ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 134

เมื่อได้เห็นท่าทีของลูกชาย คุณย่าก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก

จากนั้นก็เริ่มอัพโหลดวีดีโออันที่สอง

[วันนี้ฉันไปที่บ้านของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง แต่ฝ่ายนั้นโอหังเป็นอย่างมาก บอกว่าจะให้เงินชดเชยหนึ่งล้าน แลกกัยการที่ส่งตัวหลานของฉันออกมาให้ตยตีอีกสองครั้ง!]

[พ่อของเด็กคนนี้หน่ะสุดยอดมากเลยนะ สักลายใหญ่ที่แขน ทำร้ายร่างกายไม่เว้นแม้กระทั่งคนแก่ จนกระทั่งฟันฉันหลุดร่วงหมด !]

จากนั้นคุณย่าก็โชว์ให้ดูฟันของตัวเอง

นั่นยิ่งทำให้ชาวเน็ตโกรธมากยิ่งขึ้น

อันนี้เป็นเรื่องที่ชั่วช้ามากๆ

พ่อของซู่เป่าอะไรนั่นเป็นพวกบ้าอำนาจบ้าพลังนี่เอง ไม่เว้นแม้กระทั่งคนแก่

เมื่อเรื่องนี้กลายเป็นกระแสร้อนแรงอันดับต้นๆ อินฟลูเอนเซอร์และรายการช่องต่างๆทั้งหลายต่างก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

รายการแม่ผู้รอบรู้เรื่องลูก : [ฉันคิดว่าเรื่องความรุนแรงในโรงเรียนเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เพราะว่าเด็กมีนิสัยแบบนี้ตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อพวกเขาได้ทำร้ายผู้อื่นแต่กลับไม่ได้รับการลงโทษใดๆ]

รายการกอสซิป : [แหมแหม วันนี้ทางรายการจะบอกว่าข่าวร้อนแรงเรื่องการรังแกเด็กนั้น เด็กคนที่กระทำเราไปสืบมาแล้ว ที่แท้ก็เป็นคุณหนูของตระกูลซู่นี่เอง ตระกูลซู่เป็นตระกูลยิ่งใหญ่อะไรแบบนั้นนะ เด็กคนนี้ถึงได้มีพฤติกรรมแบบนี้ พวกเรามาฟังกันนะคะ..........]

รายการคอมเมนท์สุดร้อนแรงตามเวลาจริง : [ฉันได้ยินมาว่าตระกูลซู่อ่ะมีแต่ลูกชาย 8 ค หลานชาย 8 คน มีเพียงคนเดียวที่เป็นหลานสาว เด็กคนนี้ตั้งแต่เกิดมาก็ได้รับการเอาอกเอาใจเป็นอย่างดี ริ้วไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม จะไปไหนก็มีแต่คนอุ้ม สามขวบแล้วยังเดินไม่เป็น เพราะฉะนั้นถึงมาโรงเรียนเตรียมอนุบาลตอน 4 ขวบยังไงล่ะ แถมยังนิสัยเอาแต่ใจมากๆ ถ้าไม่อยากกินข้าวก็โยนทิ้ง เด็กแบบนี้จะเอะอะตบตีก็ไม่ใช่เรื่องแปลก]

รายการดังเพื่อเกาะกระแสพวกนี้ต่างรู้ดีว่าพวกเขาจะต้องคอมเมนท์อย่างไรถึงจะทำให้รายการมีกระแสตอบรับที่ดี

แค่เพียงทำให้ผู้คนสามารถโกรธขึ้นมาได้ นั่นจะยิ่งทำให้มีกระแตตอบรับที่ดียิ่งขึ้น

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สนใจว่าความจริงเป็นอย่างไร เรื่องที่เป็นความจจริงมีเพียงน้อยนิด นอกนั้นคือเรื่องที่แต่งขึ้นล้วนๆ

ถึงแม้ว่าพวกคนเหล่านี้ความจริงจะเจอตัวตระกูลซู่ได้ยากมากๆ แต่อะไรที่เป็นกระแสพวกเขาก็จะทำทั้งนั้น และเพิ่มคำว่าที่มาจากอินเตอร์เน็ต ถ้าโดนร้องเรียนขึ้นมาก็แค่ลบเนื้อหาออกก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

แต่เรื่องนี้ยิ่งพูดเท่าไหร่ยิ่งห่างความจริงมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อบ่อยๆเข้า เรื่องที่ปรุงแต่งอาจจะกลายเป็นเรื่องจริงก็ได้

ตอนนั้นเองซู่เป่าก็กลายเป็นคนที่ดังที่สุดในโลกโซเชียลเลยหล่ะ มู่กุยฝานเองก็เช่นกัน

【พวกเห็บดูดเลือด ขยะสังคม！】

【คว่ำบาตรตระกูลซู่ เริ่มที่ตัวเรา！】

【ปกติก็เกลียดเด็กเลวมากอยู่แล้ว ขอให้เด็กเลวตายไปทั้งหมด！】

ตอนนี้คุณย่านั่งดูผลงานในโลกโซเชียลที่เข้าข้างเธอทั้งหมด นั่นทำให้เธอยิ่งผยองในใจ

ไหนหล่ะ ตระกูลซู่ยิ่งใหญ่นักไม่ใช่หรือ แน่จริงก็มาสิ!

**

ตระกูลซุคาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นกระแสสังคมได้ถึงเพียงนี้

ผู้คนในอินเตอร์เน็ตต่างก็ด่าทอ ใช้ถ้อยคำหยาบคายรุนแรง นั่นทำให้คนตระกูลซู่โกรธมากและแจ้งความทันที และติดต่อทนายด้วย

แต่คนพวกนี้ไม่หลาบจำ ต่างก็คิดว่าพวกเขาใช้เงินซื้อทนายแล้ว ก็แค่หมายจะกลัวอะไร

เรื่องที่เป็นกระแสสังคมแบบนี้ ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะโดนร้องเรียน เพียงแค่เอ่ยปากขอโทษก็คลี่คลายได้แล้ว เป็นแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ ถ้าจะให้สืบสาวเรื่องราวความจริงมันเสียเวลา ไม่มีใครมาสนใจหรอก

ตอนนี้ที่น่าสนใจมากที่สุดคือยิ่งเป็นกระแสก็ยิ่งเกาะได้

ซู่เหอเวิ่นโกรธมาก เขาไม่สนใจเรื่องขั้นตอนของทนายความด้วยซ้ำ เขาเป็นเพียงเด็กชายคนหนึ่งที่ไม่สนใจอะไรมาก ได้ทำการตอบสวนกลับไปในทันที

【ไม่รู้เรื่องอะไรก็ไม่ต้องพูดมั่ว ！】

【เหอะเหอะ พวกขยะสังคม！】

【พวกแกสิน่ารักเกียจ น่ารังเกียจกันทั้งบ้าน！】

เด็กอย่างซู่เหอเวิ่นเริ่มตอบโต้ชาวเน็ตกลับจนเน็ตตัวเองหมด เพิ่งนึกได้ทีหลังว่าลืมเชื่อมต่อWi-fi

ซู่เป่าเห็นวีดีโอพวกนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ

เด็กหญิงตัวน้อยที่ทีแรกเล่นกับเพื่อนๆอย่างสนุกสนาน ตอนนี้เธอยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูก

“ลึงใหญ่ ซู่เป่าทำผิดอะไรหรือ” ซู่เป่าถาม

ซู่อีเฉินบอกว่า “ไม่ใช่หรอก ซู่เป่าไม่ได้ทำอะไรผิด”

ซู่เป่าถามต่อว่า“แล้วทำไมคนพวกนั้นถึงพูดแบบนั้นหล่ะ เพราะจริงๆแล้วพวกเขาเป็นคนทำผิด แต่ทำไมถึงมาด่าพวกเรา”