ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 141

หลินเสวี่ยอิงรู้สึกผิดและอาย แต่ในใจก็รู้สึกเศร้ามากกว่า

เศร้าใจที่ชายห้าคนนั้นไม่เชื่อเธอ

เธออดไม่ได้ที่จะคิดฉากหนึ่งขึ้นมาในหัว ‘ในปราสาทของเจ้าหญิง ชายห้าคนที่รักเจ้าหญิงอย่างสุดหัวใจกลับเข้าใจเจ้าหญิงผิดเพราะเรื่องบางอย่าง และพวกเขาทั้งหมดก็หนีออกจากปราสาทด้วยความโกรธ... เจ้าหญิงร้องไห้อย่างโศกเศร้า ท้องฟ้ากำลังโปรยปรายดอกซากุระ เมื่อเจ้าหญิงวิ่งออกไป เธอก็ลื่นล้มลงกับพื้น...’

กลีบดอกซากุระร่วงหล่นลงมาบนขนตาของเธอเหมือนปีกผีเสื้อ อัศวินทั้ง 5 รีบวิ่งกลับมา แต่เจ้าหญิงกลับไม่ลืมตาขึ้นมาอีกเลย พวกเขาเจ็บปวดหัวใจในสิ่งที่ตนเองได้กระทำลงไป...

ฮือ ฮือ ใจร้ายจริงๆ หลินเสวี่ยอิงยิ่งคิดยิ่งร้องไห้หนักขึ้น และเอาแตร้องไห้ตลอดทางกลับบ้าน

โจวเซียวกำลังรออย่างใจจดใจจ่อ และเมื่อเห็นเธอกลับมาในสภาพที่เปียกปอนไปด้วยน้ำตา เขาก็รีบกอดเธอไว้แน่นในอ้อมแขน

"เกิดอะไรขึ้น โทรหาก็ไม่รับสายเลย!"

หลินเสวี่ยอิงกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและร้องไห้ออกมา “พี่โจวเซียน…สรุปแล้วฉันผิดเป็นคนผิดจริงๆ เหรอ แต่ทำไมกันล่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”

“ทำไมครูใหญ่ถึงไล่ฉันออกมาแบบนั้น ทำไมตระกูลซูถึงไม่ยกโทษให้ฉัน...”

หลินเสวี่ยอิงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ

โจวเซียนพูดออกมาอย่างเจ็บปวดใจ “ไม่โทษเธอหรอก ไม่ใช่ความผิดเธอ อย่าร้องไห้เลยนะ…”

หลินเสวี่ยอิงร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเธอก็เหลือบไปเห็นตัวเธอที่กำลังร้องไห้ในกระจก ช่างงดงามราวกับดอกสาลี่ที่โปรยปรายในสายฝน

แต่คนที่กำลังกอดเธอเอาไว้ กลับเป็นผู้ชายที่แสนจะธรรมดาอย่างโจวเซียน

แต่ก่อนเคยคิดว่าเขาเป็นคนที่สดใสและหล่อเหลา หล่อที่สุดในบรรดาแฟนหนุ่มหลายคน

แต่หลังจากเห็นซูอีเฉินและมู่กุยฝาน หลินเสวี่ยอิงรู้สึกว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่ดีพอสำหรับเธออีกต่อไป

หลินเสวี่ยอิงจู่ๆก็รู้สึกหม่นหมอง ไม่สามารถร้องไห้ได้อีกต่อไป ได้หัวใจเกิดความเจ็บปวดที่ไม่สามารถบรรยายได้ ผู้หญิงดีๆ อย่างเธอ ควรได้ซูอีเฉินและมู่กุยฝานมากอดปลอบยามเธอร้องไห้

จู่ๆหลินเสวี่ยอิงก็ผลักโจวเซียวออกและวิ่งออกไป

โจวเซียวอึ้งไปชั่วขณะ "???"

“เชอร์รี่น้อย!” เขารีบวิ่งตามออกไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ที่ทางเดินไม่มีวี่แววของเธอแม้แต่นิด

โจวเซียวรีบกดลิฟต์ เพื่อจะลงไปตามหาเธอ

หลังจากที่เขาออกไป บันไดที่มืดมิดก็สว่างขึ้น และร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ ...

หลินเสวี่ยอิงนั่นเอง

เธอเอามือปิดปากและพึมพำด้วยความเจ็บปวด "ฉันขอโทษ พี่โจวเซียว เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไปแล้ว โชคชะตากำหนดให้เรามาพบกันก็จริง แต่เราไม่อาจเดินไปด้วยกันได้จนสุดทาง... ฮือๆๆ "

หลินเสวี่ยอิงที่กำลังอกหัก…ตัดสินใจไปที่บ้านของอี้ปิน

อี้ปินทั้งอึ้งทั้งสงสัย “เชอร์รี่น้อย เธอมาที่นี่ทำไม”

หลินเสวี่ยอิงมองไปยังใบหน้าอันซีดเผือดของอี้ปิน เธอก็ยิ่งร้องไห้หนักมาก เมื่อพบว่าเขาช่างไม่คู่ควรยิ่งกว่าอีก และน้ำตาเธอก็ไหลออกมาอีกครั้ง

แต่มันดึกแล้ว คิดว่าคืนนี้เธอคงร้องไห้ทั้งคืน พรุ่งนี้ค่อยออกไปก็แล้วกัน

เขาและเธอก็คงจะล้มเหลวอีกเช่นกัน ฮือ ฮือ!

**

ในห้องของซู่เป่า

นายหญิงซูหยิบผ้าขนหนูห่อก้อนน้ำแข็งแล้วประคบที่หน้าผากของซู่เป่า

มู่กุยฝานยื่นมือออกมา "ผมทำเอง!"

คนแก่คนหนึ่ง ดึกขนาดนี้แล้วยังต้องลำบากมานั่งเลี้ยงเด็ก ฟังแล้วดูเหมือน…

นายหญิงซูจ้องไปที่เขา “ไม่ต้องพูดเลย!”

มู่กุยฝานเอาแตะจมูกของเขากลบเกลื่อน

ซู่เป่าเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่อฟัง ให้นายหญิงซูประคบน้ำแข็งให้แล้วพูดอย่างอ่อนแรง “คุณยายคะ จริงๆ แล้วซู่เป่าสบายดี ไม่ได้เป็นอะไรเลย!”

นายหญิงซูทำเสียงแข็ง “หนูเองก็ไม่ต้องพูด!”

สองพ่อลูกทำได้แค่เงียบปาก “…”

และมู่กุยฝานก็พูดขึ้นมาว่า “นี่ ซู่เป่า พ่อจะเล่านิทานให้ฟัง หนูอยากฟังเรื่องอะไร”

เขาเอื้อมมือไปหยิบสมุดภาพสองสามเล่มบนโต๊ะ

ซู่เป่ายกมือขึ้นทันที "คุณพ่อ หนูอยากฟังเรื่องแมรี่ ซูผู้ไร้สมอง!"

มู่กุยฝาน “????”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน