ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1492

สรุปบท ตอนที่ 1492 เห็นแก่ประโยชย์ส่วนตนขั้นสุด: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน

สรุปตอน ตอนที่ 1492 เห็นแก่ประโยชย์ส่วนตนขั้นสุด – จากเรื่อง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดย ไอซ์

ตอน ตอนที่ 1492 เห็นแก่ประโยชย์ส่วนตนขั้นสุด ของนิยายนิยายวัยรุ่นเรื่องดัง ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน โดยนักเขียน ไอซ์ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าจิ่งจั้นจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง เย็นเยือกไปทั้งตัว

ประโยคนั้นยังดังก้องอยู่ในหู: เจ้ามีค่าพอไหม... เจ้ามีค่าพอไหม...

เขาอยากจะเถียง แต่ก็เถียงไม่ออก

จำนวนประชากรมหาศาล ชะตากรรมของสิ่งมีชีวิตหลายร้อยล้านชีวิต

ถ้าเป็นเขา เขาก็จะไม่แก้ไขระบบชะตากรรมทั้งสามชาติภพทั้งระบบเพราะคนที่ไม่สำคัญคนหนึ่งหรอก

เมื่อยอมรับความจริงข้อนี้แล้ว จิ่งจั้นก็พบว่าสิ่งที่เขาคิดว่าคือการฝืนชะตาฟ้าลิขิต ที่เขาคิดว่ามีคนแบบเขาไม่ถึงห้าคนในโลกใบนี้... ที่เขาคิดว่าเขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ก็เป็นเพียงสิ่งที่เขาคิดไปเองเท่านั้น

เขาไม่ได้ต่างอะไรจากคนอื่น!

เขาก็เป็นเพียงหนึ่งในบรรดาหลายร้อยล้านชีวิตที่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร

ความเชื่อของจิ่งจั้นพังทลายลงในชั่วขณะนั้น

เขาเดินโซเซถอยหลังไปสองสามก้าว สีหน้าซีดเซียว “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง...”

เขาคิดว่าเขาเป็นพระเอกนิยาย แต่ที่จริงก็แค่ตัวประกอบที่เดินผ่านไปผ่านมาเท่านั้น

ซู่เป่าพลิกดูสมุดบันทึกที่ส่องประกายแสงสีทองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เมื่อเข้าใจจุดนี้แล้ว งั้นก็มาพูดถึงเรื่องที่เจ้าบอกว่าปฏิบัติตามกฎหมายกันหน่อย”

“จิ่งจั้น เมื่อก่อนตอนที่เจ้าอายุเพียงเจ็ดแปดขวบหรือสิบขวบ เจ้าก็มีเงินมากมายจนใช้ไม่หมดแล้ว”

“ดูเหมือนมีกันแค่สองพี่น้อง ต้องแต่อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ สองห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่น”

“แต่เจ้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่มีภูมิหลังไม่มีที่พึ่ง และก็ไม่ได้ทำธุรกิจ ไม่ได้ทำงาน... แล้วเจ้าไปเอาเงินหลายล้าน หลายสิบล้านมาจากไหน”

ตอนนั้นเมื่อตอนที่จิ่งจั้นมาขอซื้อน้ำในสระน้ำเยือกเย็นกับซู่เป่า เขาเอ่ยปากมาก็เริ่มต้นที่หนึ่งล้านขึ้นไปแล้ว

เด็กที่ไม่มีที่พึ่งและไม่มีรายได้ ไปเอาเงินล้านมาจากไหน?

จิ่งจั้นเผยอปาก “ฉัน...”

ซู่เป่าช่วยพูดแทนเขาว่า “เจ้าไปขโมยเงินของคนอื่นมาใช่ไหมล่ะ”

จิ่งจั้นขมวดคิ้ว “เธอพูดแบบนั้นก็น่าเกลียดเกิน ฉันเอาแต่เงินที่พวกข้าราชการทุจริตพวกนั้นไม่ควรรับ เงินที่คนรวยพวกนั้นได้มาโดยไม่สุจริต อย่างมากก็แค่ปล้นรวยไปช่วยคนจน”

เขาแค่เอาเงินที่คนอื่นไม่ควรเอาไป จะบอกว่าขโมยได้ยังไง?

นี่มันคือสิ่งที่พวกเขาสมควรโดนไม่ใช่เหรอ?

ซู่เป่าหัวเราะ “ใช่เหรอ? เจ้าไม่คิดว่าเจ้าทำผิดจริงๆ เหรอ?”

จิ่งจั้นยืนหยัดแน่วแน่ “ฉันไม่ผิด! และอีกอย่างเวลาว่างฉันก็ไปช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายและแก้ปัญหาทุกข์ใจให้คนอื่น หาเงินเอง!”

ซู่เป่าหัวเราะเยาะ “งั้นข้าจะยกตัวอย่างง่ายๆ นะ ข้าราชการทุจริตเมืองเมืองหนึ่ง นามสมมุติหลี่ รับสินบนจำนวนมาก เงินที่ได้รับมาถูกซ่อนไว้ในกําแพงบ้านและใต้ที่นอน”

“หน่วยปฏิบัติการพิเศษมีหลักฐานแน่นหนา จึงบุกไปจับเขาที่บ้านในตอนกลางคืน เตรียมตัวจะจับให้ได้พร้อมของกลาง ปิดคดี”

“แต่เพราะเจ้าแอบเอาเงินเหล่านี้ไป หน่วยปฏิบัติพิเศษจึงคว้าน้ำเหลว ถึงจะเชื่อได้ยาก แต่ต้องปล่อยข้าราชการทุจริตคนนั้นไปเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ”

จิ่งจั้นขัดจังหวะเธอ “นั่นมันไม่ใช่ความผิดของฉันสักหน่อย... อีกอย่างข้าราชการที่ทุจริตคนนั้นก็เลิกทุจริตลงเพราะเหตุนี้ ก็เท่ากับฉันได้ทำความดีไม่ใช่เหรอ”

ซู่เป่า “ใช่เหรอ? ข้าราชการทุจริตคนนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปโดยไม่ได้รับการลงโทษตามที่สมควรได้รับ”

“เปลี่ยนจากมัธยัสถ์เป็นฟุ่มเฟือยนั้นง่าย แต่เปลี่ยนจากฟุ่มเฟือยเป็นมัธยัสถ์นั้นเป็นเรื่องยาก เขาไม่ได้เลิกทุจริตเพราะเหตุนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเพราะสูญเสียเงินจำนวนมาก เลยทุจริตมากกว่าเดิมและแนบเนียนมากขึ้น”

“เจ้าช่วยเหลือคนชั่วให้ทำสิ่งชั่วร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้คนนับไม่ถ้วนที่ควรจะได้รับผลตอบแทนจากความพยายามของตัวเองต้องเสียแรงเปล่า ทำให้คนนับไม่ถ้วนได้รับความอยุติธรรมหรือกระทั่งต้องมาตายเพราะเหตุนี้

แล้วเจ้ากลับยังรู้สึกว่าตัวเองเหมือนวีรบุรุษในสมัยโบราณที่ปล้นรวยไปช่วยคนจนอีก?!”

เขาให้เธอช่วยดูแลน้องสาว เป็นค่าตอบแทน เขาก็ปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นแฟน และตอบสนองความต้องการของเธอ

เขาผิดตรงไหนอีกล่ะ?

ซู่เป่าได้ค้นพบแล้วว่า คนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนขั้นสุดจะไม่เคยคิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัว คิดเอาเองว่ามันเป็น “การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม” แล้วรู้สึกสบายใจว่าทุกอย่างเท่าเทียมกัน

“เขาชอบเจ้า แต่เจ้ากลับไปเอาชีวิตของเขา” ซู่เป่าหัวเราะเย็นชา “หลอกใช้เธอ เอาผีร้ายมาควบคุมเธอ นี่เรียกว่าต่างคนต่างได้เหรอ?”

“ก่อนหน้านี้เจ้าเคยถามเขาไหมว่าเขายอมให้เอาผีร้ายไปไว้บนหัวไหม เต็มใจถูกคุณควบเจ้าไหม ยอมตายแทนน้องสาวเจ้าหรือเปล่า?”

เคยถามไหม?

ไม่เคย!

จิ่งจั้นก็รู้ดีว่า ถ้าถามไปอีกฝ่ายจะต้องไม่ยอมแน่นอน

เขาวางแผนทุกอย่างอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การพบกันโดยบังเอิญ สร้างสถานการณ์ชวนใจเต้น ทําให้ต้วนเหม่ยซวนติดกับดักโดยไม่เอะใจตัวเลย...

ซู่เป่าพูดว่า “ตัวอย่างแบบนี้ ไม่ถึงห้าก็คงมีสี่แหละมั้ง? แตกต่างกันตรงที่ว่าคือถูกจับได้หรือไม่เท่านั้นเอง”

ซู่เป่าปิดสมุดบันทึก เธอรู้ว่าการพิจารณาคดีของจิ่งจั้นสิ้นสุดลงตรงนี้แล้ว

“เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้รังแกคนอ่อนแอ ไม่ได้ทำอะไรตามอำเภอใจ แต่สิ่งที่เจ้าทำไปก็คือการทำตามใจตัวเองทั้งนั้น”

“เจ้าบอกว่าเจ้าปฏิบัติตามกฎหมาย แต่เจ้าก็ทำสิ่งที่ที่ทำลายขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมในโลกมนุษย์ไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่”

“ฝืนชะตาฟ้าลิขิต... เจ้าฝืนชะตาคนอิ่น เปลี่ยนชีวิตคนอื่น อะไรที่ไปเอาของคนอื่นมา สุดท้ายก็ต้องคืนให้เขา ตอนนี้เจ้าเข้าใจหรือยัง”

ซู่เป่ายกพู่กันขึ้นมา และกล่าวคำตัดสินว่า “บาปของการหน้าซื่อใจคดเป็นบาปมหันต์ บาปจากการเสแสร้งทำดียิ่งหนักกว่า รบกวนกฎเกณฑ์ของโลกมนุษย์ตามอำเภอใจ ลงโทษให้ไปลงนรกสิบชั้น ถ้ารอดชีวิตมาได้ ชาติหน้าก็ให้ไปเกิดเป็นชีวิตที่จนใจและ ไม่มีทางเลือกเป็นของตัวเอง”

พอคําตัดสินออกมา สีหน้าของจิ่งจั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน