท้องฟ้าสว่างสดใส หานหานสะลึมสะลือลุกขึ้นมา มองไปทางเสียวอู่ที่นอกระเบียงอย่างเหม่อลอย

งีบหลับอยู่พักใหญ่ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา มองซ้ายมองขวา

“อ้าว ซู่เป่าล่ะ”

เธอลุกขึ้นมาแล้ววิ่งออกไป ทว่าบรรยากาศในบ้านกลับผิดปกติ

หานหานตื่นมาก็ถึงกับงง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย

มองเห็นพ่อบ้าน หานหานก็รีบเรียกทันที “ลุงเนี่ย ซู่เป่าล่ะ”

อาเนี่ยทำท่าจุ๊ ๆ “คุณหนูซู่เป่าไม่สบาย อย่าดัง…”

หานหานรอแล้วรออีก หนึ่งวันผ่านไป ซู่เป่าก็ยังไม่มีวี่แววจะตื่นขึ้นมา สีหน้าของผู้ใหญ่ในครอบครัวก็ยิ่งเคร่งเครียดขึ้นเรื่อย ๆ

**

ซู่เป่าไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานขนาดไหน ตื่นขึ้นมาท้องฟ้ายังคงมืดสนิด

เธอลุกขึ้นมาอย่างงุนงงมองไปรอบทิศ

ที่นี่ที่ไหนเนี่ย

จี้ฉางนั่งขัดสมาธิอยู่กลางอากาศ เห็นซู่เป่าลืมตา ก็ปิดตำรา

“ตื่นแล้วเหรอ”

เขาลอยเข้ามาหา แล้วแตะที่บริเวณหน้าผากของซู่เป่า

ซู่เป่าเงยหน้าเล็ก ๆ ของเธอพลางบ่นพึมพำ “ท่านอาจารย์ ท่านไม่ใช่คนนะ รับรู้อุณหภูมิไม่ได้ ท่านแตะ ๆ อย่างนี้จะรู้อะไรเหรอ”

จี้ฉางก็ยื่นนิ้วชี้มาดันที่หัวเธอเบา ๆ “อาจารย์จำเป็นต้องวัดอุณหภูมิเจ้าด้วยเหรอ แค่เจ้ายกก้นขึ้นมาข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าจะตด แตะ ๆ หัวเจ้าข้าก็รู้แล้วว่าเจ้าสบายดีไหม ”

ซู่เป่าหัวเราะร่า “ท่านอาจารย์นั้นแหละที่ตด!”

จี้ฉางยิ้มไม่ออกได้แต่ส่ายหน้า

เจ้าเด็กคนนี้กระอักเลือดออกมา แถมยังสูญเสียพลังไปค่อนข้างมาก ถึงขนาดทิ้งตัวล้มลงแล้วหลับสนิทไปเลยทีเดียว

เพราะเธอคนเดียวทำให้ทั้งครอบครัวกลัวกันแทบตาย

ขณะเดียวกันประตูก็เปิดออก นายหญิงซูถือข้าวต้มทรงเครื่องกลิ่นหอมฟุ้งเข้ามาในห้อง

“ซู่เป่า ตื่นแล้วเหรอ” นายหญิงซูถามด้วยความดีใจ

ซู่เป่าน้ำลายไหล รู้สึกหิวมาก กลืนน้ำลายไปพูดไป

“คุณยาย หนูหิวมากเลย”

นายหญิงซูดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้

“ดีเลย ดี ๆ ยายจะไปทำของอร่อย ๆ มาให้หนูกินนะ”

ซู่เป่ารีบยกมือขึ้นทันที “หนูอยากกินมะเขือเทศเผา แล้วก็ไก่ต้มซีอิ๊ว แล้วก็แล้วก็เนื้อเส้นกงอิ๋ง...ไม่สิ เนื้อเส้นติงเหยิง...ก็ไม่ใช่ ”

นายหญิงซูหัวเราะ “เนื้อฝอยเติงหยิง”

ซู่เป่าพยักหน้า “อื้ม ๆ”

นายหญิงซูมองเจ้าตัวน้อยที่มีชีวิตชีวาขึ้นมา ก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย

เธอค่อย ๆ ปาดน้ำตา เธอกลัวจริง ๆ ว่าซู่เป่าที่เพิ่งจะกลับมาจะจากเธอไปเสียเล้ว…

ซู่เป่ามองนายหญิงซูร้องไห้ ก็โผกอด

“ซู่เป่าทำให้คุณยายกังวลอีกแล้วใช่ไหม ขอโทษนะคะคุณยาย”

นายหญิงซูยิ่งกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ไหลพรากออกมาหนักกว่าเดิม

เป๋าน้อยของเธอเป็นเด็กดีจังเลย!

เธอคงอยู่อย่างทรมานถ้าหากซู่เป่าจากโลกนี้ไปก่อนเธอ

“ซู่เป่า ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ” นายหญิงซูลูบผมซู่เป่า “เติบโตอย่างมีความสุข และปลอดภัยนะ...”

ถ้าสามารถเอาชีวิตของเธอไปแลกกับชีวิตสงบสุขของเจ้าตัวน้อยซู่เป่าได้ล่ะก็ จะให้เธอตายตอนนี้เลยก็ได้

“อื้อ ๆ คุณยายก็เหมือนกันนะคะ”

นายหญิงซูเม้มริมฝีปาก ก่อนจะยิ้มออกมา “ยายแก่แล้ว ไม่โตแล้ว”

ซู่เป่าท่าทางจริงจัง “ยังโตได้อีก ๆ ”

ท้ายที่สุดนายหญิงซูก็ทนไม่ไหวจนหัวเราะออกมา

“โอเค ๆ ยายก็จะเติบโตไปพร้อมกับซู่เป่านะ”

สองคนต่างวัยมองหน้ากันแล้วก็ยิ้ม

หลังจากนายหญิงซูลงไปจากตึก มู่กุยฝานก็เข้ามาต่อทันที

“ซู่เป่า” เขาเรียกเบา ๆ

ร่างสูงใหญ่ยืนไหล่ตกอยู่หน้าประตู ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง ความเย่อหยิ่ง และดื้อรั้นหายไปไม่เหมือนอย่างเคย

ราวกับเด็กที่ทำอะไรผิดมา

ซู่เป่าลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะถาม

“คุณพ่อ คุณพ่อไปก่อเรื่องอะไรมาเหรอ ฝ่ายตรงข้ามต้องการให้พวกเราชดใช้เท่าไหร่”

มู่กุยฝาน“ ? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน