ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1378

ผีกินขี้ไม่อาจจะเข้าใจได้เลยจริง ๆ!

บ้านเขากับบ้านข้าง ๆ อยู่ใกล้กันแค่นั้น แต่ทําไมน้ำท่วมไหลเข้าแต่บ้านเขาคนเดียว ขยะก็ไหลเข้าบ้านเขาหมดเลย??

เขารีบขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน แต่เพื่อนบ้านก็ได้ปฏิเสธอีกครั้ง แถมยังปฏิเสธที่จะติดต่ออะไรกับเขาอีกทั้งสิ้น เขาอยากยืมเครื่องมือสักหน่อยก็ไม่ยอมให้ยืม

“ไม่มีน้ำใจเลย!” ผีกินขี้ทั้งช็อกทั้งโกรธ

ซู่เป่าและซูจิ่นอวี้สองแม่ลูกสาวตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน: ดีมาก

ค่อยหายแค้นหน่อย!

เอาขยะไหลไปกองในบ้านเขาให้หมดดีแล้ว!

มาจากไหนก็ให้กลับไปที่เดิม!

แต่ว่านะ... แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับการกินขี้เล่า ท้ายที่สุดข้อสงสัยก็ยังไม่ได้รับคำอธิบาย

“แล้วยังไงต่อ” ซู่เป่าถามต่อ

ผีกินขี้พูดว่า “พอเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากผ่านไป รากฐานของบ้านฉันก็พังทลาย...”

ที่น่ารำคาญที่สุดคือแม่เขาเอาแต่ร้องไห้โวยวายว่ากรรมตามสนอง ๆ

กรรมตามสนองอะไรกัน

ความมุ่งหวังของเขาไม่ได้อยู่ที่หมู่บ้าน แต่อยู่ที่โลกข้างนอก

ในเมื่อไม่มีบ้านในหมู่บ้านแล้ว ก็สามารถไปพักที่บ้านคนอื่นได้ชั่วคราว หรือกลับเข้าเมืองเพื่อหาบ้านที่ใหญ่กว่านี้ก็ได้

คนในหมู่บ้านต้องเผชิญกับน้ำป่าไหลหลาก แค่เอาตัวรอดยังลำบาก เลยไม่มีใครมีกะใจมาสนใจเรื่องกองขยะกองนั้นแล้ว

กลิ่นเหม็นของขยะพวกนี้มันฝังรากลึกลงไปในพื้นดิน พ่อเกิดน้ำท่วมแบบนี้คนอื่นก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยไม่มากก็น้อย แต่สิ่งที่ผีกินขี้คาดไม่ถึงก็คือ...

“คืนนั้นตอนที่ฉันกําลังเข้าห้องน้ำอยู่ คิดไม่ถึงว่าว่านั่งร้านไม้ที่ตั้งไว้จะถูกน้ำซัดจนถล่มลงมา”

นั่งร้านไม้เป็นนั่งร้านที่ใช้ตอนสร้างบ้าน นั่งร้านไม้ที่วางอยู่นอกบ้านล้มครืนลงมา แทงทะลุประตูและหน้าต่างห้องน้ำเข้ามา แล้วเขาก็โดนไม้พวกนั้นแทงติดอยู่ในห้องน้ำ

ไม่ใช่แค่นั้น แต่ด้วยความที่รากฐานของบ้านไม่มั่นคงอยู่แล้ว คืนนั้นน้ำท่วมหนักกว่าเก่า นั่งร้านถล่มลงมาและทับเขาติดในชักโครก

“ฉันขยับตัวไม่ได้เลย พยายามตะโกนเรียกคนมาช่วยแต่ก็ไม่มีใครมาช่วยฉันเลย” ผีกินขี้คอตก “ท่อน้ำก็ดันมาขาดอีก น้ำในชักโครกก็ไหลย้อนขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็รู้”

หัวของเขายังถูกทับติดอยู่ในชักโครก

เขาพยายามสุดชีวิตที่จะลุกขึ้นมา แต่เพราะโดนทับตัวอยู่เลยลุกไม่ขึ้น เหมือนกับพระเจ้ากำลังกดหัวเขาให้กินขี้เลย

เมื่อเห็นน้ำเสียในชักโครกพุ่งขึ้นมิดหน้า เขาก็ได้ยินเสียงน้ำจากใต้ดินเหมือนหยุดอยู่แค่นั้น ราวกับว่าขึ้นมาแค่ให้พอมิดหน้าเขาให้จมน้ำตายแลย

แน่นอนว่าผีกินขี้ไม่ยอม!

น้ำเสียและกลิ่นเหม็นคละคลุ้งในชักโครกทำเขาหายใจไม่ออก เขาดิ้นเท่าไหร่ก็ดิ้นไม่หลุด เขากำลังจะจมน้ำตาย

ก่อนที่ผีกินขี้จะตกลงไปก็ยังไม่ยอม เขาโกรธ ยมบาลต้องไปขึ้นศาลตัดสินหมดไม่ใช่หรือ? ถ้าเขาผิดจริงจะให้เขาไปจะลงนรกยังไงก็ได้

เขาจะถือซะว่าเป็นมาฝึกตนมาล่วงหน้าของชาติต่อไป เขาทนได้ เพื่อชาติหน้าจะได้ดีกว่านี้...

ใครจะไปรู้ว่ายมบาลจะอารมณ์แปรปรวน บิดเบือนความจริงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ยุติธรรมแบบนี้!

แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่มีสมองให้คิดอีกต่อไป เพราะพอตกลงไปในสระน้ำสีแดงเลือดปุ๊บ เขาก็ถูกน้ำในสระท่วมมิดทันที ไม่นานเขาก็หลอมเป็นหนึ่งเดียวกับสระน้ำสีแดงเลือด

ซู่เป่าจ้องมองดวงตาแห่งปีศาจอย่างพะอืดพะอม ที่แท้สระน้ำสีแดงเลือดนี่ได้มาแบบนี้เอง ที่แท้ก็เพราะเป็นการรวมตัวกันของ “ความชั่วร้าย” และ “ปีศาจ” นี่เอง...

บรรพบุรุษเห็นซู่เป่าจ้องมองดวงตาแห่งปีศาจอยู่เงียบ ๆ เป็นเวลานาน จึงส่งเสียงฮึ่มแล้วปลอบว่า “เหอะ กรรมตามสนอง... ซู่เป่า ไม่ต้องคิดมากนะ นั่นเป็นผีต่างชาติ พวกเขาไม่ได้อยู่ในความดูแลของเราอยู่แล้ว เมื่อกี้บรรพบุรุษแค่ส่งเขากลับบ้านเกิดเท่านั้น”

ซู่เป่าได้คืนสติกลับมาแล้วพยักหน้าพูดว่า “ค่ะ หนูรู้ หนูไม่คิดมากหรอก...”

พญายมต้องพิจารณาและตัดสินความผิดอยู่แล้ว

แต่ที่นี่ไม่ได้อยู่ในยมโลกและก็ไม่ได้อยู่ในวังพญายมด้วย... อืม งานราชออกจะยุ่ง ไม่มีเวลาจัดการ ส่งผีต่างถิ่นกลับบ้านเกิดไปเลยก็ถูกแล้ว

ซูจิ่นอวี้พึมพำว่า “น่าขยะแขยงจริง ๆ ท่อนสุดท้ายนี้ได้ยินแล้วอยากจะอ้วก”

อสูรน้อยโยนผลไม้วิญญาณที่กินจนเหลือนิดเดียวทิ้งไป แยกขาเก้าอี้นั่งอยู่บนโต๊ะแล้วถอนหายใจ

บรรพบุรุษพึมพำว่า “บรรพบุรุษที่อยู่เบื้องบน ซู่เป่าของเราไม่ได้ใช้อำนาจโดยมิชอบ เราไม่ได้ทำลายเขา เพียงแต่เขาไร้ความสามารถจริง ๆ ปล่อยเขาไปเขาก็คงเอาตัวไม่รอดหรอก...”

(ผีกินขี้ที่ตายไปแล้ว: พวกคุณมันสูงส่ง... คุณทำให้ฉันตกอยู่ในดวงตาแห่งปีศาจ คุณจะให้ฉันหนีไปได้อย่างไร)

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน