ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1308

บรรพบุรุษจ้องลูกชิ้นแมลงสาบในมือ

ซู่เป่าเอามือปิดปากแอบหัวเราะ “บรรพบุรุษพูดอะไรหนักแน่นหน่อยสิคะ พูดแล้วต้องทำจริง!”

ซูอวิ๋นเจาหัวเราะอย่างอ่อนโยนซื่อ ๆ ตรง ๆ “บรรพบุรุษเป็นใคร ต้องพูดจริงทำจริงแน่นอน ซู่เป่าเธอวางใจเถอะ! กลืนน้ำลายจนอ้วน บรรพบุรุษคงไม่กลืนน้ำลายตัวเองหรอก”

นัยน์ตาทั้งสองของสองลุงหลานจ้องบรรพบุรุษปิ๊ง ๆ

บรรพบุรุษ “...” คิดได้ยังไงเนี่ย!

เจ้าเด็กดวงซวยสองคนนี่!

โอ๊ะ เด็กที่ดวงซวยจริง ๆ...ผีดวงซวย...กำลังมองไม้เสียบที่ว่างเปล่าสองสามอันในมืออย่างอึ้งทึ่ง นัยน์ตาทั้งสองเต็มไปด้วยความฉงน

ฮือ ๆ ๆ พญายมตัวน้อยเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าพญายมตัวน้อยจะหลอกลวงเขา

ไม่สิ ๆ ไม่มีทางเป็นแบบนี้แน่

ภาพจำที่ผีดวงซวยมีต่อซู่เป่ายังคงหยุดเอาไว้ที่ตอนสี่ขวบครึ่งตอนนั้น ท่าทางที่หยิบยันต์ไปแปะไว้บนศีรษะของเขาอย่างไร้เดียงสา

เจ้าเด็กน้อยที่ว่าง่ายขนาดนี้ ไม่มีทางจงใจหลอกเขาอย่างแน่นอน

ต้องเป็นเพราะลูกชิ้นแมลงสาบอร่อยมากจริง ๆ เธอก็เลยอยากแบ่งของดีให้กับเขาด้วยใจจริง ถึงได้เรียกเขาออกมา

ผีดวงซวยยิ้มพร้อมทั้งนัยน์ตาที่ประกายความประหลาดใจออกมา “ซู่เป่าน้อยของเราไม่มีทางมีเจตนาไม่ดี ถ้ามีเจตนาไม่ดี นั่นก็ต้องเป็นเพราะว่าเราไม่ดีตรงไหนแน่ ๆ แมลงย่างนี่หอมมากจริง ๆ ฉันจะเอาไปให้พวกเขา”

น่าเสียดายจริง ๆ ผีขี้ขลาดไม่อยู่ อยู่จัดการงานกับใต้เท้าจี้ที่โลกใต้พิภพ

ผีหลายใจกับผีสาวชุดแต่งงานเองก็ไม่อยู่ ได้ยินว่าออกไปบำเพ็ญเอง อันที่จริงแล้วน่าจะไปดูพี่ชายสุดหล่อ

ทว่าในน้ำเต้าวิญญาณยังมีผีตนอื่นอยู่อีก

อย่างเช่นผีน้าสาวขี้เหร่ อาเจียและกระดิ่งน้อย

เล่นเกมแวร์วูฟกันทั้งวันทั้งคืน เขาแพ้ตลอด...จะบอกว่าเป็นการแก้แค้นได้ยังไง เขาเพียงแค่คิดว่าลูกชิ้นแมลงสาบนี้อร่อยจริง ๆ ก็เลยจะเอาไปให้พวกเธอลองชิม

นัยน์ตาของผีดวงซวยเปล่งประกาย ก่อนจะเข้าน้ำเต้าวิญญาณไป

เหลือเอาไว้เพียงแค่ลูกชิ้นแมลงสาบสองไม้ที่บรรพบุรุษถือเอาไว้

ไม่ได้ เขาจะสูญเสียความน่าเกรงขามต่อหน้าลูกหลานไม่ได้!

พูดแล้วก็ต้องทำให้ได้ ก็แค่ “ลูกชิ้นหมึก” สองไม้เองไม่ใช่เหรอ?

บรรพบุรุษหลับตาอย่างไม่ยี่หระต่อความตายใด ๆ ทั้งสิ้น อ้าปากแล้วกัดกินเข้าไปในคำเดียว

ฟันกำลังจะกัดไปบนส่วนท้องของ “แมลงตัวน้อย” เสียงกร้วมเสียงหนึ่ง ลูกชิ้นแมลงสาบที่กรอบนอกนุ่มในก็ระเบิดน้ำออกมา กลิ่นกระจายฟุ้งเต็มปาก

ทว่าบรรพบุรุษฝืนกินมันต่อไปไม่ไหวแล้ว

“ให้ตายเถอะ! ย่างก็ย่างให้มันสุกหน่อย กรอบนอกนุ่มในนี่มันผีบ้าอะไรกัน!”

คนเดินผ่านไปมาที่อยู่ข้าง ๆ “จะผีอะไรได้? แน่นอนว่าเป็นผีแมลงตัวเล็ก ๆ น่ะสิ ของดีนายไม่รู้จักเหรอ?”

บรรพบุรุษ ถุ้ย...

ผ่านไปอีกห้านาที หลังจากบรรพบุรุษเติมน้ำไปห้าจอกชาอย่างบ้าคลั่ง ท้ายที่สุดก็รู้สึกว่าพื้นที่ความเจ็บปวดในหัวใจมันเล็กลงนิดหนึ่ง

ซู่เป่ากับซูอวิ๋นเจากำลังสั่งอาหารอย่างอารมณ์ดี

“ลุงเจ็ด เรามาสั่งอันนี้กันเถอะค่ะ! แค่เห็นชื่อก็ดูน่าอร่อยแล้ว เพียงแต่...ว้าว แพงมาก!”

ซูอวิ๋นเจาอ่านเมนู ก่อนจะอ่านขึ้น “กุ้งผ่าหลังแช่แข็ง...ค่าบุญกุศล...สองพัน...แค่ก”

เขายกฝ่ามือของมาปิดข้างปากพลางไอเบา ๆ ขึ้นมาเสียงหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ก็พอใช้ได้นะ ไม่นับว่าแพง ซู่เป่าอยากกินอะไรพวกเราก็สั่งอันนั้น”

บรรพบุรุษที่อยู่ข้าง ๆ “...”

ทำอย่างกับใช้เงินของนายออกงั้นแหละ!

ซู่เป่าพูดต่อ “ว้าว...อันนี้! อันนี้! แล้วก็อันนี้ด้วยค่ะ!”

ซูอวิ๋นเจาเรียกผีเด็กเสิร์ฟมา แล้วอ่านตาม “เอาเนื้อหงส์เย็นน้ำแดงมาหนึ่งจาน แล้วก็กรงเล็บพญามังกรตงไห่พริกเกลือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน