ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 154

เห็นซู่เป่าร้องบอกเพื่อนว่า “นี่พ่อฉัน” ซูอิ๋งเอ่อร์เจ็บใจขึ้นมา

เขาพ่นลมหายใจยกมือขึ้นบอกว่า “ฉันเอง!”

ลุงห้าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เขาเองอยู่ในไซต์ก่อสร้างมาตั้งหลายปี ร่างกายกำยำ จะสู้มู่กุยฝานไม่ได้เชียวหรือ?!

เด็ก ๆ เห็นว่าผู้ร้ายออกมาอีกแล้ว ทันใดก็โห่ร้องดังขึ้นกว่าเดิม “ครูฝึกมู่ สู้ๆ! ครูฝึกมู่ สู้ๆ!”

“เอาชนะผู้ร้ายให้ได้! อัดเขาให้น่วม!”

ซู่เป่ามองพ่อแล้วก็มองลุงห้า

ไม่มีใครให้กำลังลุงห้าเลย

ดังนั้นเจ้าตัวเล็กจึงตะโกนขึ้นมาสุดเสียง “ครูฝึกมู่ สู้ ๆ! ผู้ร้ายสู้ ๆ!”

พอเห็นซู่เป่าตะโกน หานหานก็ตะโกนตาม “สู้ ๆ! สู้ ๆ! สู้ตาย!”

เด็กคนอื่นพากันงง นี่มันอะไรกันนี่?

ซู่เป่ามองไปที่ซูอิ๋งเอ่อร์แล้วอธิบายว่า “เขาไม่ใช่ผู้ร้ายจริง ๆ แต่เป็นลุงห้าของเราเอง!”

เด็กเข้าใจทันที

ซูอิ๋งเอ่อร์ตัดประโยคหน้าของซู่เป่าทิ้งไปอัตโนมัต ได้ยินแค่ประโยคที่ว่า “ผู้ร้ายสู้ ๆ” เขายักคิ้วหลิ่วตา รู้สึกว่าตัวเองมีพลังเต็มเปี่ยม ตอนนี้ต่อให้ล้มวัวสักตัวยังไหวเลย!

“มาเลย!”

ซูอิ๋งเอ่อร์หักข้อนิ้ว กวนโมโหเสียไม่มี

ท่าทางของคำบอกได้คำเดียวว่าทำเท่

แต่วินาทีต่อมาก็โดนมู่กุยฝานจับข้อมืออย่างกะทันหัน จากนั้นก็โดนพลิกตัวข้ามบ่าฟาดลงพื้นดังตุ๊บ!

มู่กุยฝานจู่โจมเร็วมาก ทุกคนยังไม่ทันได้มองชัด ๆ ผู้ร้ายก็ผ่ายแพ้ไปเสียแล้ว

เด็ก ๆ พากันปรบมือเสียงดัง เด็กผู้หญิงมองมู่กุยฝานเหมือนได้เห็นซุปเปอร์ฮีโร่ สายตาของเด็กผู้ชายมองมู่กุยฝานเหมือนเห็นอุลตร้าแมน

ซูอิ๋งเอ่อร์โกรธหน้าแดง เขาพูดเสียงดังว่า “เอาใหม่ ๆ เขาเล่นทีเผลอ ไม่นับ”

มู่กุยฝานเลิกคิ้ว “ได้”

ซูอิ๋งเอ่อร์ลุกขึ้นมา เห็นว่ามู่กุยฝานหันหลังเดินไปทางซู่เป่า

ทหารไม่ถือเรื่องการหลอกล่อศัตรู

ซูอิ๋งเอ่อร์พุ่งเข้าไปอย่างไว เตรียมจะล้มมู่กุยฝานจังหวะที่เขาเผลอ!

มู่กุยฝานเหมือนจะไม่เห็น เด็ก ๆ พากันตะโกนด้วยความตกใจ โบกไม้โบกมือมั่วไปหมด “ข้างหลัง... ข้างหลัง!! นี่...”

ซูอิ๋งเอ่อร์เผยรอยยิ้มของผู้ชนะ...

แต่มือเพิ่งโดนตัวมู่กุยฝานก็ได้ยินเสียงดังตุ๊บ เขาหมุนคว้างกลางอากาศ แล้วก็ลงไปนอนกับพื้นตามเคย

“...”

มีเด็กผู้ชายตื่นเต้นจนกระโดดขึ้นมา

“เจ๋งเป๋ง” เด็กอนุบาลสามที่รู้ภาษาระดับสูงของมนุษย์ ตะโกนออกมารวดเดียว “เชร้ดเข้! เจ๋งเป๋ง! สุโค่ย!”

ป่าปี๊มู่เป็นที่โดงดังในรงเรียนอนุบาล ซูอิ๋งเอ่อร์เป็นบทเรียนด้านลบ ไม่ว่าจะพุ่งเข้าไปท่าไหน สุดท้ายก็ล้มลงไปกองกับพื้นท่าเดิมทุกที

เขาแทบกระอักเลือดอยู่แล้ว!

การอบรบฝึกซ้อมการป้องกันตัวครั้งนี้ เด็ก ๆ สนุกจนรู้สึกว่ายังไม่พอ ตอนต่อแถวกลับเข้าห้องเรียนเด็กบางคนก็ทำท่าเลียนแบบมู่กุยฝานขึ้นมา อิจฉาที่ซู่เป่ามีพ่อแบบนี้

ตอนนี้เองซู่เป่าก็กำลังโบกมือลาคุณพ่อกับลุงห้าอยู่

สายตาของเจ้าตัวเล็กเป็นประกายวิบวับไปด้วยความชื่นชมนับถือ “คุณพ่อเก่งจังเลย!”

มู่กุยฝานยื่นมือไปลูบหัวน้อย ๆ ของเธอ ยิ้มน้อย ๆ “อืม”

พอเห็นว่าลุงห้ายืนกอดอกท่าทางอารมณ์ไม่ดี ซู่เป่าก็พูดต่อว่า “ลุงห้าแสดงเป็นผู้ร้ายได้ดีมากเลย เก่งมากเหมือนกันค่ะ”

“ถ้าเป็นผู้ร้ายคนอื่นคงโดนทุ่มหน้าบวมจมูกเขียวไปแล้ว แต่ลุงห้ายังหล่ออยู่เลย!”

ซู่เป่าคิดว่าลุงห้าเก่งมากจากใจจริง กดไลค์ให้รัว ๆ เธอชมจากใจ

ซูอิ๋งเอ่อรืหายอารมณ์เสียทันที รีบพูดว่า “จริงเหรอ?”

ซู่เป่าพยักหน้ายืนยัน “จริง ๆ”

ซูอิ๋งเอ่อร์ยิ้มกว้าง สบายใจขึ้นเยอะ

ดูสิ หลานสาวชมเขาด้วย!

ชมว่าเขาแสดงเป็นผู้ร้ายได้ดีมาก!

ลุงห้ากลับไปด้วยความปลื้มปริ่ม

ซู่เป่ายุติธรรมกับทุกคน ทำกับทุกคนแบบเดียวกันเป๊ะโดยไม่ตั้งใจ...

**

มู่กุยฝานกลับไปจัดการอะไรนิดหน่อย ดูเวลาก็เห็นว่าซู่เป่าเลิกเรียนพอดี

เขาเปลี่ยนชุด ขับรถไปรับซู่เป่า

เดิมที่มู่กุยฝานคิดว่าเขาขับไม่เกรงใจใครแล้ว คิดไม่ถึงว่าบนถนนจะมีรถคันหนึ่งขับเบียดผ่านรถเขาไป หญิงสาวยกมือขึ้นมาท่าทางตื่นตนก “ขอโทษค่ะ ๆ...”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงรถก็ขับผ่านไปดังฟิ่ว

มู่กุยฝานยักคิ้ว

เขามองไม่เห็นผี ดังนั้นจึงไม่เห็นซูจิ่นอวี้ที่เกาะอยู่บนตัวซูเสี่ยวอวี้...

เขาเห็นรถคันนั้นขับเซไปเซมาเป็นรูปตัวเอสแซงรสอีกสองคันไปถึงจะจอด รถบนถนนก็เยอะ แต่เธอกลับไม่เป็นอะไรเลย

มู่กุยฝานเอาแขนพาดบนขอบหน้าต่าง เอียงคอเล็กน้อย “จุ๊ ๆ ขับเก่งชะมัด!”

ขณะเดียวกันบนรถคันข้างหน้า ซูเสี่ยวอวี้พูดในใจเกือบไปแล้วเชียว

รถเธอดันมาเบรกแตกได้ แต่ที่ประหลาดก็คือ เธอกลับไม่เป็นอะไรเลย

“อัศจรรย์มาก...” ซูเสี่ยวอวี้พึมพำ “นี่นับว่าโชคดีหรือโชคร้าย??”

ถ้าโชคดี รถดี ๆ อยู่แท้ทำไมจู่ ๆ เบรกแตกได้

ถ้าโชคร้าย เบรกแตกในที่ที่รถเยอะขนาดนี้ แต่ทำไมเธอไม่เป็นไรเลย...

ซูเสี่ยวอวี้เอารถเข้าจอดที่ไหล่ทาง แล้วโทรศัพท์

เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดี ๆ ก็ลิ้นพันกัน พูดผิดพูดถูก “ฮัลโหล ใช่ร้านเสอีสไหมคะ... เอ่อไม่ใช่สิ ใช่ร้าน 4S ไหมคะ?”

ซูเสี่ยวอวี้อึ้งไปชั่วขณะ ร้านเสอีสเธอพูดออกมาได้ไงเนี่ย?

**

ตอนที่มู่กุยฝานมาถึงโรงเรียนอนุบาล เป็นเวลาเพิ่งเลิกเรียนพอดี

ระหว่างที่ซู่เป่าเดินมา มีเด็ก ๆ มาทักทายเธอมากมาย

“ฮาย สวัสดีซู่เป่า เราชอบพ่อของเธอมากเลย คราวหน้าชวนพ่อเธอไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกันสิ”

ซู่เป่า ๆ เราไปด้วยกันเถอะ ฉันก็นั่งรถโรงเรียนเหมือนกัน”

“ซู่เป่า อันนี้เราให้” มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมา ยัดอมยิ้มให้เธอ จากนั้นทำตาลุกวาว “พ่อเธอชอบการ์ดอุลตร้าแมนไหม?”

ซู่เป่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง “น่าจะชอบมั้งนะ”

เหมือนว่าผู้ชายก็จะชอบอุลตร้าแมนกันทั้งนั้นหรือเปล่า?

เด็กชายคนนั้นดีขึ้นมาทันที “งั้นคราวหน้าเราจะเอาการ์ดอุลตร้าแมนมาให้พ่อเธอนะ”

เด็กผู้ชายอีกหลายกรูกันเข้ามาถามซู่เป่าเจ๊าะแจ๊ะเกี่ยวกับเรื่องมู่กุยฝาน

ในขณะที่กำลังคุยกันอยู่นั้น ก็เห็นมู่กุยฝานยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียน มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง

เด็กชายคนที่บอกว่าเขาจะมอบการ์ดอุลตร้าแมนให้มู่กุยฝานก็ร้องว้าวทันที "ดูสิ นั่นครูฝึกมู่!"

เด็กทั้งกลุ่มรีบวิ่งกรูกันออกไป

พวกคุณครูรีบเข้าไปดึงตัวไว้ เม็ดเหงื่อผุดบนหน้าผาก

ซู่เป่าประหลาดใจ ว้าว พ่อของเธอได้รับความนิยมมากขนาดนี้เชียว!

ตอนนี้เองหานหานวิ่งเข้ามาจับมือซู่เป่า “เกิดอะไรขึ้น?”

ก็เห็นว่าด้านหน้ามีเด็กกลุ่มหนึ่งห้อมล้อมรอบตัวมู่กุยฝานที่ตัวสูงโย่ง ถามคำถามทีละคน

เด็กชาย ก. “สวัสดีครับครูฝึกมู่! ผมชอบคุณครับ ครูฝึกมู่!”

มู่กุยฝาน “...”

เด็กชาย ข. “ครูฝึกมู่ ผมอยากจะถามหน่อยครับ ทำไมครูฝึกตัวสูงจังครับ”

เด็ก ๆ ที่ชื่นชอบฮีโร่ต่างก็ชื่นชมความสูงของมู่กุยฝานขึ้นมาด้วย

มู่กุยฝานส่งเสียงอืม “กินข้าวให้ตรงเวลา เข้านอนให้ตรงเวลา กินของว่างให้น้อยลง และอ่านหนังสือพิมพ์ให้มาก ๆ”

เด็กชาย ค. ตกตะลึง “จริงเหรอครับ แม่ผมก็บอกผมแบบนี้ แต่ผมไม่เคยเชื่อเลย”

จะกลับบ้าน กินข้าวแล้วนอนเดี๋ยวนี้เลย!

พอหลุดออกมาได้ มู่กุยฝานก็จับมือซู่เป่าและถามว่า “วันนี้อยู่ที่โรงเรียนรู้สึกยังไงบ้างลูก หนูสนุกไหมคะ?”

ซู่เป่า “เยี่ยมมากเลยค่ะ! พ่อขาหนูอยากกินไอติม!”

หานหานยกมือขึ้นทันที “อาค่ะ หนูก็อยากกินค่ะ!”

มู่กุยฝานโบกมือแล้วยัดเด็กน้อยทั้งสองเข้าไปในรถ “ไป! กินไอติมกัน!”

รถออฟโรดคันหล่อพุ่งตัวออกไปแล้ว ทิ้งสายตาอิจฉากลุ่มหนึ่งไว้ข้างหลัง...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน