ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1478

ฝูอี้เฉินมองซู่เป่าที่อยู่ในถ้ำด้วยสายตาเย็นชา

เขารู้ว่าเธอแข็งแกร่ง หายไปแค่ไม่กี่วัน กลิ่นอายของเธอก็ไม่เหมือนตอนที่เจอครั้งแรกแล้ว

เขาไม่สามารถสํารวจความเข้มข้นของกลิ่นอายแบบนี้ได้ แต่เขาก็ยังจํากลิ่นอายที่สมบูรณ์ของเธอในวันที่เธอมาที่นี่ครั้งแรกได้อยู่

เขาเลยเผื่อไว้ถ้ามีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น โดยเขาจงใจให้คนในเผ่าไปตามหาเธอ เพราะเขารู้ว่าผู้อาวุโสตระกูลเหยาเป็นคนที่มีความเมตตาและใจอ่อน

เขาจะต้องบอกให้ยัยเด็กนี่ให้รีบหนีไปแน่ๆ…

ถ้าเธอหนีไปจริงๆ เขาก็ได้วางกับดักที่ๆ มังกรดำพิทักษ์อยู่ไว้แล้ว

แต่ถ้าเธอไม่หนี เธอจะต้องปรึกษาหารือเรื่องนี้กับผู้อาวุโสตระกูลเหยาแน่ๆ เขาก็จะใช้ประโยชน์จากตอนที่พวกเขาพยายามพูดคุยกันแล้ววางตาข่ายฟ้าดิน

ส่วนพวกเด็กๆ และผู้อาวุโสตระกูลเหยานั้น…

ในสายตาฝูอี้เฉินก็ไม่ได้ใยดีอะไรพวกเขา เขาให้โอกาสพวกเขาได้เลือกแล้ว และเขาก็มั่นใจว่าพวกเขาจะต้องรีบกลับมาอย่างไม่อิดเอื้อนแน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กหนุ่มคลุมเสื้อหนังสัตว์คนนั้น ก่อนหน้านี้ในสายตาของเด็กคนนั้นเต็มไปด้วยความเคารพเขาอย่างสุดซึ้ง และอาจจะรีบไปฆ่าเด็กหญิงที่บุกเข้ามาในดินแดนคนนั้นอย่างกล้าหาญเพราะคำพูดของเขาก็ได้

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดไม่ถึงก็คือลูกหลานของเผ่าแม่มดพวกนั้นไม่ขยับตัวเลยสักนิด!

แล้วก็ไม่ได้ไปลงมือสังหารซู่เป่า หรือว่ากลับมาหาเขาด้วย

แต่กลับไปยืนขวางอยู่ตรงหน้าซู่เป่า และพยายามปกป้องเธออีกด้วย แถมยังมาทำท่าขอความเมตตาแทนเธอด้วย?!

"ผู้พิทักษ์สุสานเต่าดำครับ ป้าสะใภ้ใหญ่ของเธอก็เป็นลูกหลานเผ่าแม่มดเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดบางอย่างกับพวกเราอยู่บ้าง อย่ามองเธอเป็นศัตรูเลยนะครับ?"

ผู้อาวุโสถอนหายใจ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะอยู่ข้างซู่เป่า

ไม่ใช่เพียงแค่รักษาชีวิตของตัวเองและพวกเด็กๆ แต่เพื่อรักษาชีวิตของพวกเผ่าแม่มดทุกคน

ผู้พิทักษ์สุสานเต่าดำไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซู่เป่าหรอก เขาหวังว่าจะสามารถประนีประนอมกันจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้าต่อสู้กัน

ดังนั้นเขาเลยพูดว่า "อย่ามองเธอเป็นศัตรูได้ไหม" ไม่ใช่ "อย่าฆ่าเธอได้ไหม" แทน …

แต่ไม่มีใครได้ยินเขาเลย

ด้านหลังฝูอี้เฉิน พวกคนจากเผ่าแม่มดหลายๆ คนตําหนิเขาว่า “นี่พวกเจ้าทรยศผู้พิทักษ์สุสานเต่าดำเหรอ? เธอก็แค่มนุษย์ที่บุกเข้าไปในดินแดนจิ่วโยว เธอไม่ควรมาอยู่ที่นี่!”

“ผู้พิทักษ์สุสานเต่าดำพูดถูก เป็นเพราะการมาถึงของเธอที่ทำให้ดินแดนจิ่วโยวชุลมุนวุ่นวายไปหมด สัตว์ปีศาจต้องอพยพ และสุดท้ายก็อาจจะเกิดสงครามปีศาจได้ หายนะชัดๆ เลย!”

เหยาจี๋เสียงโมโหหน้าแดงและเถียงกลับเสียงดังทันทีว่า “มันไม่ใช่แบบนั้นนะ! เธอก็แค่ไปจับสัตว์ปีศาจมาไม่กี่ตัวก็เท่านั้นเอง ไม่ได้ฆ่าพวกมันทั้งหมดเสียหน่อย สัตว์ปีศาจไม่มีทางอพยพหรือทำสงครามต่อสู้กันเด็ดขาด…”

แล้วก็ยิ่งไม่ทำให้เกิดหายนะในจิ่วโยว!

ลูกหลานของเผ่าแม่มดก็มักจะออกไปล่าเหมือนกันนี่…ไม่สิ ออกไปฝึกฝนหรือฆ่าสัตว์ปีศาจบ้างเหมือนกัน

มันไม่เหมือนกันตรงไหน?

แค่พี่สาวเป็นคนนอกจิ่วโยวก็ถึงขั้นทําให้เกิดหายนะเลยเหรอ?

ผู้อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยด้วยความโมโห "หุบปากเสีย! พวกเจ้าก็โดนหลอกง่ายเหลือเกิน แค่เธอบอกว่าป้าตัวเองเป็นลูกหลานเผ่าแม่มดก็ถือว่าเป็นเลยหรือไง?"

“พวกเรายอมรับเธอแล้วหรือไง?”

“หยุดมาทำเหมือนตัวเองมีความสัมพันธ์กับเผ่าแม่มดได้แล้ว! อย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเธอละเมิดกฎของดินแดนจิ่วโยว รวมถึงบุกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้ดินแดนจิ่วโยวเกิดหายนะได้หรอกนะ!”

ฝูอี้เฉินเห็นว่ามีผู้อาวุโสที่ภักดีหลายคนตะโกนด่าด้วยความขุ่นเคือง

แน่นอนว่าก็มีผู้อาวุโสอีกหลายคนที่เงียบและไม่ส่งเสียงอยู่เหมือนกัน

เนื่องจากเป็นเพราะคําสั่งของฝูอี้เฉิน พวกเขาเลยจําเป็นต้องมาด้วย แต่พวกเขาไม่อยากมาต่อล้อต่อเถียงด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน