ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1379

ฟังเรื่องผีกินขี้จนจบแล้วแต่มู่กุยฟานก็ยังไม่ขึ้นมา

ซู่เป่ารอไม่ไหวจะตามลงไปหา แต่กลับถูกบรรพบุรุษรั้งไว้

“จะว่าไปก็ไม่ได้กินหม้อไฟมานานแล้วนะ” บรรพบุรุษคร่ำครวญว่า “งั้นวันนี้ทำหม้อไฟหม่าล่าเขากินกันดีกว่าไหม”

ซู่เป่ากุมขมับ “บรรพบุรุษ นี่ยังกินลงอีกเหรอ?”

พอพูดถึงของกิน... ก็นึกถึงภาพที่ผีกินขี้ตายเพราะต้องกินสิ่งปฏิกูลอย่างเอาเป็นเอาตาย

บรรพบุรุษโบกมือเก็บโต๊ะและเก้าอี้

“ไป เราเปลี่ยนที่กันเถอะ”

ถ้ากินไม่ลงงั้นเราก็เปลี่ยนสภาพแวดล้อมกันก็ได้!

รอบดวงตาแห่งปีศาจแบ่งออกเป็นสองขั้ว ด้านบนของ “ตา” กลายเป็นพื้นที่สีเขียวชอุ่มมีป่าภูเขาและทุ่งหญ้า ด้านล่างของ “ตา” (เปลือกตา) กลายเป็นดินเหลืองและทะเลทราย

สถานที่ที่พวกซู่เป่าอยู่กันในตอนนี้เป็นพื้นดินเหลืองและทะเลทราย สภาพแวดล้อมไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เมื่อนึกถึงผีกินขี้เมื่อกี้แล้วก็รู้สึกเหมือนมีอะไรที่สอดรับกันอย่างบอกไม่ถูก

บรรพบุรุษพาซูจิ่นอวี้และซู่เป่าเดินไปที่ป่าเขาอีกด้านหนึ่งช้า ๆ

ตาปิศาจไม่ถือว่าเล็กนัก แต่เพราะหนึ่งเลยคือพวกเขาอยากบรรเทาอาการคลื่นไส้ปั่นป่วนในกระเพาะสองคืออยากชมสภาพแวดล้อมรอบ ๆ จึงเลือกเดินแทนที่จะหายตัว

จี้ฉางเดินตามหลังไปช้า ๆ แต่ครั้งนี้อสูรน้อยกลับนอนเกาะอยู่บนไหล่ของเขาแทน

จี้ฉางคิดว่า นี่ก็นับว่าไม่ทะเลาะก็คงไม่รู้จักกันสินะ ทะเลาะกันถียงกันมาตลอดทาง เจ้าตัวกลับสนิทกับเขาเสียอย่างนั้น

แต่อาจเป็นเพราะซู่เป่ามันถึงได้สนิทกับเขา...

อสูรน้อยคิดว่า โอ๊ย อยากอ้วก เอื๊อก! กินผลไม้ศักดิ์สิทธ์จนอิ่มเกินไป และก็มานึกถึงเรื่องผีกินขี้เมื่อกี้อีก... แหวะ!!

และเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนตอนนี้อย่าเพิ่งเกาะไหล่ของนายน้อยเลย เกาะไหล่ของชายเสื้อชุดขาวคนนี้ไปดีกว่า เผื่อถ้าจะอ้วกก็จะได้อ้วกใส่เขา เอื๊อก!!

ความคิดของคนและสัตว์ต่างกันราวฟ้าดิน

หลังจากเดินอ้อมรอบดวงตาแห่งปีศาจมา ก็พบอีกฟากหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม นกและดอกไม้นา ๆ พันธุ์ ทุ่งหญ้าสีเขียวขจี

บรรพบุรุษเอาโต๊ะและเก้าอี้ชุดใหม่ออกมา จากนั้นก็ตามด้วยหม้อกระทะจานชามทั้งหลาย

“ได้ยินมาว่าอาหารที่ซู่เป่าทำนั้นร้อนปุด ๆ แตกต่างจากอาหารในปรโลกใช่ไหม?” บรรพบุรุษกล่าวว่า “บรรพบุรุษไม่เคยกินเลย ซู่เป่าทําอาหารให้บรรพบุรุษกินสักมื้อเถอะนะ”

คนชราสงสายตาน่าสงสารให้ซู่เป่า

แล้วซู่เป่าใจอ่อนตามคาด เธอพับแขนเสื้อขึ้นและเริ่มจัดการวัตถุดิบ ก่อไฟและต้มน้ำหยิบเครื่องซุปหม้อไฟออกมา ใส่เครื่องปรุงรสพิเศษลงไป...

ไม่นานก็ยกหม้อซุปหม้อไฟรสหม่าล่าหอมกรุ่นมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย ขจัดอาการคลื่นไส้จากเรื่องที่เพิ่งได้ฟังไปเมื่อกี้จนหมดอย่างสิ้นเชิง

และไม่นานบนทุ่งหญ้าก็มีเสียงหัวเราะสนุกสนานดังขึ้นมา

ผีขี้ขลาด ผีหลายใจและผีเจ้าสาวก็ลอยมา ลอยมาอย่างไร้จุดหมาย

ผีเจ้าชู้พูดว่า “ตรงนั้นไง... ตรงที่ฉันกับยัยเจ้าสาวตั้งใจจะบุกถ้ำเสือ...”

พอพูดมาถึงตรงนี้เธอก็หยุดไปกะทันหัน

ผีขี้ขลาดทนไม่ไหวแล้ว เขาจ้องเธอ มุมปากกระตุกแล้วด่าว่า “จะพูดดี ๆ ไม่ได้เลนหรือไง ห๊า พูดดี ๆ ได้ไหม!”

ไม่มีคำดี ๆ ออกจากปากเธอเลย

ผีหลายใจน้อยใจ “ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย”

ผีเจ้าสาวเอียงหัวและพูดด้วยความสงสัยว่า “นั่นสิ พี่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรนี่”

ผีหลายใจตกใจเบิกตากว้าง “พระเจ้า น้องชาย นี่วัน ๆ ในหัวนายคิดอะไรอยู่เนี่ย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน