ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 139

สำหรับเรื่องที่จัดการกับตระกูลหลีและช่องรายการทั้งหลาย ผู้คนในโซเชียลต่างพากันชอบใจ

ในขณะเดียวกัน ในโลกโซเชียลก็เป็นกระแสร้อนแรงอย่างมากกับการขอโทษซู่เป่า

ตอนนี้เป็นสิ่งที่ร้อนแรงเสียยิ่งกว่าเดิม

แรกเริ่มนั่นเพราะเป็นเรื่องที่กุขึ้นมา แล้วเริ่มทำการขโทษ

จากนั้นก็ดำเนินการตามกฎหมาย โทษสถานเบาสำหรับช่องรายการต่างๆต่างพากันมาขอโทษ

จากนั้นก็เป็นไปตามความนิยม เมื่อเห็นเรื่องนี้เป็นกระแส พวกเขาก็แค่ทำตามกระแสไปเท่านั้น

ตอนนั้นเอง คนที่มารยาทดีหรือบรรดาคนดังต่างก็พากันถ่ายคลิปขอโทษ

เพียงคืนเดียวก็ได้รับกระแสอย่างถล่มทลาย

ทันทีหลังจากนั้น แค่พูดถึงเหตุผลและขอโทษก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาพอใจได้อีกต่อไป。

จากนั้นก็เริ่มมีการำเพลง มีการเต้นและร้องพลง [ฟังฉันพูดขอโทษ ขอโทษจริงๆ ซู่เป่ายกโทษให้me]

และยังมีคนนั่งคุกเข่าร้องห่มร้องไห้ขอโทษ

แถมยังมีบางคนบอกว่าตัวเองคือผู้ที่บอกว่าจะก้มกราบซู่เป่าในวันนั้น พวกเขาได้ไลฟ์สดก้มกราบ จากนั้นก็เริ่มขายของ

คุณครูเชอร์รี่เองก็ลงคลิปเช่นกัน ขอบตาแดงกล่ำและโทษว่าเป็นความผิดตัวเอง แต่สุดท้ายคลิปกลับไม่ดัง คนกดไลค์มีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ

ตอนที่ซู่เป่าเห็นคลิปพวกนี้ก็ตกใจเช่นกัน

ไม่รู้ว่าทำไม แต่เธอกลับรู้สึกแปลกๆ

คนพวกนี้เป็นอะไรกัน

ทั้งๆที่เป็นคนแท้ๆ แต่ทำไมกลับทำตัวเหมือนเป็นผีซะงั้น

**

ในห้องพักครูของผู้อำนวยการโรงเรียน

ครูเชอร์รี่มองผู้อำนวยการที่อยู่ตรงหน้าแล้วถามอย่างไม่เข้าใจ “ให้ฉันออก ทำไม”

เธอขอบตาแดง แล้วสะอึกสะอื้น “ฉันทำตรงไหนไม่ดีหรือ ซู่เป่ากับหยางหยางถ้าเป็นเรื่องนั้น ตอนนั้นฉันยอมรับว่าเหม่อลอยจริงๆ ขอโทษค่ะ ฮือฮือฮือ ได้โปรดให้โอกาสฉันอีกสักครั้งนะคะ ”

ผู้อำนวจการขมวดคิ้ว “ละเลยในหน้าที่มันเป็นแค่ข้ออ้าง ส่วนเหตุผลอื่นๆให้เธอไปคิดเอาเอง”

ครูเชอร์รี่น้ำตาไหลพราก “ฉันรู้แล้ว เป็นเพราะว่าฉันไปแตะต้องตระกูลซู่ใช่ไหม ฮือฮือฮือ”

ผู้อำนวจการเห็นเธอร้องไห้ก็รู้สึกรำคาญใจ “ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตระกูลซู่ การที่ให้คุณออกเป็นการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร คุณคบผู้ชายถึงสามคนในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้มันมีผลกระทบกับโรงเรียนในทางที่ไม่ดีอย่างมาก”

ครูเชอร์รี่อึ้งไปชั่วขณะ

“ฉัน ฉันไม่มีนะ……”เธอพยายามแก้ตัว:“ฉันมีแฟนแค่คนเดียว นั่นก็คือคุณครูโจว!ส่วนคนอื่น คนอื่นเป็นพวกที่มาตอแยกับฉันเฉยๆ。”

“ฉันสามารจัดการเรื่องส่วนตัวเองได้,เพียงแต่ฉันไม่สามารถที่จะทำร้ายพวกเขาได้,คิดเพียงแค่ค่อยๆห่างออกมาก็เท่านั้น……”

ผู้อำนวยการแสยะยิ้ม:“ค่อยๆพูดออกมา?แล้วที่หอมแก้มเขาหน้าโรงเรียนแบบนี้เรียกว่าค่อยๆพูดหรือเปล่า?”

ครูเชอร์รี่หน้าซีดเผือก:“ไม่ใช่นะคะ ฟังฉันอธิบายก่อน……”

แต่เขาไม่อยากฟัง ได้แต่ให้เธอรีบออกไปโดยเร็ว。

คนที่ยืนอยู่หน้าห้องอย่างครูเชอร์รี่รู้สึกน้อยอกน้อยใจอย่างมาก。

ไม่สิ เรื่องที่เธอโดนไล่ออกมันต้องไม่เกี่ยวกับเหตุผลนี้แน่ๆ。

ต้องเป็นเพราะตระกูลซู่แน่ๆ。

ตอนนี้เธอจะรีบไปที่บ้านตระกูลซู่เพื่อขอโทษ……

เธอเป็นคุณครูของซู่เป่า ทั้งยังซื่อสัตย์,ตระกูลซู่ต้องหใอภัยเธอได้แน่ๆ?

ชื่อเดิมของครูเชอร์รี่ชื่อว่าหลินเสวี่ยอิง เพียงแต่ตั้งชื่อเล่นให้ตัวเองว่าเชอร์รี่น้อย

หลักจากที่เธอจากมาจากโรงเรียนก็รีบกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดเสื้อผ้าที่สวยงาม ปล่อยผมที่ม้วนอยู่ลงมาด้วย แล้วใส่ต่างหูน่ารักรูปเชอร์รี่

หลินเสวี่ยอิงไปที่บ้านตระกูลซู่เป็นช่วงเวลาตอนหนึ่งทุ่มครึ่งพอดี

ตอนนี้โดยทั่วไปจะเป็นเวลาเยี่ยมบ้านของคุณครู และพวกเขาเพิ่งรับประทานอาหารเสร็จ เป็นช่วงที่ผ่อนคลายและมีเวลาสนทนามากที่สุด

ที่สำคัญก็คือ ผู้คนอยู่ครบ

ตอนนี้เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูรั้วของบ้านตระกูลซู่ เธออึ้งไปเลย

ที่อยู่ของตระกูลซู่นั้นหายากมากๆ เธอต้องลงแรงอย่างมากกว่าจะให้ครูโจวแฟนของเธอหามาได้

แต่พอมาถึงบ้านของพวกเขา กลับรู้สึกหวั่นเล็กน้อย

เพราะคฤหาสน์ของพวกเขามันดูหรูหราอย่างมาก

สวนหย่อมของพวกเขามีลักษณะสไตล์อังกฤษ หรูหราแต่ก็โรแมนติก

หลินเสวี่ยอิงหวั่นเป็นอย่างมาก เขายิ้มอย่างมีมารยาทและอ่อนโยน

“สวัสดีค่ะ ฉันคือคุณครูประจำชั้นของซู่เป่า ชื่อว่าหลินเสวี่ยอิง นี่เป็นนามบัตรของฉันค่ะ”

ตอนนั้นการ์ดที่อยู่หน้าประตูมองเธอแล้วขมวดคิ้ว จากนั้นก็ไปแจ้งให้คนในบ้านทราบ

ครู่หนึ่ง อาเนี่ยก็เดินออกมา

แต่เมื่อเขามอไปที่ครูเชอร์รี่เองก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน

หากไม่ใช่เพราะซู่เป่ายืนยันว่าเธอเป็นครูประจำชั้น เขาคงจะไล่ออกไปทันทีที่เห็น

มาเยี่ยมบ้านนักเรียนแบบนี้ มีอย่างที่ไหนมาแต่งตัววับๆแวมๆ

“ตามผมเข้ามาเถิด ”ลุงเนี่ยพูด。

ครูเชอร์รี่ยังไม่รู้ตัวถึงปัญหาดังกล่าว แต่ก็ระงับความตื่นเต้นไว้อยู่。

เมื่อเดินผ่านกระจกที่ห้องโถงแล้วเห็นตัวเอง เธอรู้สึกเพียงแต่ตัวเองนั้นดูอ่อนโยนและน่ารัก โชว์ไหล่มนสวย ชุดแดงยิ่งทำให้เห็นถึงความโดดเด่น น่าทะนุถนอม

เอกำลังหลงไหลในความคิดของตัวเอง。

หลังจากผ่านประตูใหญ่ ก็จะเป็นสนามหญ้า สวนหย่อม แบบนี้ถึงจะเป็นการเดินเข้าไปในบ้านที่แท้จริง

ตระกูลซู่ทั้งหมดอยู่กับพร้อมหน้า ซู่อีเฉินกำลังนั่งอยู่ที่ชั้นหนึ่งจัดการเรื่องงานในบริษัท

มู่กุยฝานเองก็นั่งอยู่ที๋โซฟาเหมือนกัน โดยมีซู่เป่าอยู่ในอ้อมกอดของเขา มือข้างหนึ่งถือหนังสือ อีกข้างหนึ่งวางไว้ที่เข่า กำลังสอนให้ซู่เป่าอ่านหนังสือ

เมื่อได้ยินว่ามีคุณครูมาเยี่ยมบ้านนักเรียน ซู่จึหลิน ซู่อี้เซินและซู่อื๋งเอ๋อร์ต่างก็ลงมาที่ชั้นล่างและยังนั่งอย่างเป็นทางการรอที่ข้างๆ

แต่เมื่อพวกเขาเห็นหญิงที่ใส่ชุดสีแดงกำลังเดินเข้ามา ทำให้ทุกคนต่างอึ้งและรู้สึกแปลกๆ

มู่กุยฝานขมวดคิ้วแปลกๆแล้วถามซู่เป่าเบาๆ “นี่เป็นคุณครูของลูกหรือ”

ซู่เป่าพยักหน้า “ใช่ๆ คุณครูเชอร์รี่”

เพียงแต่เธอนั้นไม่ค่อยชอบคุณครูเชอร์รี่เท่าไหร่ เธอรู้สึกว่าครูเชอร์รี่ไม่ค่อยมีเหตุผล

มู่กุยฝานเองก็สามารถเดาความรู้สึกของลูกเขาได้ในระดับหนึ่ง

เข้าใจแล้ว ที่แท้ลูกไม่ชอบคุณครูคนนี้ คงจะไม่ใช่คุณครูที่ดีเท่าไหร่

คุณนายซู่เม้มปาก แล้วประเมินมองดูครูเชอร์รี่อย่างใจเย็น ปกติที่จะมีสีหน้าใจดี แต่ตอนนี้กลับนิ่งเงียบเหมือนนายท่านซู่

ทันทีที่ได้ยินว่ามีคุณครูมาเยี่ยมบ้าน ทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ

แต่เมื่อสองวันก่อนผู้อำนวยการเคยบอกเองว่าอยากมาขอโทษด้วยตัวเองที่บ้าน เธอจึงไม่คิดอะไรมาก

เมื่อครูเชอร์รี่เข้ามา ภาพที่เธอเห็นข้างหน้าทำให้เธออึ้งไปเลย

มีแต่คนหล่อๆเต็มไปหมดเลย

หัวใจเธอเต้นแรงมาก ในสมองคิดอะไรไม่ออกนอกจากเรื่องผู้ชาย

เหมือนราชวัง เธอกำลังใส่ชุดของเจ้าหญิงสโนไวท์ ค่อยเดินจากชั้นบนลงมาข้างล่าง

ข้างๆมีองค์รักษ์หล่อๆยืนอยู่ทั้งห้าคน

หนึ่งในนั้นมีคนที่สูงที่สุด หล่อที่สุดกำลังจูงมือเธอ ส่วนอีกสี่คนที่เธอจ้องมองเธอด้วยความหลงใหลแล้วพูดอย่างอ่อนโยน 【สวัสดีตอนเช้า เจ้าหญิงเชอร์รี่น้อยที่รัก】

ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังข้างๆ:“คุณครูเชอร์รี่?”

คุณนายซู่มองที่คุณครูเชอร์รี่อย่างไม่ชอบใจนักเท่าไหร่。

เพิ่งเข้าประตู ก็เห็นเธอจ้องมองไปที่บรรดาลูกชายของเขาอย่างจดจ่อ นั่นทำให้เธอไม่ชอบเป็นอย่างมาก

ครูเชอร์รี่พูดว่า “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันคือคุณครูเชอร์รี่ เป็นครูของซู่เป่า พวกคุณเรียกฉันว่าครูเชอร์รี่ก็ได้ค่ะ”

ตระกูลซู่:“……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน