ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1472

สรุปบท ตอนที่ 1472 คนที่ชอบพูดด้วยความเป็นห่วงน่ะ เวลาลงมือนั้นกลับทำรุนแรงที่สุด: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 1472 คนที่ชอบพูดด้วยความเป็นห่วงน่ะ เวลาลงมือนั้นกลับทำรุนแรงที่สุด – ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

บท ตอนที่ 1472 คนที่ชอบพูดด้วยความเป็นห่วงน่ะ เวลาลงมือนั้นกลับทำรุนแรงที่สุด ของ ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน ในหมวดนิยายนิยายวัยรุ่น เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ไอซ์ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เสียงลมพัดผ่าน ใบไม้ร่วงหล่นหลายใบ

“พวกม้าโพนี่” ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมองดูมนุษย์สองคนผ่านมาที่ประตูเผ่าของพวกเขาแล้วก็หายไป

นี่มันหมายความว่ายังไง?

ตกลงจะกินหรือไม่กินพวกมัน พวกมันต้องย้ายบ้านไหม?

**

ดินแดนจิ่วโยวนั้นลึกลับและคาดเดาอะไรไม่ได้ สายลมพัดผ่านมาทำให้ทุ่งหญ้าที่สูงตระหง่านยิ่งกว่าความสูงมนุษย์ส่งเสียงดังขึ้น

สัตว์ปีศาจที่ท่าทางดูแปลกๆ กําลังกินหญ้าอย่างสบายๆ อยู่ในทุ่งหญ้า ส่วนปากของมันก็กำลังเคี้ยวหญ้าอยู่

หญ้าที่อยู่ตรงหน้ามันกับหญ้าที่อื่นไม่เหมือนกัน เพราะสีหญ้าที่นี่เป็นสีม่วงแดง หลังจากที่โดนสัตว์ปีศาจกินเข้าไป ปลายใบก็จะมีของเหลวสีแดงเข้มไหลออกมา

ซู่เป่าซ่อนตัวอยู่ในตำหนักพญายม และพูดคุยกับซืออี้หรันว่า “พี่อี้หรัน นั่นใช่แพะภูเขาหรือเปล่า?”

จนถึงตอนนี้ สัตว์ปีศาจที่ซู่เป่าเห็นนั้นมีหัวขนาดใหญ่และ "แพะภูเขา" ที่อยู่ตรงหน้านั้นดูท่าทางน่าจะสูงประมาณสองเมตร

มันมีหัวแพะ แต่มีเก้าหาง สี่หู และที่แปลกไปกว่านั้นก็คือตาของมันอยู่ข้างหลัง

ความคิดแรกในหัวของซู่เป่าก็คือ…

มันกินหญ้าแบบนั้นแล้วมันมองเห็นหญ้าตรงหน้าไหม?

“อันนั้นน่าจะเป็นป๋ออี๋” ซืออี้หรันเอ่ย “สัตว์ประหลาดที่อยู่ในนิทานหรือตำนาน”

“มันพูดได้ไหม?” ซู่เป่าห่วงแค่ว่ากินได้หรือไม่ได้

ซืออี้หรัน “น่าจะ…ไม่ได้มั้ง?”

ซู่เป่าเอ่ย “ลองดูก็น่าจะรู้ พี่อี้หรันคุ้มกันไว้นะ เดี๋ยวหนูไปยืนยันดูก่อน!”

ซืออี้หรันยังไม่ทันได้ตอบ ซู่เป่าก็ไปโบกมือและปรากฏตัวอยู่หลังสัตว์ปีศาจนั้นทันที

“สวัสดี! ข้ากินเจ้าได้ไหม…หมายถึงว่าเจ้าพูดภาษาคนได้ไหม?”

สัตว์ปีศาจที่กําลังฟังความเคลื่อนไหวรอบๆ อย่างระมัดระวังอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเงาเล็กๆ มาปรากฏขึ้นอยู่ข้างหลังมันซะงั้น

สัตว์ปีศาจส่งเสียงร้องคำรามเพ่งเล็งที่ไปที่ซู่เป่าราวกับเจอศัตรูตัวฉกาจอย่างงั้นแหละ

ซู่เป่ารู้สึกเหมือนหูจะแตก ถึงกับต้องเอามือมาอุดหูไว้

“ดีมาก เจ้าพูดภาษาคนไม่ได้…”

เธอชูเขี้ยวมังกรในมือขึ้นมา!

สัตว์ปีศาจรับรู้ได้ถึงแรงกดดันนี้ มันรีบหันหลังแล้วเอาเขาแพะของมันเตรียมพุ่งชนไปที่ซู่เป่า!

ซู่เป่ากำลังคิดอยู่เลยว่าอยากจะลองฝีมือดูซะหน่อย หลังเปลี่ยนจื่อตันสำเร็จก็ถึงเวลาที่เธอจะโชว์ศักยภาพของตัวเองเป็นครั้งแรกแล้ว!

มีแสงวาบขึ้นมา ซู่เป่าเคลื่อนไหวไวมากจนเงาแทบตามตัวไม่ทัน สัตว์ปีศาจยังไม่ทันได้พุ่งชนเข้ามาหาเธอเลย เธอก็ไปโผล่อยู่ข้างหลังมันอีกครั้ง!

“เจ้าช้าเกินไป!” ซู่เป่าสายตาเฉียบคม ฟันเขี้ยวมังกรลงมาทันที!

เธอนึกว่าแค่ฟันเมื่อกี้จะสามารถฆ่ามันตายได้ แต่น่าแปลกใจที่สัตว์ปีศาจสามารถหลีกเลี่ยงได้

“เอ๊ะ?” เร็วกว่าเธออีกเหรอ?

เพียงพริบตาเดียวสัตว์ปีศาจก็พุ่งชนเข้ามาตรงหน้า ซู่เป่ารีบกระโดดเด้งตัวขึ้นแล้วเหยียบที่หัวมัน

ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดก็กรีดร้องโหยหวนทันที แถมดวงตาทั้งสองข้างที่อยู่ด้านหลังก็โมโหตาแดงขึ้นมาทันที น่ากลัวมากๆ ในขณะนั้นรู้สึกเหมือนพญายมกำลังลืมตายังไงไม่รู้!

พอเห็นซู่เป่าฆ่าป๋ออี๋ได้แล้ว ซืออี้หรันถึงค่อยออกมา ไม่ใช่ว่าเขาจะมาชุบมือเปิบนะ แต่เขารู้ว่าซู่เป่าต้องการที่จะลองฝีมือดู

แน่นอนว่าเขาก็ต้องไม่ไปรบกวนอยู่แล้ว เลยทำได้เพียงแค่จับตาดูป๋ออี๋ไว้เผื่อว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นมา

ซู่เป่าถอนหายใจโล่งอกอย่างกระฉับกระเฉง!

ป๋ออี๋ตัวนี้น่าจะเก่งกว่าสัตว์ปีศาจตัวก่อนหน้าที่เอามาทำ “เนื้อวัว” นิดหน่อย แถมหัวก็ยังใหญ่กว่าเป็นเท่าตัวหนึ่งเลย

ถ้าเธอได้ออกมาล่าก่อนหน้านี้ก็คงไม่สามารถล่าได้สําเร็จด้วยตัวคนเดียวอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เธอกลับสามารถฆ่ามันได้อย่างง่ายดาย

จื่อตันหมุนโคจรอย่างต่อเนื่องเพื่อคอยให้พลังงานแก่ซู่เป่าเรื่อยๆ แม้ว่า "หัวไชเท้า" ที่เพิ่งกินไปเมื่อกี้จะให้พลังเทพอยู่บ้าง แต่เอาเข้าจริงๆ พอไปต่อสู้พลังเทพนี้แข็งแกร่งกว่าตันเถียนที่เต็มไปด้วยพลังหยินไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าเลยล่ะ!

นี่ก็คือความแตกต่างของพลังเทพและพลังหยินสินะ!

งั้นถ้าเกิดจื่อตันของเธอเต็มไปด้วยพลังเทพล่ะ?! คงจะเจ๋งมากเลยใช่ไหม?

ไม่กล้าจะคิดเลยด้วยซ้ำ!

“พี่อี้หรัน ตอนแรกหนูก็นึกว่าส่วนที่แข็งแกร่งที่สุดของป๋ออี๋จะเป็นดวงตาซะอีก แต่ที่ไหนได้ไม่นึกเลยว่าดวงตาจะเป็นจุดอ่อนของมัน”

ซืออี้หรันพยักหน้า “ก็เข้าใจได้นะ เพราะว่าข้างหลังนั้นค่อนข้างจะอ่อนแอ ดังนั้นเลยต้องมีดวงตาไว้เพื่อเป็นการระวังหลังไม่ให้ถูกแอบโจมตี”

ซู่เป่า “?”

ก็ดูไม่ได้ผิดปกติอะไร…

“ไปกันเถอะ! กลับไปย่างเนื้อแพะเสียบไม้กัน!” ซู่เป่าโยนป๋ออี๋ทั้งตัวเข้าไปในตำหนักพญายมเพื่อคงความสดใหม่ของวัตถุดิบ

ก่อนจะจากไป จู่ๆ เธอก็มองไปรอบๆ

ที่ๆ ป๋ออี๋อยู่นั้น…ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเหมือนที่อื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน