ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 132

จี้ฉางกลั้นขำไม่ได้

“แกคิดว่าจะมีวิญญาณที่ทำแบบนั้นได้จริงๆหรือ”จี้ฉางส่ายหัว “ฉันว่าแกอ่านนิยายมากเกินไปแล้วนะ”

ซูจิ่นอวี้พูดว่า “ก่อนฉันตายฉันยังไม่เชื่อเลยว่าบนโลกนี้จะมีผี แต่นี่ไม่ใช่ผีหรอกหรือ”

จี้ฉาง “………”

ซูจิ่อวี้ที่น่าสงสาร “อวี้เอ๋อร์ผิดอะไร อวี้เอ๋อร์แค่อยากอยู่กับผู้หญิงของเขาเฉยๆ”

จี้ฉาง “………”

ซูจิ่นอวี้ “แม้แต่คุณยังมให้โอกาสที่จะทำให้เราสองแม่ลูกได้เจอกันเลย”

น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมา กระพริบตาหนึ่งครั้ง น้ำตาก็ไหลหนึ่งหยด “ฮือๆ”

จี้ฉางกุมขมับ “เห้เห้ เธอแสดงมากไปแล้วนะ”

เขาหมดคำจะพูด พลางยื่นมือไปหยิบอัลบั้มหนึ่งออกมา

เขาพลิกเปิดดูหน้าที่มีรูปของซูเป่า “ไม่ใช่เพราะว่าฉันไม่อนุญาตให้พวกเธอเจอกันหรอกนะ แต่ฉันกังวลว่าเธอกับซูเป่าการที่พวกเธอเจอกันมันเป็นการใช้สิทธิ์ส่วนตัวมากกว่า”

“สิ่งที่พวกเราทำทั้งหมดมันก็ไม่เท่ากับในอัลบั้มนี้หรอกนะ ถ้าเกิดว่าเรื่องนี้มันบันทึกลงในอัลบั้มนี้ล่ะ ต่อไปจะมีผลอะไรกับซูเป่าบ้าง”

จี้ฉางเองก็ไม่สามารถรับประกันเรื่องนี้ได้เช่นกัน

แต่เขากังวลว่าจะกระทบกับลูกศิษย์ของเขา เขาถึงยืนหยัดต่อว่าจะต้องควบคุมให้ได้

“ดังนั้นฉันจึงพาเธอมาที่นี่โดยพลการ มันคือการกระทำของฉันเอง แต่ถ้าให้เธอกับซูเป่าได้เจอกัน มันคือากรดึงซูเป่าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เข้าใจมั้ย”

ถ้าไม่สนใจว่าตัวเองจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง แต่ซูเป่าจะเป็นอะไรไม่ได้

ซูจิ่นอวี้มองไม่เห็นตัวหนังสือบนอัลบั้มนั้น สิ่งที่เธอมองเห็ยคือหน้ากระดาษเปล่าๆ จนถึงตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใจว่าจี้ฉางพาเธอมาเสี่ยงมากๆเลย

“ฉันขอโทษ.......”เธอพูดด้วยน้ำเสียงหงอยๆ “เป็นความผิดของฉันเอง ตอนนี้ฉันจะลงไปเกิดใหม่นะ”

จี้ฉางเบาใจไปเปราะหนึ่ง แม้แต่ยมโลกเองก็ไม่บังคับว่าจะให้ทำยังไง ทำได้เพียงแต่ให้เธอไปเกิดใหม่ด้วยความเต็มใจเท่านั้น ตอนนี้ภารกิจดังกล่าวถือว่าสำเร็จแล้วสินะ

จี้ฉางที่เบาใจมองดูซูจิ่นอวี้ที่นิ่งเงียบไป ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบอัลบั้มนั่นมาลูบหัวเธอเบาๆ

“เธอวางใจเสียเถิด ยังไงเสียมันคือพรหมลิขิต”

พูดยังไม่ทันจบ ก็มีเรื่องเกิดขึ้นมาแทรกแล้ว

ทันใดนั้นฟ้าแลบก็ส่องลงมานอกหน้าต่างและฟ้าร้องก็ดังก้องในท้องฟ้า

ซูจิ่นอวี้ถูกหนังสือเล่มเล็กทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในทันที บินไปรอบๆ อย่างควบคุมไม่ได้เหมือนหิ่งห้อย

ซูจิ่นอวี้ “???”

จี้ฉาง: ซวยแล้ว

ดวงวิญญาณแตกสลาย

เขารีบยื่นมือไปเก็บวิญญาณของเธอที่แตกละเอียดเข้าด้วยกัน

แต่นั่นก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ซูจิ่นอวี้มองเขาแล้วพูดประโยคสุดท้าย “นายท่านจี้ ฝากซูเป่าด้วยนะ”

เพียงเท่านั้น ดวงวิญญาณของเธอก็หายไป

โดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย

จี้ฉางเหงื่อแตกไปหมด

นี่คือ เขาทำให้ดวงวิญญาณของแม่ยมบาลตัวน้อยตายงั้นหรือ

ซวยแล้ว

จี้ฉางรีบลุกขึ้นมา แล้วรีบบินออกไป

รีบตามไปหาในยมโลก แต่ก็ไม่เห็นดวงวิญญาณของเธอ

“ซวยแล้ว” จี้ฉางเดิมก็หน้าซีดอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งซีดขึ้นไปอีก “ซวยแล้ว ซวยแน่ๆ”

ซูจิ่นอวี้ใช้แรงทั้งหมดในการให้กำเนิดเจ้ายมทูตน้อยตัวนี้ จนทำให้เธอต้องแลกด้วยชีวิตของเธอ

หลังจากนั้นเธอสามารถที่จะไปเกิดใหม่ได้ ถ้าไม่ใช่ชนชั้นสูงก็เกิดในตระกูลผู้ดี

แต่ เธอกลับถูกเขาเอาอัลบั้มลูบหัวเบาๆ ทำให้วิญญาณนั้นตายหายไป

นายท่านจี้ : ช่วยด้วย ถ้าไปตอนนี้ยังทันมั้ย

จี้ฉางเจอปัญหาใหญ่แล้วเขาคิดมาก หาเธอทั้งคืนก็หาไม่พบ

หมู่บ้านหนึ่งในตัวเมืองที่ห่างจากบ้านตระกูลซูประมานสิบไมล์

เด็กผู้หญิงคนหนึ่งลูบคอที่เจ็บของเธอด้วยความสงสัยว่าทำไมจู่ๆเธอถึงรู้สึกหนักที่คอ

แต่ไม่มีใครรู้ ที่คอของเธออยู่ๆก็มีผีมาขี่คอ นั่นก็คือซูจิ่นอวี้

ตอนนั้นแววตาของเธอดูสับสน เธอมองไปรอบทั้งสี่ทิศแล้วกุมที่ศีรษะของเธออย่างเจ็บปวด “แปลกจัง ฉันเป็นใครกันนะ”

วิญญาณของเธอได้แตกสลายไป ทำให้จำเรื่องราวก่อนหน้านี้ไม่ได้ แม้กระทั่งตัวเธอเองมาอยู่บนคอของเด็กหญิงคนนี้ได้อย่างไรก็นึกไม่ออก

เด็กหญิงหยิบพวงกุญแจพวงใหญ่แล้วใส่รองเท้า พลางเดินพลางเอามือนวดคอ

มีคนเจอเธอแล้วทักทาย “เสี่ยวอวี่ จะไปเก็บค่าเช่าหรือ ทำไมถึงดูเหนื่อยล้าขนาดนั้นล่ะ เก็บมาหลายวันแล้วสินะ เหนื่อยแย่เลยล่ะสิ”

ที่แท้เด็กหญิงคนนี้เป็นคนเก็บค่าเช่า ชื่อซูเสี่ยวอวี้

ตอนนี้เธอยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ทำให้เธอต้องสืบทอดสมบัติอพาร์ทเม้นทั้ง40ห้องที่พ่อกับแม่เธอทิ้งไว้ให้ จนกลายเป็นเศรษฐีณีที่เก็บค่าเช่า

ซูเสี่ยวอวี่ถอดรองเท้าแตะของเธอแล้วคาบอมยิ้ม แล้วยิ้มอย่างพอใจ “ก็ใช่น่ะสิ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ทำงานหาเงินมันก็เหนื่อยเป็นธรรมดา ไม่งั้นจะรอเงินร่วงลงมาจากฟ้าหรือ”

ในขณะนั้นเอง วิญญาณที่อยู่บนร่างของเธออย่างซูจิ่นอวี้ได้จามออกมา

ทำให้มีบางสิ่งบางอย่างร่วงลงมาจากฟ้า ตกลงมาที่ข้างๆเท้าของซุเสี่ยวอวี้

ซูเสี่ยวอวี้ตกใจแล้วก้มไปเก็บ “ใครทำของตกลงมากันน่ะ”

แต่เมื่อดูดีๆ กลับพอว่าห่อนั้นเป็ห่อเงิน

ซูเสี่ยวอวี้ตกใจแล้วมองไปบนฟ้า สลับกับมองเงินที่อยู่ตรงเท้าเธอ

เป็นไปไม่ได้ เงินหล่นลงมาจากฟ้าเนี่ยนะ

ซูเสี่ยวอวี้เก็บเงินนั้นขึ้นมา เธอรออยู่พักใหญ่แต่ก็ไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ ทำให้เธอเก็บเงินนั้นไว้เอง

คนรอบข้างต่างอุทาน “เสี่ยวอวี้ นี่เธอถูกวิญญาณปลาคาร์ฟเข้าสิงใช่มั้ย”

“โอ้แม่เจ้า ช่างโชคดีอะไรแบบนี้”

ซูเสี่ยวอวี้งงจนทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ

**

ไม่นานฟ้าก็สว่าง

ซูเป่าตื่นนอนแล้ว รู้สึกว่าร่างกายมีพลังเต็มเปี่ยม

เธอลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้า ล้างหน้าแปรงฟันแล้วเตรียมกระเป๋าหนังสือ

“ต้องเตรียมชุดสำหรับซัก เตรียมผ้าเช็ดเหงื่อ แก้วน้ำ อืมมม คุณครูยังบอกว่าให้เตรียมเสื้อคลุมบางๆไปด้วย”

“เสื้อคลุม เสื้อคลุมอ่ะเสื้อคลุม”

ซูเป่าปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ แล้วหยิบเสื้อคลุมที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า พับอย่างเรียบร้อยแล้วใส่ไปในกระเป๋าหนังสือ

ทั้งหมดเธอทำด้วยตนเอง เป็นเด็กที่น่ารักเสียจริง

จากนั้นเธอสะพายกระเป๋าแล้วรีบออกไปที่ประตู

เทียบกับหานหานที่สีหน้าไม่รับบุญ เธอหาวไม่หยุด “อืม สะพายกระเป๋าดีๆ หยิบแก้วน้ำ ซูเป่าเราไปกันเถอะ”

เพราะต้องไปโรงเรียนเนิร์สเซอร์รี่พร้อมน้อง ทำให้หานหานต้องตื่นแต่เช้า

คุณท่านซูเก็บกระดาษหนังสือพิมพ์ “เตรียมของครบแล้วใช่มั้ย”

ซูเป่า “อืมอืม!”

หานหาน “อืม”

เธอพูดไปหาวไป แล้วเปิดกระเป๋าหนังสือ

ซูเป่าเงยหน้ามองกระเป๋าของพี่สาวพบว่าในกระเป๋าของเธอมีดวงไฟเล็กๆหนึ่งดวงกับรองเท้าเน่า

มู่กุยฝานเพิ่งออกกำลังกายตอนเช้าเสร็จก็เห็นหานหานับซูเป่าที่ประตู “ไปกันตั้งแต่เช้าเลยหรือ”

เช้าจนไม่รอพ่อคนนี้เลย

รถโรงเรียนรออยู่ที่ด้านนอกแล้ว รถโรงเรียนนั้นมีสองรอบ รอบแรกตอน07:30 รอบที่สองคือ08:00

เพราะเมื่อวานนั่งรถโรงเรียนรอบตอนแปดโมง เขาจึงคิดว่าวันนี้ด้วย

ซูเป่าพยักหน้า “ใช่ๆ หนูไปโรงเรียนก่อนนะ พ่ออยู่บ้านเป็นเด็กดีนะ”

มู่กุยฝานอมยิ้ม “อืม”

คุณนายซูรีบเดินตามออกมาบอกว่า “ซูเป่า ทานอาหารเช้าก่อนสิแล้วค่อยไป”

ซูเป่าโบกมือ“ไม่เอาๆ เดี๋ยวหนูไปกินที่โรงเรียน”

เธอเพิ่งรับรู้สิ่งใหม่ๆที่โรงเรียน จึงรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่สนุกมาก คิดเพียงแต่อยากทานพร้อมกับเพื่อนๆที่โรงเรียน

คุณนายซูร้อยใจนิดหน่อย หลานรักไม่ชอบอาหารเช้าที่เธอทำแล้วหรือ

ซูเป่ากับหานหานขึ้นรถโรงเรียนไปพร้อมกับเด็กผู้ชายอีกสามคน

บนรถ หานหานเอียงคอฟุบหลับบนไหล่ของซูเป่า

ซูเป่าหันมองซ้ายขวา ขณะนั้นก็เห็นวิญญาณของจี้ฉาง

เธอมองแล้วถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ท่านอาจารย์เป็นอะไรไป”

“เมื่อคืนไปทำเรื่องไม่ดีมาแน่ๆ ฟ้าถึงได้ผ่าแรงแบบนั้น”

จี้ฉาง “……..”

ถ้าพูดก็คไม่เชื่อ ว่าฉันทำดวงวิญญาณของแม่เขาแตกสลายหายไปแล้ว

จี้ฉางเม้มปาก พยายามทำตัวเองให้ปกติมากที่สุด “ไม่มีอะไรหรอก เมื่อคืนทำโอน่ะ เหนื่อยนิดหน่อย”

ซูเป่ารู้สึกแปลกๆ อาจารย์ยังทำโอทีตอนกลางคืนด้วยหรอ

แต่เธอก็ส่ายหัวไม่ได้สนใจแต่อย่างได้ ได้แต่เล่นลูกน้ำเต้าวิญญาณที่อยู่ในมือ

“น้ำเต้าน้ำเต้า เติมเต็มหรือยังนะ” ซูเป่าพึมพำ “ไปจับผีแล้วเติมให้เต็มเองนะ โอเคมั้ย”

น้ำเต้าวิญญาณ “…….”

ซูเป่าพึมพำต่อ “เจ้าน้ำเต้า ท่านอาจารย์ไปทำอะไรผิดมาแน่เลยใช่มั้ย งั้นเราจับอาจารย์ไปดีมั้ย ”

จี้ฉาง “……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน