ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 1513

เหยาหลิงเยว่กลุ้มใจ แผลยังไม่ทันหายดีเลยก็เป็นเพิ่มอีกแล้ว แต่เธอไม่สนใจ

พวกผู้อาวุโสถูกปลุกจนตื่น เหยาหลิงเยว่เห็นว่าซู่เป่าไม่ได้อยู่ที่นี่

“ซู่เป่าล่ะ?” เธอถามด้วยความรีบร้อน

พวกผู้อาวุโสตอบด้วยความประหลาดใจว่า “ไม่รู้เหมือนกัน…”

อาศัยช่วงเวลาที่ด่านเคราะห์อัสนีบาตรครั้งที่สองยังไม่ได้ผ่าลงมา เหยาหลิงเยว่ก็พูดขึ้นมาว่า “ไป! รีบไป!”

ผู้อาวุโสไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขารีบคว้าแขนพาพวกจี๋เสียงหรูอี้ออกไป

เหยาหลิงเยว่คิดในใจว่าซู่เป่าน่าจะอยู่ในห้องตรงข้างหลังลานบ้าน

เธอกำลังรีบจะออกไป แต่ก็คิดในใจว่าถ้าเป็นด่านเคราะห์อัสนีบาตของเธอจริงๆ แล้วเธอพุ่งตรงไปหาซู่เป่าละก็ ด่านเคราะห์อัสนีบาตรก็คงจะพุ่งไปหาซู่เป่าเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นเหยาหลิงเยว่ก็เลยหันหลังแล้ววิ่งไปอีกทางเพื่อออกจากลานบ้าน

แต่ใครจะไปรู้ด่านเคราะห์อัสนีบาตรราวกับไม่อยากให้เธอออกไป ฟ้าผ่าดังเปรี้ยงเข้าที่เธอจนทำเอาเธอกระเด็นออกไปอยู่ที่ลานบ้านเหมือนเดิม…

เหยาหลิงเยว่ตะลึง นี่เป็นด่านเคราะห์อัสนีบาตของเธอจริงๆ เหรอ?

ถ้าไม่ใช่ด่านเคราะห์อัสนีบาตของเธอล่ะก็ ตามหลักแล้วเธอก็น่าจะออกจากเขตลานบ้านไปแล้ว และก็น่าจะไม่ผ่ามายังตัวเธอ

ในขณะนั้นเองผู้อาวุโสและพวกจี๋เสียงหรูอี้ก็ได้ออกจากบริเวณลานบ้านกันหมดแล้ว พวกเขายืนอยู่ในที่ห่างๆ ก็เลยไม่ได้โดนฟ้าผ่าไปด้วย

ด่านเคราะห์อัสนีบาตไม่ได้ไล่ตามผู้อาวุโสและพวกเหยาจี๋เสียง แต่มันกลับไล่ตามเธอ…

ถ้าพูดให้ถูกก็คือ มันกำลังไล่บี้เพื่อให้เข้าใกล้ซู่เป่า

สมองของเหยาหลิงเยว่ไม่เคยตื่นตัวขนาดนี้มาก่อน!

เธอลุกขึ้นมาอย่างสั่นเทา และพยายามคลานออกจากบริเวณลานบ้าน…

ด่านเคราะห์อัสนีบาตนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และค่อยๆ ผ่ามาที่ตัวเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

เหยาหลิงเยว่รู้สึกเหมือนว่าแขนของเธอจะหายไป ส่วนเท้ายังอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้

เธอพยายามคลานออกไปอย่างยากลำบาก ต้องออกจากลานบ้านนี้ให้ได้!

ตอนที่ซืออี้หรันได้ยินเสียงฟ้าผ่า เขาก็ลืมตาขึ้นมาทันที

ซู่เป่าต้องฝ่าด่านเคราะห์อัสนีบาตอีกแล้วเหรอ?!

เขารีบเตรียมตัวให้เธอทันที มันเป็นเรื่องปกติมากสำหรับการเลื่อนขั้นในการฝ่าด่านเคราะห์ของซู่เป่า และคนอื่นๆ ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มาก

แต่เขาสามารถเตรียมอาวุธป้องกันให้เธอเยอะๆ ไว้ก่อนได้ และการไม่สามารถขัดขืนด่านเคราะห์อัสนีบาตก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการประสบความสําเร็จด้วยเหมือนกัน

ผ่านไปไม่นาน ซืออี้หรันก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ!

ซู่เป่ายังคงอยู่ในสภาวะหยั่งรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเธอเงียบสงบและไม่มีสัญญาณของการจะฝ่าด่านเคราะห์อัสนีบาตเลยสักนิด!

ตัวเธอเองไม่มีวี่แววที่จะตื่นขึ้นมาเลย…

ซืออี้หรันขมวดคิ้ว รีบออกไปตรวจสอบดู แต่ก็เห็นแค่จือจือและเฟยเหมาถุ่ยวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน

“จือจือ! จือจือ!”

【รีบไปกันเถอะ!】

จือจือและเฟยเหมาถุ่ยร้อนรน

ในขณะเดียวกันซืออี้หรันก็เพิ่งเห็นภาพที่เหยาหลิงเยว่บอกให้พวกผู้อาวุโสออกไป และตัวเธอเองก็ถูกด่านเคราะห์อัสนีบาตโจมตีในครั้งแรก

ด่านเคราะห์อัสนีบาตของเหยาหลิงเยว่งั้นเหรอ?

ซืออี้หรันรู้ดีว่าตอนที่กำลังฝ่าด่านเคราะห์อัสนีบาตนั้น คนอื่นไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงหรือยุ่งเกี่ยวได้ ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถช่วยได้ แต่ยังอาจเพิ่มอันตรายและความยากลําบากให้กับผู้ที่กำลังฝ่าด่านเคราะห์ด้วย

เขาก็เลยรีบกลับเข้าไปในห้องแล้วอุ้มซู่เป่าออกไปทันที

**

เสียงพายุหิมะพัดผ่านหูเธอ

ซู่เป่ารู้สึกหนาวมาก!

เนื้อตัวเจ็บไปหมด…

ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยและราวกับกำลังด่าเธออยู่ข้างหูว่า "คุกเข่าอยู่ตรงนี้แหละ! น้าแกออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ แกก็ค่อยลุกขึ้นมาเมื่อนั้นแหละ!”

ซู่เป่ารู้สึกคุ้นเคยยังไงบอกไม่ถูก…

【ซู่เป่า…! ซู่เป่า!】

ไม่รู้ว่าใครกำลังเรียกเธออยู่

ซู่เป่าลืมตาขึ้นมาอย่างยากลําบาก แต่เปลือกตาของเธอเหมือนบวมมากจนลืมตาไม่ได้

ในที่สุดเธอก็ลืมตาขึ้นมาได้ และมองเห็นโทรศัพท์สีดําเครื่องหนึ่ง

โทรศัพท์อันนี้ก็ดูคุ้นเคย…

ซู่เป่ามองดูโทรศัพท์อย่างตะลึงงัน จากนั้นก็เห็นกระต่ายน้อยที่ถูกทุบตีอยู่ข้างๆ…

ลมหิมะพัดผ่านตัวเธอไป เธอนอนอยู่กลางหิมะ หนาวจนตัวสั่น

ซู่เป่าก้มหัวลงอย่างยากลำบาก และมองเห็นชุดนอนบางๆ ที่มีรอยเย็บซ่อมแซมบนตัวเธอ

และมือของเธอคู่นี้ก็ไม่ใช่มือที่เพิ่งจิ้มจุ่มหม้อไฟไปเมื่อกี้ เพราะมันดูเล็กกว่านั้นมาก

นี่คือ…หน้าตาตอนที่เธออายุสามขวบนี่นา!

ซู่เป่าเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ เธอมองเห็นอาคารที่อยู่กลางพายุหิมะ ซึ่งนั่นก็คือบ้านตระกูลหลิน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน