จี้ฉางกลั้นขำไม่ได้
“แกคิดว่าจะมีวิญญาณที่ทำแบบนั้นได้จริงๆหรือ”จี้ฉางส่ายหัว “ฉันว่าแกอ่านนิยายมากเกินไปแล้วนะ”
ซูจิ่นอวี้พูดว่า “ก่อนฉันตายฉันยังไม่เชื่อเลยว่าบนโลกนี้จะมีผี แต่นี่ไม่ใช่ผีหรอกหรือ”
จี้ฉาง “………”
ซูจิ่อวี้ที่น่าสงสาร “อวี้เอ๋อร์ผิดอะไร อวี้เอ๋อร์แค่อยากอยู่กับผู้หญิงของเขาเฉยๆ”
จี้ฉาง “………”
ซูจิ่นอวี้ “แม้แต่คุณยังมให้โอกาสที่จะทำให้เราสองแม่ลูกได้เจอกันเลย”
น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมา กระพริบตาหนึ่งครั้ง น้ำตาก็ไหลหนึ่งหยด “ฮือๆ”
จี้ฉางกุมขมับ “เห้เห้ เธอแสดงมากไปแล้วนะ”
เขาหมดคำจะพูด พลางยื่นมือไปหยิบอัลบั้มหนึ่งออกมา
เขาพลิกเปิดดูหน้าที่มีรูปของซูเป่า “ไม่ใช่เพราะว่าฉันไม่อนุญาตให้พวกเธอเจอกันหรอกนะ แต่ฉันกังวลว่าเธอกับซูเป่าการที่พวกเธอเจอกันมันเป็นการใช้สิทธิ์ส่วนตัวมากกว่า”
“สิ่งที่พวกเราทำทั้งหมดมันก็ไม่เท่ากับในอัลบั้มนี้หรอกนะ ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้มันบันทึกลงในอัลบั้มนี้ล่ะ ต่อไปจะมีผลอะไรกับซูเป่าบ้าง”
จี้ฉางเองก็ไม่สามารถรับประกันเรื่องนี้ได้เช่นกัน
แต่เขากังวลว่าจะกระทบกับลูกศิษย์ของเขา เขาถึงยืนหยัดต่อว่าจะต้องควบคุมให้ได้
“ดังนั้นฉันจึงพาเธอมาที่นี่โดยพลการ มันคือการกระทำของฉันเอง แต่ถ้าให้เธอกับซูเป่าได้เจอกัน มันคือากรดึงซูเป่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เข้าใจมั้ย”
ถ้าไม่สนใจว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง แต่ซูเป่าจะเป็นอะไรไม่ได้
ซูจิ่นอวี้มองไม่เห็นตัวหนังสือบนอัลบั้มนั้น สิ่งที่เธอมองเห็ยคือหน้ากระดาษเปล่าๆ จนถึงตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใจว่าจี้ฉางพาเธอมาเสี่ยงมากๆเลย
“ฉันขอโทษ.......”เธอพูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆ “เป็นความผิดของฉันเอง ตอนนี้ฉันจะลงไปเกิดใหม่นะ”
จี้ฉางเบาใจไปเปราะหนึ่ง แม้แต่ยมโลกเองก็ไม่บังคับว่าจะให้ทำยังไง ทำได้เพียงแต่ให้เธอไปเกิดใหม่ด้วยความเต็มใจเท่านั้น ตอนนี้ภารกิจดังกล่าวถือว่าสำเร็จแล้วสินะ
จี้ฉางที่เบาใจมองดูซูจิ่นอวี้ที่นิ่งเงียบไป ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบอัลบั้มนั่นมาลูบหัวเธอเบาๆ
“เธอวางใจเสียเถิด ยังไงเสียมันคือพรหมลิขิต”
พูดยังไม่ทันจบ ก็มีเรื่องเกิดขึ้นมาแทรกแล้ว
ทันใดนั้นฟ้าแลบก็ส่องลงมานอกหน้าต่างและฟ้าร้องก็ดังก้องในท้องฟ้า
ซูจิ่นอวี้ถูกหนังสือเล่มเล็กทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที บินไปรอบๆ อย่างควบคุมไม่ได้เหมือนหิ่งห้อย
ซูจิ่นอวี้ “???”
จี้ฉาง: ซวยแล้ว
ดวงวิญญาณแตกสลาย
เขารีบยื่นมือไปเก็บวิญญาณของเธอที่แตกละเอียดเข้าด้วยกัน
แต่นั่นก็ไม่มีประโยชน์อะไร
ซูจิ่นอวี้มองเขาแล้วพูดประโยคสุดท้าย “นายท่านจี้ ฝากซูเป่าด้วยนะ”
เพียงเท่านั้น ดวงวิญญาณของเธอก็หายไป
โดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย
จี้ฉางเหงื่อแตกไปหมด
นี่คือ เขาทำให้ดวงวิญญาณของแม่ยมบาลตัวน้อยตายงั้นหรือ
ซวยแล้ว
จี้ฉางรีบลุกขึ้นมา แล้วรีบบินออกไป
รีบตามไปหาในยมโลก แต่ก็ไม่เห็นดวงวิญญาณของเธอ
“ซวยแล้ว” จี้ฉางเดิมก็หน้าซีดอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งซีดขึ้นไปอีก “ซวยแล้ว ซวยแน่ๆ”
ซูจิ่นอวี้ใช้แรงทั้งหมดในการให้กำเนิดเจ้ายมทูตน้อยตัวนี้ จนทำให้เธอต้องแลกด้วยชีวิตของเธอ
หลังจากนั้นเธอสามารถที่จะไปเกิดใหม่ได้ ถ้าไม่ใช่ชนชั้นสูงก็เกิดในตระกูลผู้ดี
แต่ เธอกลับถูกเขาเอาอัลบั้มลูบหัวเบาๆ ทำให้วิญญาณนั้นตายหายไป
นายท่านจี้ : ช่วยด้วย ถ้าไปตอนนี้ยังทันมั้ย
จี้ฉางเจอปัญหาใหญ่แล้วเขาคิดมาก หาเธอทั้งคืนก็หาไม่พบ
หมู่บ้านหนึ่งในตัวเมืองที่ห่างจากบ้านตระกูลซูประมานสิบไมล์
เด็กผู้หญิงคนหนึ่งลูบคอที่เจ็บของเธอด้วยความสงสัยว่าทำไมจู่ๆเธอถึงรู้สึกหนักที่คอ
แต่ไม่มีใครรู้ ที่คอของเธออยู่ๆก็มีผีมาขี่คอ นั่นก็คือซูจิ่นอวี้
ตอนนั้นแววตาของเธอดูสับสน เธอมองไปรอบทั้งสี่ทิศแล้วกุมที่ศีรษะของเธออย่างเจ็บปวด “แปลกจัง ฉันเป็นใครกันนะ”
วิญญาณของเธอได้แตกสลายไป ทำให้จำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ได้ แม้กระทั่งตัวเธอเองมาอยู่บนคอของเด็กหญิงคนนี้ได้อย่างไรก็นึกไม่ออก
เด็กหญิงหยิบพวงกุญแจพวงใหญ่แล้วใส่รองเท้า พลางเดินพลางเอามือนวดคอ
มีคนเจอเธอแล้วทักทาย “เสี่ยวอวี่ จะไปเก็บค่าเช่าหรือ ทำไมถึงดูเหนื่อยล้าขนาดนั้นล่ะ เก็บมาหลายวันแล้วสินะ เหนื่อยแย่เลยล่ะสิ”
ที่แท้เด็กหญิงคนนี้เป็นคนเก็บค่าเช่า ชื่อซูเสี่ยวอวี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...
บทที่ 1268 แล้วกระโดดไป 1278 เลย บทที่ 1269 1270 1271 1272 ข้ามไปทั้งหมด 4 ตอนนะคะ...