ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1357

ซืออี้หรันเอาอสูรน้อยวางไว้ด้านข้าง อสูรน้อยมองซืออี้หรันอย่างน้ำตาคลอเบ้า

ซืออี้หรันยกมือไปลูบที่หัวของมัน และหยิบมะพร้ามลูกใหญ่ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ออกมาหนึ่งลูก วางไปที่อ้อมอกของมัน

อสูรน้อยกอดผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีขนาดใหญ่กว่ามัน จ้องตากลมโต

“จ๊ากๆ…จ๊ากๆๆๆ!” มันมองดูผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้นอย่างตื่นเต้น และมองซืออี้หรัน ทันใดนั้นก็รีบกอดผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ไว้แน่น

ท่าทางนั้นกำลังพูดว่า ให้ข้าแล้วก็จะมาเอาคืนไปไม่ได้!

ซืออี้หรันยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “ให้แกแล้วก็คือของแก แต่แกห้ามไปรบกวนเธออีก”

การหยั่งรู้จะขอเข้าร่วมด้วยไม่ได้ เพราะเวลาในการหยั่งรู้ทุกวินาทีนั้นสำคัญมาก ถ้าคนข้างกายไม่ระวังเผลอไปชน การหายใจหรือการเคลื่อนไหว อาจจะทำให้คนที่กำลังหยั่งรู้นั้นตื่นขึ้นมาได้

การตื่นขึ้นมายังถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าตื่นในช่วงจังหวะเวลาที่สำคัญ ก็อาจจะทำให้เดินหลงทางได้

ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงการที่อสูรน้อยเกาะอยู่ที่ไหล่…

ซืออี้หรันวางสิ่งของหกเหลี่ยมไว้รอบๆซู่เป่า…ยันต์รวมหยิน ยันต์ป้องกัน ยันต์ซ่อนตัว

สิ่งของเหล่านี้เป็นของที่เขาหามาได้ และเป็นยันต์ค่ายกลที่ดีที่สุดที่เขามี

เมื่อจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จสิ้น ซืออี้หรันจึงหยิบอสูรน้อยวางไว้ด้านข้าง พูดคนเดียวว่า “การหยั่งรู้มองเห็นกันได้แต่ขอกันไม่ได้…ไม่ต้องไปรบกวนเธอ พวกเราไปไกลๆหน่อย”

อสูรน้อยกอดผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ลูกใหญ่อย่างดีใจ มีผลไม้ศักดิ์สิทธิ์แล้ว เรื่องการหยั่งรู้ก็ไม่จำเป็นอีก!

มันเข้าใกล้การหยั่งรู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเข้าสู่การหยั่งรู้ได้

แต่ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ลูกใหญ่นี้ เมื่อกินแล้วก็คือของมัน

ถ้าพูดตามความเป็นจริงผลไม้ศักดิ์สิทธิ์นี้ยังมีดีมากกว่าการที่มันเข้าใกล้การหยั่งรู้เสียอีก

**

เมื่อจัดการเรื่องเงามืดชายชุดดำเสร็จแล้ว แม้ว่าในใจยังคงมีเรื่องสงสัยและหนักใจ แต่มู่กุยฝานกับซูจิ่นอวี้และบรรพบุรุษ ยังคงไปตามการสัมผัสได้ของบรรพบุรุษ เพื่อตามหาซู่เป่า

ไม่ว่าโลกนี้จะเป็นอย่างไร แต่ขอแค่ซู่เป่าปลอดภัย ทุกอย่างก็จะดี ไม่งั้นคิดอะไรก็ไม่มีความหมาย

“รอเดี๋ยว!”

มู่กุยฝานหยุดชะงักกะทันหัน “ไม่ถูกต้อง…”

บรรพบุรุษหยุดลง และสัมผัสอย่างละเอียด พยักหน้าตามและพูดขึ้นว่า “เป็นลมหายใจค่ายกลโบราณ…”

ที่นี่ยังมีคนอื่นอีกหรือ?

ทั้งสามระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น

เวลานี้บรรพบุรุษสัมผัสได้ถึงอสูรน้อยยิ่งอยู่ยิ่งใกล้ เขาสงบใจลง และลองเชื่อมจิตกับอสูรน้อย

สัตว์มงคลที่กำลังกอดผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ลูกใหญ่ ก้มหน้ากัดกินผลไม้นั้น “จ๊ากๆ?”

เจ้านายตัวจริงมาแล้ว!

แย่แล้ว ต้องรีบกินไวๆ!

ไม่อย่างนั้นถ้าเจ้านายมาเห็นมันกำลังกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ จะต้องมาแย่งมันกินแน่ๆ

อสูรน้อยกินผลไม้นั้นอย่างรวดเร็ว

อีกด้านหนึ่ง บรรพบุรุษเชื่อมจิตกับอสูรน้อยสำเร็จ แววตาของเขาทอดมองผ่านความว้างเปล่า มองเห็นภาพที่อสูรน้อยมองเห็น

บรรพบุรุษขมวดคิ้ว

ซูจิ่นอวี้รู้ดีว่าอสูรน้อยเป็นสัตว์มงคลที่ทำสัญญาวิญญาณกับเขา จึงถามขึ้นอย่างร้อนใจว่า “เป็นยังไงบ้าง? เห็นอะไรหรือเปล่า?”

บรรพบุรุษ “สีแดงเลือดผืนหนึ่ง…”

ซูจิ่นอวี้กังวลในใจ “อะไรนะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน