สามีของซินจื่อเหมิงโกรธจนอกแทบจะระเบิด แต่ทำได้เพียงอดทน
เขายื่นมือทำท่าบอกให้พอ “พอแล้วผมไม่อยากทะเลาะกับคุณ แค่ทะเลาะกันก็เลยขายบ้านเนี่ยนะ ผมหมดคำจะพูดจริงๆ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่ปรึกษาผมสักคำ ไม่กลัวถูกคนอื่นหลอกงั้นเหรอ อีกเรื่อง คุณซื้อบ้านพักตากอากาศด้วยใช่ไหม เอากุญแจมาให้ผม”
ซินจื่อเหมิงยืนกอดอกเต็มไปด้วยพลังงานบางอย่าง
“ทำไมต้องให้คุณด้วย ไสหัวไป พวกคุณชอบอยู่ชนบทไม่ใช่เหรอ ก็ไปสิ!”
“ฉันก็เคยบอกคุณแล้วนี่ เงินของฉัน บ้านของฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณแม้แต่สตางค์แดงเดียว”
ขณะนั้นเองแม่สามีของซินจื่อเหมิงยังไม่ทันมาถึงแต่กลับได้ยินเสียงเธอ
“นี่เป็นสินสมรส มันจะไม่เกี่ยวกันได้ยังไง ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือเงิน ครึ่งหนึ่งต้องเป็นของลูกชายฉัน”
แม่สามีของซินจื่อเหมิงจ้องมาที่ซินจื่อเหมิงด้วยความโกรธ
โมโหเธอมากเลยทีเดียว
อุตส่าห์อดทนรออยู่ที่ชนบทตั้งนาน ซินจื่อเหมิงก็ยังไม่ยอมมาอ้อนวอนให้กลับไป
มิหนำซ้ำยังเก็บข้าวเก็บของส่งกลับไปให้พวกเขา
ได้ข่าวว่าซื้อบ้านพักตากอากาศอีกด้วย!
ไม่ฟังคำแนะนำเลยจริง ๆ
โมโหจะบ้า!
“ฉันเหนื่อยแล้ว ยังไม่อยากทะเลาะกับเธอ เอากุญแจมาให้พวกเรา ฉันอยากกลับไปพักผ่อนสักหน่อย” แม่สามีของซินจื่อเหมิงพูดอย่างโกรธเคือง
ซินจื่อเหมิงปัดมือแม่สามีออก
เธอยิ้มแบบเยือกเย็น “อยากเข้าบ้านฉันก็ขอร้องฉันหน่อยสิ”
ซินจื่อเหมิงเหยียบรองเท้าส้นสูงกลับไปที่โซฟาอย่างไม่แยแส กลับมาก็เห็นซู่เป่ากับพ่อของเธอนั่งกินแตงโมเป็นผู้รับชมอย่างใจจดใจจ่อ
ซู่เป่าถึงขนาดปรบมือให้ “น้าซินอย่างเท่เลย”
ซินจื่อเหมิง“……”
“พวกเราไปกันเถอะ” ซินจื่อเหมิงเก็บคอมฯใส่กระเป๋า สีหน้าดูแย่
“อุตส่าห์อารมณ์ดี ๆ เสียบรรยากาศหมด”
มู่กุยฝานลุกขึ้นแล้วยกซู่เป่าขึ้นมาอุ้มอยู่ในอ้อมกอดด้วยมือเดียวอย่างง่ายดาย
พอเห็นซินจื่อเหมิงจะไปจริง ๆ สามีของเธอรู้สึกขายขี้หน้าขึ้นมา ว่าไล่หลังมาอย่างดุเดือด
“เยี่ยม เธอนี่มันเยี่ยมจริง ๆ วันนี้เธอออกจากประตูนี้ไป ฉันจะหย่ากับเธอแน่”
ซินจื่อเหมิงก็ไม่กลับไป ยกคอมฯไปเช็คบิลแล้วเดินจากไป
สามีของซินจื่อเหมิง“……”
เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ได้แต่ตบหน้าบวมๆ แสร้งทำเป็นอ้วน แล้วก็จากไป
แม่สามีของซินจื่อเหมิงโกรธจนความดันขึ้นสูงปี๊ดหัวแทบจะระเบิด
“ไปหย่า! ไปหย่ากับเธอเดี๋ยวนี้” แม่สามีโมโหตะโกนออกมา
สามีของซินจื่อเหมิงเดือดสุด ๆ “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเธอเป็นคนหาเงินตลอด ถ้าหย่าแล้วพวกเราก็จะไม่ได้อะไรเลย”
ใครจะไปคิดว่าแม่สามีจะพูด “เป็นไปได้ยังไง แม่เคยถามทนายแล้ว ขอเพียงรายได้ที่ได้มาในระหว่างที่ยังเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นเงินที่แกหาหรือเธอหา ทั้งหมดถือว่าเป็นสินสมรส”
แม่สามีของซินจื่อเหมิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ต่อให้หลังแต่งงานแล้วแกไม่ได้หาเองแม้แต่สตางค์เดียว แต่เธอหาได้เท่าไหร่ก็เป็นของแกครึ่งหนึ่ง นี่ก็คือกฎ”
ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้วไม่ว่าเธอจะซื้อหรือไม่ซื้อบ้านพักตากอากาศ ถึงอย่างไรก็ต้องแบ่งกันอยู่ดี
สามีของซินจื่อเหมิงดีใจทันควัน “จริงเหรอ แม่เคยถามแล้วเหรอ”
“แน่นอนสิ!”
ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ
ที่ทะเลาะกันแล้วเขาไม่กล้าหย่าจริง ๆ เสียที ก็เพราะว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมามันเป็นความผิดเขาเองที่ไม่เคยหาเงินเข้าบ้านเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
เลยกลัวว่าถ้าหย่าแล้วจะไม่ได้ส่วนแบ่ง…
ส่วนตอนนี้น่ะเหรอ
สามีซินจื่อเหมิงยิ้มอย่างเย็นชา
“เดี๋ยวผมจะไปฟ้องหย่า พอถึงตอนนั้นคอยดูว่าเธอจะเสียใจแค่ไหน จะขอร้องผมยังไง”
รอเธอร้องไห้มากจนพอแล้ว ผมจะเมตตาแต่งงานกับเธออีกครั้ง
**
ทั้งสามคนเดินอยู่บนถนนด้านนอก
ซู่เป่าถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “น้าคะ น้าก็ต้องการหย่าเหมือนกันเหรอคะ”
เจ้าตัวเล็กไม่เข้าใจ ทำไมผู้ใหญ่ชอบหย่าร้างกันขนาดนั้น
กลับเห็นซินจื่อเหมิงทั้งส่ายหัวแล้วก็พยักหน้า “อาจจะมั้ง”
เธอลังเลก็เพราะเห็นแก่ลูกเป็นหลัก สำหรับสินสมรสน่ะเหรอ ก่อนหน้านี้เธอก็เคยสอบถามมาเหมือนกัน แน่นอน ถ้าหากหย่าร้างกัน เงินที่เธอหามาก็เป็นสินสมรสที่จะต้องแบ่งให้อีกฝ่ายครึ่งหนึ่ง
หรือไม่ว่าสถานการณ์ที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร ขอเพียงแค่รายรับที่ได้มาในช่วงที่แต่งงานกันแล้ว ก็นับว่าเป็นสินสมรส
ภายใต้สถานการณ์ปกติ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเธอก็ต้องแบ่งให้ฝ่ายตรงข้ามครึ่งหนึ่ง
กฎข้อนี้ก็มันน่าโมโหมาก ๆ
ทว่าดูเหมือนว่าพวกเขาจะมองข้ามเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เรื่องหนึ่ง…
ซู่เป่ายิ่งคิดไม่ออก จึงถามอีก “อย่างนั้นน้าซินไม่กลัวที่คุณอาจะหย่ากับน้าเหรอคะ”
ซินจื่อเหมิงหัวเราะเยาะ “หนึ่งคือเขาไม่กล้า สองต่อให้เขาจะกล้า น้าก็ไม่กลัว”
ประการแรกเลย ครอบครัวของพวกเขาไม่ยอมปล่อยฉันไปแน่
อันที่จริงสามีของเธอไร้ค่านาดนี้ ถ้าไปจากเธอ นอกจากจะเกาะพ่อแม่กินก็คงไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้
อีกทั้งแม่สามีของเธอก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เขาน่ะเหรอจะยอมให้ลูกชายไปเกาะเขากิน แน่นอนว่าจะต้องบอกให้เกาะเธอไว้ให้แน่นอย่ายอมปล่อยมือเด็ดขาด
ประการที่สอง เธอมั่นใจ ต่อให้ต้องหย่ากันจริง ๆ พวกเขาก็จะไม่ได้เงินแม้แต่สลึงเดียว
เดินมาถึงทางแยกตรงลานหน้าห้าง ซู่เป่ากับมู่กุยฝานต้องกลับแล้ว ซู่เป่าโบกมือลาซินจื่อเหมิง
“แล้วเจอกันใหม่นะน้าซินสู้ ๆ นะคะ”
ซินจื่อเหมิงพยักหน้าอย่างหนักแน่น “อื้ม! สู้ ๆ”
**
ซินจื่อเหมิงเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน เป็นไปตามคาดเธอได้รับโทรศัพท์จากทนายคนหนึ่ง บอกว่าอีกฝ่ายฟ้องหย่าเธอ แล้วต้องการดำเนินการปรึกษาหารือปัญหาการแบ่งทรัพย์สินตอนนี้
“ไม่มีอะไรที่จะให้มาปรึกษาหารือ” ซินจื่อเหมิงที่กำลังส่องกระจกอยู่ เดิมทีจะลบเครื่องสำอางออก
ทว่าตอนนี้กลับหยิบลิปสติกขึ้นมาทาริมฝีปากให้สวยขึ้น
“มันเป็นอย่างนี้นะครับ ผมก็ได้ฟังมาจากสามีของคุณ เขาบอกผมเกี่ยวกับรายได้ครอบครัวในช่วงระยะเวลาที่พวกคุณแต่งงานกัน คุณซิน ผมต้องเตือนคุณ ถึงแม้ว่าหลังจากแต่งงานกันเงินทั้งหมดเป็นเงินที่คุณหามา แต่ว่าตอนหย่าสามีของคุณมีสิทธิ์ที่จะแบ่งทรัพย์สมบัติจากทั้งหมดครึ่งหนึ่ง รวมทั้งบ้านพักตากอากาศหลังนั้นที่คุณเพิ่งจะซื้อด้วย”
ซินจื่อเหมิงเม้มริมฝีปากสีแดง ค่อย ๆ พูด “อย่างนั้นแสดงว่าสามีคนดีของฉันยังไม่ได้บอกคุณแน่นอน ว่าบัญชีที่ใช้โอนเงินเป็นของแม่ฉัน”
“พวกเราแต่งงานกันมาตั้งหลายปี ใครบอกว่าเงินทั้งหมดฉันเป็นคนหา ฉันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งจะไปมีความสามารถอะไรได้ เงินพวกนั้นเป็นเงินที่แม่ฉันให้ต่างหาก”
“ของที่พ่อแม่ฉันให้ ไม่นับว่าเป็นสินสมรส”
“เขาอยากจะหย่าก็ได้นะ เดี๋ยวฉันจะไปเลย”
พูดจบ ซินจื่อเหมิงก็ตัดสายทิ้ง
ฝั่งตรงข้าม
สามีซินจื่อเหมิงที่กำลังฟังสปีกเกอร์โฟนอยู่ถึงกับเงิบ
แม่สามีซินจื่อเหมิงกล่าวอย่างร้อนใจ “หมายความว่าอะไร ทำไมไม่ถือว่าเป็นสินสมรสล่ะ”
ทนายความพูดด้วยความเก้อเขิน “ก่อนหน้านี้เงินที่โอนมาที่บัญชีของคุณมาจากบัญชีของแม่ภรรยาคุณใช่ไหมครับ”
“ใช่...”
ตอนที่เพิ่งจะแต่งงานใหม่ ๆ ซินจื่อเหมิงได้เซ็นสัญญางานเขียนกับเว็บไซต์เล็ก ๆ เว็บหนึ่ง
ทว่าเนื่องจากสัญญาของเว็บไซต์นั้นแย่มาก มันผูกรหัสบัตรประชาชนของซินจื่อเหมิงเอาไว้อย่างชัดเจน
หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ ถ้าไม่ผ่านการอนุญาตของพวกเขา ซินจื่อเหมิงก็ไม่สามารถไปเขียนให้กับเว็บไซต์อื่นได้
ซินจื่อเหมิงก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงแอบใช้บัตรประชาชนของแม่เธอไปลงทะเบียนกับเว็บไซต์นี้ เปิดนามปากกาใหม่อีกครั้ง จึงสามารถเขียนได้เรื่อยมา
ต่อมาบัญชีของแม่เธอเล่มนั้นเขาก็ใช้อยู่ตลอด ไม่ว่าจะโอน หรือว่าจะ...
“อย่างนั้นก็ไม่มีวิธีแล้วครับ ภรรยาของคุณใช้บัตรประชาชนแม่ในการลงทะเบียนนามปากกานักเขียน ค่าลิขสิทธิ์ก็ถูกหักที่บัญชีแม่ของเธอ ถ้าเงินนี้ต้องการการยอมรับเอกสารพยาน มันก็ยังเป็นเงินของแม่เธออยู่ดี จ่ายให้กับพวกคุณก็นับว่าเป็นการให้ ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกคุณเลยแม้แต่น้อย”
ทั้งสองคนถึงกับสตั้น!
แม่สามีซินจื่อเหมิงหวั่นใจ “แต่เธอเป็นคนหาเงินนะ ไม่ใช่แม่เธออ่ะ พวกเธอกำลังโกหกอยู่นะ!”
“พวกคุณมีหลักฐานพิสูจน์เหรอ พูดตรง ๆ นะครับ ตราบใดที่ภรรยาคุณกับแม่ยายทำถูกต้องตามกฎ คุณก็ทำอะไรไม่ได้”
หลังจากพูดเสร็จทนายความก็ขี้เกียจสนใจพวกเขา ลุกขึ้นแล้วเดินจากไปเลย
แม่สามีของซินจื่อเหมิงตัวสั่น “ไม่ยุติธรรม...แบบนี้ไม่ยุติธรรม!”
เงินเยอะขนาดนั้น ทำไมไม่มีส่วนของพวกเขาเลย
หรือว่าจะต้องกลับไปขอร้องซินจื่อเหมิงจริง ๆ เหรอ
ไม่ ไม่ได้ เธอจะไม่ยอมขอร้องเด็ดขาด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...