ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 123

สีหน้าสับสนของซู่เป่ามองไปยังสีหน้ากังวลของพ่อเธอ

ไม่โทษเธอที่คิดเช่นนี้ จริง ๆ แล้วเมื่อก่อนพ่อของเธอก็ค่อนข้างวางท่าอวดดี

แต่ตอนนี้กลับก้มหน้าก้มตาเหมือนคนที่ทำอะไรผิดมา

“หนูมีเงินไม่เยอะ แต่ว่าคุณพ่อไม่ต้องกังวลนะ ถ้าหากเงินไม่พอ เดี่ยวหนูจะไปยืมของลุงใหญ่มาให้นะคะ”

หลังจากนั้นเธอก็จะพยายามทำงานหาเงินใช้หนี้

ประโยคนี้พูดออกมาได้ไงเนี่ย อืม...หนี้ของพ่อลูกใช้ให้งั้นเหรอ

มู่กุยฝานอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ซู่เป่า พ่อไม่ได้ติดหนี้อะไรเลย”

เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก

คิดว่าเจ้าตัวเล็กจะไม่ต้องการเขา ไม่ชอบพ่อแบบเขาไปเสียแล้ว…

คาดไม่ถึง เธอกลับบอกว่าจะช่วยเขาใช้หนี้

ซู่เป่าประหลาดใจ “งั้นคุณพ่อเป็นอะไรล่ะคะ คนหนุ่ม ๆ ต้องไม่หน้าม่อยคอตกสิคะ!”

ดวงตาของมู่กุยฝานเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม นั่งยอง ๆ ลงข้างเตียง จ้องมองไปยังซู่เป่า

“เมื่อวานที่ผีผู้หญิงพูดเรื่องพ่อ หนูไม่กลัวพ่อเหรอ”

ซู่เป่าส่ายหัว “หนูเชื่อคุณพ่อ คุณพ่อไม่ใช่คนอย่างนั้นแน่นอน”

คุณตากับลุงใหญ่ต่างบอกว่าพ่อเป็นผู้พิทักษ์

ไม่ใช่ปีศาจเสียหน่อย

มู่กุยฝานตกตะลึง เพียงแค่ชั่วพริบตารู้สึกว่าหัวใจได้ถูกเติมเต็มไปด้วยความอบอุ่น และความอ่อนโยน

“ขอบคุณนะเป่าน้อยที่น่ารักของพ่อ” มู่กุยฝานยื่นมืออกมา บีบเบา ๆ ที่จมูกของเธอ

ซู่เป่ากลัวจั๊กจี้จมูกเลยรีบเอามือปิด พูดไปยิ้มไปพลาง “ไม่ต้องเกรงใจค่ะ!”

ถึงแม้เจ้าตัวน้อยจะเชื่อมั่นในตัวเขาเองแบบไม่มีเงื่อนไข ทว่ามู่กุยฝานรู้สึกว่าอย่างไรก็จะต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน

เขานั่งลงบนเตียง เอนตัวนอนลงไป พูดออกมาอย่างผ่อนคลาย “มานี่ เอนหลังด้วยกัน”

ซู่เป่ารีบทิ้งตัวนอนลง ศีรษะหนุนไปที่บนไหล่กว้างของมู่กุยฝาน

ซู่เป่ากางแขนพร้อมเหยียดขาทั้งสองข้างออกมา

มู่กุยฝานประสานมือรองศีรษะของเขา “ช่วงก่อนหน้านี้พ่อไปทำภารกิจมา”

“รายละเอียดของภารกิจพ่อไม่สามารถบอกหนูได้ แต่ซู่เป่าจำไว้นะว่า พ่อจะไม่ทำอะไรที่ผิดต่อประเทศ และศีลธรรมก็พอ”

“อื้ม ๆ”

“เด็กผู้หญิงคนนั้นถูกจับตัวไป ในร่างกายของเธอมีระเบิดฝังไว้อยู่”

เขาเล่าต่อว่า ความเป็นจริงแล้วระเบิดที่อยู่บนตัวของเธอไม่ใช่แค่ระเบิดธรรมดา แต่เป็นระเบิดที่ถูกฝังเข้าไปในร่างกายของเธอ

ไม่อย่างนั้นเขาคงเอาออกให้ไปแล้ว...

ยัยหนูนั่นเพิ่งจะเจ็ดขวบ ตัวเล็กซูบผอม ดูเหมือนจะโตกว่าซู่เป่าไม่เท่าไหร่

เธอเห็นพ่อกับแม่ของเธอตายต่อหน้าต่อตา

สุดท้ายเธอกลัวร้องไห้ออกมาแล้วพูดกับเขาว่า เธอไม่อยากตาย...

“พ่อก็ให้เธอหมอบอยู่ภายในรถ” มู่กุยฝานมองเพดาน พูดเสียงสั่น “พ่อยังรับปากเธอ ว่าจะช่วยเธอออกไปได้แน่นอน”

“แต่ว่าพ่อผิดคำพูด”

มู่กุยฝานหลุบตาลง สถานการณ์มันวิกฤต หัวหน้าผู้ก่อการร้ายปีนขึ้นมาบนรถออฟโรดเพียงเพราะความประมาทเพียงชั่วขณะของเขา

“พ่อไม่ได้จะยิงเธอ พ่อยิงคนเลวคนนั้น เพียงแต่ว่าเด็กคนนั้นก็โดนลูกหลงไปด้วย...เมื่อคืนผีผู้หญิงไม่ได้พูดทั้งหมด”

ซู่เป่าพยักหน้าเข้าใจ ปากก็บ่น

“หนูก็รู้ คุณน้าอุ้มหัวนั่นเลวมากเลย”

เจ้าก้อนแป้งเงยหน้าไปยังมู่กุยฝาน ถามเบา ๆ

“คุณพ่อ เศร้าเหรอคะ”

มู่กุยฝานฝืดคอ ตอบกลับเสียงแหบแห้ง

“อืม เพราะว่าพ่อยังไม่แข็งแกร่งพอ”

ซู่เป่ามองไปที่พ่ออย่างเหม่อลอยนิดหน่อย

ที่แท้พ่อก็เหมือนเธอเหรอเนี่ย รู้สึกเศร้าภายในใจ รู้สึกจุก ๆ ในอก

“งั้นคุณพ่อยังจะเป็นผู้พิทักษ์ต่อไหม” ซู่เป่าถามทันควัน

มู่กุยฝานก้มมองเธอ พลางพยักหน้าอย่างจริงจัง

“เป็น”

ก่อนหน้านี้เขาแค่ทำเพื่อประเทศ เพราะเขาตัวคนเดียว ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล

ตอนนี้เขาเข้าใจความหมายของคำว่าปกป้องมากขึ้นแล้ว

ตอนนี้เขามีลูกสาวที่เขาต้องคอยเป็นห่วงแล้ว

ที่ใดมีประเทศที่นั่นมีบ้าน เขาต้องการให้เจ้าตัวเล็กเติบโตอย่างแข็งแรง และสดใส

ซู่เป่ายังคงงุนงง

“แล้วหลังจากนี้ ถ้าคุณพ่อได้เห็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างนั้นอีกครั้ง จะไม่รู้สึกแย่เหรอคะ”

มู่กุยฝานคลี่ยิ้ม

“แย่สิ แต่ไม่เป็นหรอก ทุกคนมีเหตุผลของการกระทำต่าง ๆ เป็นของตัวเอง”

“เมื่อก่อนตอนพ่อเสร็จจากภารกิจ พ่อก็จะไปกินไอติมอันใหญ่ ๆ หลังจากนั้นก็จะลืมเรื่องที่ไม่สบายใจไปจนหมดสิ้น”

พริบตาเดียวซู่เป่าก็เข้าใจที่พ่อพูดทั้งหมด

ความรู้สึกอึดอัดที่จุกอยู่ในอกก็หายเป็นปลิดทิ้ง

“ใช่แล้ว!” ซู่เป่าพลิกตัวลุกขึ้น ยกนิ้วโป้งให้ แล้วประทับลงไปที่หว่างคิ้วของมู่กุยฝาน

“คุณพ่อเก่งมาก ๆ”

“พวกเราจะสู้ไปด้วยกัน~”

มู่กุยฝานหัวเราะเบา ๆ พาซู่เป่าลงมาล่างเตียง ก่อนจะเอามือกดไหล่เธอไว้

แล้วก็...“จั๊กจี้ จั๊กจี้!”

ซู่เป่าหัวเราะจนจะขาดใจ พร้อมตะโกน “แอคชั่นบีม! ปิ้ว ปิ้ว ปิ้ว!”

มู่กุยฝานแกล้งทำท่าโดนยิง แล้วล้มลง “เอื้ออ...พ่อแพ้แล้ว!”

ซู่เป่าก็รีบลุกขึ้นมาจั๊กจี้มู่กุยฝานคืน

ขณะที่ทั้งสองกำลังเล่นหยอกล้อหัวเราะกันเสียงดังลั่น นายหญิงซูก็เปิดประตูเข้ามา

“อะไรกันเนี่ย” เธอจ้องมอง

“อายุปูนนี้แล้ว เล่นเป็นเด็กเลย เดี๋ยวเด็กก็หัวเราะจนขาดใจตายขึ้นมาจะทำอย่างไร”

มู่กุยฝานเอามือแตะจมูก แล้วนั่งหลังตรง

“อืม ใช่ ๆ ๆ ผมผิดไปแล้ว”

ซู่เป่าก็นั่งหลังตรงตาม มือน้อย ๆ วางไว้บนเข่าพลางพยักหน้า “

ใช่ ๆ ๆ หนูผิดไปแล้ว”

นายหญิงซูทั้งโมโหทั้งหัวเราะ “ลงไปกินข้าว!”

ชั้นล่าง

หานหานยืนที่เก้าอี้ข้างโต๊ะ รีบคีบอาหาร

แล้วตักใส่จานรูปแมวน้อยของซู่เป่าจนเต็ม ก่อนจะนั่งลง

คุณท่านซูขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงเข้ม “เขาจะกินก็ให้เขาตักเอง แกจะตักทำไมเยอะขนาดนั้นล่ะ”

แล้วมองไปทางซูเหอเวิ่น “นี่ก็อีกคน ยังมาไม่ครบทุกคนเลย ทำไมแกกินก่อนล่ะ”

ซูเหอเวิ่นวางตะเกียบลงอย่างเชื่อฟัง “ปู่ครับ ปู่ไม่ต้องเข้มงวดกับพวกเราขนาดนี้ก็ได้มั้ง...”

คุณท่านซูถอนหายใจ “ฉันก็เข้มงวดกับคนทุกคนนั้นแหละ...”

ซูอีเฉิน หานหาน และซูเหอเวิ่นมองไปทางเขาแล้วทำหน้าแบบ ‘ฉันไม่เชื่อ’

ขณะที่ซู่เป่าลงมาพอดี คุณท่านซูมองไปยังเจ้าก้อนแป้งที่กระโดดอย่างมีชีวิตชีวา ก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ในอกก็ถูกยกออกไป

“ซู่เป่าลูก มา ๆ กินข้าว” แล้วคุณท่านซูก็คีบขาหมูให้ซู่เป่า

ซูอีเฉินทำมือเป็นกำปั้น แล้วปิดไว้ตรงปาก “หึ”

“หึ หึ หึ หึ!” หานหานกับซูเหอเวิ่นประสานเสียง

คุณท่านซู“……”

กินข้าวเสร็จ ซู่เป่าก็นอนลูบพุงกลม ๆ ของเธออยู่บนโซฟาไม่อยากขยับไปไหน

ทันใดนั้น เธอก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับพ่อว่าพ่อไปกินไอติมอันใหญ่ ๆ มา

เจ้าตัวเล็กก็รีบลุกขึ้น กระเถิบเข้าไปใกล้มู่กุยฝานแล้วกระซิบถาม

“คุณพ่อคะ พรุ่งนี้เราไปกินไอติมอันใหญ่ ๆ ได้ไหม”

มู่กุยฝานชำเลืองตามองเธอ แล้วกระซิบ “โอเค อย่าบอกยายหนูล่ะ”

นายหญิงซูหยิบผลไม้พลางหรี่ตา “พวกเธอสองคนกำลังวางแผนร้ายอะไรกันอีกแล้ว”

พอซู่เป่าเห็นผลไม้!

ก็รีบวิ่งไป!

“คุณยายขา หนูกินอิ่มแล้ว อิ่มแล้วจริง ๆ ถ้ากินอีกอาหารจะโผล่ออกมาที่ก้นแล้ว”

พอสิ้นสุดเสียงลง เจ้าตัวเล็กก็วิ่งหนีไปอย่างไร้เงา

นายหญิงซู“……”

มู่กุยฝานไม่สบตา “ผมก็จะขึ้นไปชั้นบนแล้วนะ”

“แกหยุดก่อน”

มู่กุยฝานหยุดชะงัก ก่อนจะหันหน้าไป “อะไรเหรอครับ”

นายหญิงซูสีหน้าไร้อารมณ์ “เอาผลไม้ไปกินให้หมด”

มู่กุยฝาน“……”

“……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน