ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1441

สรุปบท ตอนที่ 1441 ลำขาขนดกสองข้าง: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

สรุปตอน ตอนที่ 1441 ลำขาขนดกสองข้าง – จากเรื่อง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

ตอน ตอนที่ 1441 ลำขาขนดกสองข้าง ของนิยายนิยายวัยรุ่นเรื่องดัง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดยนักเขียน ไอซ์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

มองดูลำขายาวที่เส้นขนดกดำ จู่ๆ ซู่เป่าก็นึกถึงลุงสี่ในอดีต

ตอนลุงสี่โดนผีผู้หญิงหลอกเมื่อเธอเด็กๆ เขาก็รีบนั่งเครื่องบิน วิ่งกลับมาพร้อมขนขาที่แสนยุ่งเหยิง

สิ่งที่วิ่งผ่านเธอเมื่อครู่ก็เป็นแบบนั้นเช่นกัน เพียงแต่ร่างของมันเล็กกว่าลุงสี่เยอะ น่าจะราวๆ ครึ่งเมตร

“เหมือนจะสูงแค่ครึ่งเมตร…เตี้ยขนาดนี้ มีขาที่ยาวขนาดนั้นได้ยังไงกัน” ซู่เป่าฉงน

เธอเดินเข้าไปอย่างระมัดระวัง เดิมทีเธอคิดว่าในตำหนักสองชั้นนี้จะมีของดีเยอะมากๆ แต่แล้วที่นี่กลับมีเพียงชั้นวางของ บนชั้นวางของมีอาวุธตั้งอยู่สี่ห้าชิ้น…

แค่นี้เท่านั้น!

ซู่เป่าส่งจิตเทพเข้าไปตรวจสอบดูก่อน

ไม่รู้ว่าอาวุธอะไรกัน มีดาบยาว หอกสามหัว เจดีย์ บาทที่พระสงฆ์ถือ และผ้ายาวบางๆ ชิ้นหนึ่ง คล้ายกับผ้าคลุมชุดฮั่น

ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่เอามาก่อนละกัน

จิตเทพของซู่เป่ากวาดผ่าน จากนั้นของทั้งหมดรวมทั้งชั้นวางของก็ถูกเก็บเข้ามาในแหวน

ในตำหนักราวกับมีเสียงขุ่นเคืองดังขึ้น ที่ไม่รู้ว่าชนกับสิ่งใด จนเกิดเป็นเสียงดังโครมๆ

ซู่เป่ารีบเดินเข้าไปทันที ด้วยเกราะในสามชั้นเกราะนอกสามชั้นเช่นเคย เธอพบว่าที่ตำหนักหลังเต็มไปด้วยภาพวาด

อืม แม้ไม่รู้ว่าภาพวาดเหล่านี้มีประโยชน์อะไรกันแน่ แต่ในเมื่อซ่อนอยู่ตรงนี้แสดงว่าต้องไม่ธรรมดา เอามาก่อนแล้วค่อยว่ากัน

เธอโบกมือ ของทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้าหายไปอีกครั้ง

ในตำหนักโล่งโจ้ง ในที่สุดก็เหลือเพียง…

ลำแข้งเปลือยๆ ที่ขนขากำลังพัดโบก

ลำแข้งของจริง ที่ไม่มีกระทั่งส่วนร่างกาย เมื่อมันพบว่าตนไม่มีที่ซ่อนแล้ว จึงรีบชักขาวิ่ง ราวกับจะพุ่งตัวออกไป

“แกเป็นตัวอะไรกันแน่”

ซู่เป่าคิดว่ามันจะรับมือยาก จึงเอ่ยเรียกเสียงต่ำ “หลงหยา” หลงหยากดลำแข้งขนดกคู่นั้นไว้ทันที

แม้มันจะไม่มีใบหน้าและหน้าตา แต่ซู่เป่าสามารถรับรู้ถึงความลนลานของมัน

เมื่อมองดูดีๆ ลำแข้งนี้ไม่มีร่างเนื้อ มันคล้ายกับวิญญาณ แต่ก็ไม่ใช่วิญญาณ…ซู่เป่ารู้สึกคุ้นเคยมาก

“แกคือ…วิญญาณอาวุธ!”

จู่ๆ ซู่เป่าก็คิดถึงวิญญาณอาวุธในหลงหยา หลังเธอกลับไปยังตระกูลซูเมื่อเสร็จจากการต่อสู้ เธอเคยใช้จิตเทพสัมผัสมันมาก่อน และรับรู้ถึงวิญญาณอาวุธของหลงหยาคร่าวๆ

ดังนั้นเธอจึงสามารถมองออกอย่างรวดเร็ว ว่าลำแข้งตรงหน้าเป็นวิญญาณอาวุธจริงๆ

เพียงแต่วิญญาณอาวุธบ้านไหนเป็นขาหน้าแข้งสองข้างกัน

ขณะเธอกำลังคิด จู่ๆ ตำหนักก็ทอแสงสว่าง ตำหนักขนาดใหญ่หายไป กลายเป็นเงาสีขาวๆ

เงานั้นเป็นรูปทรงตำหนักขนาดย่อ และตั้งอยู่บนขาสองข้างนั้นพอดี

จากนั้นไม่รู้ว่าขัดขืนออกจากการข่มของหลงหยาอย่างไร มันวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว...

ซู่เป่า “......”

หลงหยา “......”

มุมปากซู่เป่ากระตุก คดีกระจ่างแล้ว นี่เป็นวิญญาณอาวุธของตำหนัก

เกินไปมากจริงๆ

ตำหนักมีขา ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

และเวลานี้ ซู่เป่ามองตำหนักขนาดยักษ์ใหญ่เมื่อครู่ ที่ย่อเหลือเพียงขนาดหน้าจอคอมพิวเตอร์ เบื้องล่างของมันมีลำขาขนดกสองข้าง วิ่งหนีไปทั่วอย่างลนลาน

ราวกับว่าพื้นที่นี้มีจำกัด ตำหนักสับขาสองข้างบินไปยังปลายเมฆ จากนั้นก็วิ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว และวิ่งพุ่งไปทิศอีกด้าน...

ลองคิดภาพ หน้าจอคอมพิวเตอร์บ้านคุณมีขาสองข้าง แล้ววิ่งอย่างบ้าคลั่งอยู่ในห้องของคุณ

มุมปากของซู่เป่ากระตุกไม่หยุด

เดิมทีคิดว่าจะเจอศึกใหญ่ที่นี่ เธอเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้มาก

ไม่คิดว่าที่นี่จะมีวิญญาณตำหนักที่ขี้ขลาดพอๆ กับอสูรน้อยอยู่...

ครั้งที่สามที่ตำหนักวิ่งพุ่งเข้ามาอย่างลนลาน ซู่เป่ายื่นมือ กดมันไว้ทันที

วิญญาณอาวุธขัดขืนไม่หยุด ราวกับกำลังร้องให้ปล่อยมันไป

หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยรอยย่น พร้อมเอ่ย “ฉันก็แค่ถาม ว่าที่นี่คือที่ไหน แกเป็นวิญญาณอาวุธเร่ร่อน หรือแกมีเจ้าของ”

วิญญาณอาวุธวาดมือพร้อมส่ายหัว บ่งบอกว่ามันมีเจ้าของ

ในใจซู่เป่าคิด ก็ได้ ถ้ามีเจ้าของเธอก็ทำอะไรมันไม่ได้ แล้วของที่เธอเก็บไปเมื่อครู่ล่ะ

ของเหล่านั้นก็ต้องคืนเหรอ

จู่ๆ ซู่เป่าก็รู้สึกเจ็บใจ ของที่ตกในกำมือเธอไม่เคยเอาคืนคนอื่นมาก่อน

แต่ไม่คิดว่าวิญญาณอาวุธนั่นจะกล่าวว่า ขอเพียงแค่เธอปล่อยมันไป ของในตำหนักทั้งหมดจะเป็นของเธอ

ซู่เป่า “แบบนี้เกรงใจแย่เลย...งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ”

หน้าแข้งขนดก “......” ถ้าหากลังเลให้มากกว่านี้อีกซักวิ...

ชั่งเถอะ

ของพวกนั้น นายท่านบอกว่าของพวกนั้นวางไว้ให้คนอื่นหยิบอยู่แล้ว

“ตอนนี้บอกฉันได้หรือยังว่าที่นี่คือที่ไหน” ซู่เป่านั่งอยู่บนก้อนเมฆ เท้าคางมองไปทางตำหนัก

พร้อมเอาผลวิเศษออกมาให้หลงหยากินลูกหนึ่ง

หลงหยา “......” ข้าไม่กินเจ

แล้ววินาทีต่อมามันก็กลืนลงไป

ตำหนักหมดคำพูดอีกครั้ง มีนายท่านแบบไหนก็มีดาบแบบนั้นจริงๆ การกระทำและคำพูดไม่ตรงกันแม้แต่นิด

เพียงแต่ยัยเด็กนี่ก็ดูจะไม่ใช่คนไม่ดี

ไตร่ตรองอยู่นาน สุดท้ายตำหนักก็เลือกที่จะบอกเธอ

[เทียนถิง] มันวาดมือ [ที่นี่คือเทียนถิง]

ซู่เป่า “???”

อึ้ง นี่เธอข้ามมิติจริงๆ เหรอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน