"นี่หนูจะไปบ้านตระกูลซูเหรอ?”
ซู่เป่ามองดูพ่อที่สวมชุดดําและยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าเขา เขาไม่รู้จักเธอก็ไม่เป็นไร เธอจะจำเขาไว้อยู่ในใจเสมอมา
ลุงชุดดำนั่งลงอย่างจนใจ เขานั่งกดศอกลงบนเข่าแล้วค่อยๆ โน้มตัวมองมาที่เธอ
"ซู่เป่า" เขาพูดอย่างจริงจังว่า "ไม่มีตระกูลซูที่อยู่ในเมืองจิงตูอะไรทั้งนั้นแหละ ตระกูลซูไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับหนู แถมพวกเขาก็ไม่เคยมาหาหนูด้วย"
ลุงชุดดําขมวดคิ้ว "ถ้าหนูยังเป็นแบบนี้อีก มันจะไม่เป็นผลดีกับหนูนะ!”
ซู่เป่าถามเขาว่า “ตรงไหนที่ไม่เป็นผลดี?”
คนที่อยู่ตรงข้ามพูดจาอึกๆ อักๆ แต่สุดท้ายก็พูดออกไปตรงๆ ว่า “หนูอาจจะถูกส่งไปโรงพยาบาลจิตเวชก็ได้นะเพราะเขาอาจคิดว่าหนูเป็นโรคจิตเวช”
ซู่เป่า: "..."
พวกเขาต่างก็คิดว่าเธอกำลังเพ้อฝัน
ทุกคนต่างคิดว่าที่เธอเปลี่ยนไปขนาดนี้เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลินไปกระตุ้นเธอเข้า
ซู่เป่าก้มมองที่ปลายเท้าของตัวเอง
มือของเธอดูว่างเปล่า ไม่มีกระต่ายน้อยให้อุ้ม หรือเสี่ยวอู่แล้ว…ดูโดดเดี่ยวเดียวดาย
"ขอบคุณค่ะพ่อ" เธอเอ่ย "หนูรู้แล้วว่าควรทํายังไง"
ลุงชุดดําขมวดคิ้ว แต่ขณะนั้นจู่ๆ ก็มีคนเรียกเขา “แล้วหมวดมู่ล่ะ?! มู่กุยฝาน!”
มู่กุยฟานลุกขึ้นแล้วลูบหัวเธอ "เด็กดี รอลุงอยู่ตรงนี้นะ"
ซู่เป่าตอบอื้ม แต่พอเขาจากไป ก็แอบออกมาจากสถานีตํารวจคนเดียวเงียบๆ
ไม่มีประโยชน์หรอก ต่อให้อยู่รอพ่ออยู่ที่นี่ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
เธอเกือบจะลืมหน้าตาของลุงใหญ่และตายายแล้วว่าเป็นยังไง
เธอต้องไปที่เมืองจิงตูให้ได้ แต่เธอก็รู้ดีว่าพ่อของเธอไม่มีทางยอมให้เธอไปแน่นอน
และหนทางในการไปเมืองจิงตูก็ดูเหมือนจะมีอุปสรรคขวางกั้นอยู่มากมาย!
ซู่เป่าออกจากสถานีตํารวจ ตั้งใจมองหาเส้นทางของรถเมล์เพื่อไปที่สถานีรถไฟ
เพิ่งจะขึ้นรถไปไม่นาน เธอก็ถูกคนขับถามและถึงขั้นบอกว่าจะโทรหาผู้ปกครองของเธอ
ซู่เป่าทำได้แค่ลงจากรถ
เธอพยายามมาหลายครั้งแต่ก็เป็นแบบนี้ทุกที คนขับไม่อนุญาตให้เธอขึ้นรถ
ไม่มีทางเลือก ซู่เป่าทําได้แค่เดินทางด้วยเท้า เดินจนกระทั่งรองเท้าของเธอสึกหมดแล้ว หิมะที่หนาวเย็นทําให้นิ้วเท้าของเธอแข็งจนไม่รู้สึกอะไร
"ฤดูหนาวอีกแล้วสินะ..."
ซู่เป่าหายใจหอบ และมองเกล็ดหิมะที่ตกลงมาจากท้องฟ้า
"ไม่เป็นไร ไม่ว่าจะมีหิมะตกหนักขนาดไหน ฉันก็จะต้องไปถึงให้ได้"
ร่างเล็กๆ อายุสี่ขวบกว่าสวมเสื้อผ้าฝ้ายเก่าๆ ที่ไม่ให้ความอบอุ่นอะไร กำลังเดินเท้าไปที่สถานีรถไฟ
เธอรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่มีทางขึ้นเครื่องบินได้
แต่การนั่งรถไฟอาจยังพอมีโอกาส แต่ว่าสถานีรถไฟปัจจุบันก็มักจะมีการตรวจตั๋วอยู่ทุกที่เพื่อเอาไว้ตรวจสอบผู้คน แต่กซู่เป่าก็ยังคงแอบเข้าไปอย่างต่อเนื่อง และถูกนําตัวออกมา จากนั้นก็มีการแจ้งตํารวจถูกนําตัวไปไปครั้งซ้ำไปซ้ำมา
แต่คราวนี้ได้มาสถานีตํารวจที่อยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟ ซู่เป่าก็เลยแอบหนีออกมาได้อย่างรวดเร็ว
เป็นช่วงตรุษจีนพอดีเลย ที่บ้านของตระกูลซูดูคึกคัก มีเสียงหัวเราะคิกๆ คักๆ ดังออกมา
จมูกของซู่เป่าอยู่ๆ ก็ฟึดฟัดขึ้นมา
"นี่หนูเป็นใครน่ะ!" ยามสวมเสื้อโค้ทหนาๆ มองมาที่เด็กที่สวมเสื้อผ้าบางๆ ด้วยความประหลาดใจ
ซู่เป่ายิ้มยิงฟัน "อาหนิว..."
อาหนิวถึงกับประหลาดใจ เพราะเขาก็ไม่รู้จักเธอ
ซู่เป่าทนไม่ไหวแล้ว ปากเธอสั่นไม่หยุด สุดท้ายก็ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็เป็นลมล้มไป
"ซู่เป่า...ซู่เป่า!"
มีเสียงดังขึ้นข้างหูเธออีกครั้ง
ซู่ป่ารู้สึกหนักตา
พอเธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นกําแพงสีขาวโพลน ในใจเธอรู้สึกตุ้มๆ ต่อมๆ คิดว่าตัวเองกลับมาที่เมืองหนานเฉิงซะแล้ว
โชคดีที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย "เด็กน้อย หนูเป็นลูกของใครเอ่ย? ทำไมถึงมาอยู่ที่หน้าบ้านของพวกเราล่ะ”
ซู่เป่าหันหัวกลับไปอย่างรวดเร็ว!
เธอเห็นคุณยายคลุมผ้าคลุมไหล่หนาๆ ในมือถือชามข้าวต้มและมองมาที่เธอด้วยความเป็นห่วง
ข้าวต้มร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมของข้าวผสมกับกลิ่นอายบนตัวของคุณยายที่ทําให้รู้สึกสบายใจ ทำเอาซู่เป่าถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
"คุณยาย...คุณยาย!"
เธอร้องไห้จนหายใจไม่ออก "คุณยาย หนูคือซู่เป่าเองค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...