ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 155

ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล

ด้านข้างของรถขายไอศครีมสีสันสดใส มีผู้ใหญ่หนึ่งคนกับเด็กอีกสองคนยืนอยู่

ซู่เป่าเกาะอยู่บนตู้กระจก กลั้นน้ำลายไม่ให้ไหลออกมา “น้าคะหนูเอาลูกโยเกิร์ตลูกนึง สตรอว์เบอร์รี่ลูกนึง มะม่วงลูกนึง!”

น้าคนขายไอศครีมหยิบช้อนตักไอศครีมขึ้นมา แล้วลงมือตักตามรสชาติที่เธอสั่ง แต่ละช้อนที่ตักลงไป ตักออกมาทั้งกลมทั้งใหญ่ ถ้วยไอศครีมอัดแน่นไปด้วยไอศครีมสามลูกสามสี

ซู่เป่ารับมาปุ๊ปก็กัดงั่มเข้าไปคำหนึ่งก่อนยื่นให้หานหาน

หานหานกำลังมองไปที่ไอศครีมในรถขายไอศครีมตาเป็นประกายพลางโบกมือและพูดว่า “ไม่ ๆ ฉันจะเลือกเอง!”

ซู่เป่ายื่นไอศครีมขึ้นสูง ๆ “ครูฝึกมู่คะ อั้ม!”

มู่กุยฝานขำ เขาก้มลงไปกัดคำเล็ก ๆ คำหนึ่งแล้วเอานิ้วแตะจมูกของเธอ “เรียกพ่อสิคะ”

ซู่เป่า “พ่อ!”

มู่กุยฝานอดยิ้มมุมปากไม่ได้ ยิ่งมองเจ้าตัวเล็กของเขาเท่าไรเขาก็ยิ่งชอบเธอมากขึ้นเท่านั้น

จี้ฉางที่ลอยอยู่ข้าง ๆ จึ๊ปาก “ไอติมอร่อยตรงไหน?”

ซู่เป่าเหลือบมองเขาตาเข “ท่านอาจารย์ ท่านไม่เคยกินไอติมล่ะสิ? ไอติมอร่อยสุด ๆ เลย”

จี้ฉางเม้มริมฝีปากบอกว่า “อร่อยตรงไหน? ก็เค่น้ำแข็งบดไม่ใช่หรือ?”

ไม่เห็นจะอิจฉาเลย

ระหว่างที่คิดเขาก็มองไปที่ไอศครีมในมือของซู่เป่าอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่มู่กุยฝานจ่ายเงินแล้ว เขาก็ยังคงไปนั่งพิงอยู่ข้างสวนดอกไม้เช็นทรัลเหมือนเคย แต่คราวนี้มีผู้ใหญ่หนึ่งกับเด็กสอง

หญิงสาวคนหนึ่งเดินผ่านไปพลางหันกลับมามอง แล้วก็ได้ยินเสียงกระแทกประตูดังปังอีกครั้ง

หานหาน “ฮ่า ๆ ๆ! พี่เขาต้องมองไอติมฉันแน่เลย เขาคงอยากกิน!”

ซู่เป่า “หนูคิดว่าเขาอาจจะมองพ่อหนูก็ได้”

มู่กุยฝาน “หึ... เขามองลูกนั่นแหละ”

คนชอบกินเผือก ‘แล้งน้ำใจ’ สามคน...ไม่สิ คนชอบกินไอติมต่างหาก พวกเขาซุบซิบกันเบา ๆ

เมื่อเห็นว่าพวกเขากินกันอย่างมีความสุข จี้ฉางก็หันกลับไปอย่างเหนื่อยหน่าย นั่งขัดสมาธิอยู่บนที่ขอบปูนที่ปลูกดอกไม้ เปิดตำราของเขาอย่างยอมจำนน

ไอติมอร่อยตรงไหน เขาเปิดตำราของเขาดูดีกว่า!

สองสามวันมานี้เขาเอาแต่เปิดตำราจนกระดาษจะแววหมดอยู่แล้ว แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าซูจิ่นอวี้ไปอยู่ที่ไหน

“หายไปไหนนะ พาซู่เป่าไปหาด้วยก็ยังไม่เจอ ทำไมยากแบบนี้...” จี้ฉางพึมพำอยู่กับตัวเอง

ขณะนี้เอง รสไอศครีมด้านหลังก็แว่วเสียงหญิงสาวคนหนึ่งดังมา “แม่ค้า เอาไอติมอันนึง”

แม่ค้าไอศครีมถามกลับว่า “เอารสอะไรดีคะ?”

ซูเสี่ยวอวี้มองไปที่ไอศครีมรสดั้งเดิม เธอยากกินรสดั้งเดิม...

ซูจิ่นอวี้เกาะอยู่บนร่างของเธอ มองไอศครีมรสโยเกิร์ต สตรอเบอร์รี่และรสมะม่วงตาเป็นประกาย

เธออยากกิน!

ทันทีที่ซูเสี่ยวอวี้เปิดปาก ก็หลุดพูดออกมาว่า “โยเกิร์ตลูกนึง สตรอเบอร์รี่ลูกนึง มะม่วงลูกนึง”

ซูเสี่ยวอวี้อึ้งกิมกี่ ไม่ใช่สิ ที่เธอนึกไว้ในใจคือรสดั่งเดิมนี่นา

ซู่เป่าได้ยินว่ามีคนสั่งไอศครีมรสเดียวกับเธอเป๊ะ เลยหันกลับไปมองทันทีพลางพูดว่า “ว้าว กินเหมือนกันเลย!”

พอหันไปเห็นซู่เป่าก็ร้องเอ๋ขึ้นมา

ด้านหน้ารถไอศครีมมีหญิงสาวสวมเสื้อยืดสีเหลืองกางเกงยีนส์คนหนึ่งยืนอยู่ บนหลังของเธอมีผีเกาะอยู่...

ผีที่ส่องแสงสีทองระยิบระยับ!

ซู่เป่าไม่เคยเห็นผีที่ส่องแสงสีทอง

“ท่านอาจารย์ นั่นผีอะไรคะ ทำไมมีแสงออกมาด้วย...” ซู่เป่าจ้องไปที่ซูจิ่นอวี้ไม่กะพริบตา ในใจรู้สึกอะไรบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก...

ในขณะเดียวกันซูจิ่นอวี้ก็หันหน้ากลับมามองมาที่ซู่เป่า

ซู่เป่าเบิกตากว้างทันที แล้วไอศครีมในมือของเธอก็ตกลงมาดังแผละ!

จี้ฉางก็เงยหน้าขึ้น พอเห็นเข้าก็ลอยขึ้นมาจากขอบปูนที่ปลูกดอกไม้ จ้องตาถลนแทบหลุดลงพื้น

“แม่เจ้า?!”

“แม่เจ้า?!”

จี้ฉางสติหลุด เอาแต่ร้องว่าแม่เจ้า

ผีส่องแสงสีทองตัวนี้จะเป็นใครไปได้นอกจากซูจิ่นอวี้!?

“เจ้า...เจ้าไปสิงร่างคนอื่นได้อย่างไร!”

มันไม่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เอาเลย!

มันเกินไปมาก!

ซูจิ่นอวี้ไม่ใช่ผีร้าย ไม่ใช่ผีตายโหง แล้วจะสิงร่างคนได้อย่างไร?!

เมื่อเห็นแสงสีทองที่ส่องออกมาจากตัวเธอ จี้ฉางก็เข้าใจขึ้นมาทันที

ถ้ามองจากบางมุมนี่ไม่ใช่ผีสิง แต่เป็น... ราชาประทับร่างงั้นหรือ? ?

ซู่เป่าพุ่งเข้าไปกอดขาของซูเสี่ยวอวี้และเงยหน้ามองไปที่ซูจิ่นอวี้ซึ่งเกาะอยู่บนหลังเธอน้ำตาคลอเบ้า

“แม่คะ!”

ซูเสี่ยวอวี้ “???”

เด็กน้อย ถ้าหนูอยากกินไอติมก็บอกกันดี ๆ... ไม่ต้องเรียกแม่ก็ได้!

แต่ซู่เป่าไม่ยอมปล่อยเธอ จ้องไปที่บนหัวเธอแล้วร้องเรียกแม่…

ทันทีที่ซูจินอวี้ได้ยินซู่เป่าร้องเรียกแม่ เธอเองก็ชะงักไปเช่นกัน

เด็กคนนี้... เป็นใครกัน?

ขาว ๆ อ้วน ๆ หน้าอ้วนกลมแบบเด็ก ๆ น่ารักมาก

ตาโต ขนตาม้วนงอ ถักเปียเล็ก ๆ สองข้าง ไรผมบนหน้าผากถูกหนีบด้วยกิ๊บรูปกระต่ายสีขาวอันเล็กเผยให้เห็นหน้าผากกลม ๆ

ชั่วขณะนั้นดูเหมือนมีบางอย่างแวบผ่านไป แต่ในหัวของเธอกลับว่างเปล่า เธอยังจำอะไรไม่ได้เลยเหมือนเดิม!

รู้สึกเพียงว่าเจ็บปลาบในหัวใจ และอยากเข้าไปกอดเด็กตรงหน้าไว้ในอ้อมอก

ซูจิ่นอวี้พยายามออกจากร่างซูเสี่ยวอวี้ แต่เธอก็ยังไม่สามารถหลุดออกมาได้อยู่ดี

ในอีกด้านหนึ่งหานหานอ้าปากกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

มู่กุยฝานดึงสติกลับมาเขาหายตกใจแล้ว เขาเดินก้าวเท้ายาว ๆ เข้าไปแล้วพูดว่า “ขอโทษครับ นี่ลูกสาวของผมเอง...”

เขาก้มมองลงไปที่ซู่เป่าซึ่งแอบอยู่หลังซูเสี่ยวอวี้น้ำตาไหลพราก สายตาของเขาไหววูบแล้วพูดหน้านิ่งว่า “ลูกสาวของผมเพิ่งเสียแม่ไป เธอคงจำผิดน่ะครับ”

ซูเสี่ยวอวี้ร้องอ๋อ ก่อนพูดว่า “อย่างนั้นเหรอคะ...”

พอมองไปที่ซู่เป่าเจ้าตัวเล็กที่กำลังน้ำตานองหน้า หัวใจของซูเสี่ยวอวี้ก็อ่อนยวบ

เธอลังเลแป๊บนึง ก่อนจะยื่นไอศครีมในมือตัวเองให้ซู่เป่า

“เอานี่ไป พี่ให้ ไอติมของหนูตกพื้นหมดแล้ว”

ซู่เป่าขยี้ตาและพูดเสียงสะอื้น “ถ้างั้นพี่ก็ไม่มีแล้วสิ...”

ในขณะที่ซูเสี่ยวอวี้กำลังจะพูด คนขายไอศครีมก็พูดขึ้นด้วยเสียงประหลาดใจ “อ่า คุณเป็นลูกค้าคนที่หนึ่งพันของวันนี้พอดี! รอเดี๋ยวนะคะ เรามีของขวัญมอบให้ค่ะ!”

ซูเสี่ยวอวี้ “...”

คนขายทำไอศครีมที่เหมือนกันอีกถ้วยหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

“ตื๊อดื๊อ ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งค่ะ!” คนขายหน้าตามีความสุข

ซูเสี่ยวอวี้รับมาแล้วกล่าวขอบคุณด้วยใบหน้าตกตะลึง...

ความโชคดีนี่ดูเหมือนจะบังเอิญไปหน่อยนะ...

ตอนนี้ที่ขอบปูนที่ปลูกดอกไม้มีคนสี่คนนั่งอยู่

ซู่เป่า ซูเสี่ยวอวี้ หานหานและมู่กุยฝาน

ซู่เป่าจับมือของซูเสี่ยวอวี้และจ้องไปที่หัวของเธอ อันที่จริงซู่เป่ากำลังมองไปที่ซูจิ่นอวี้

ซูเสี่ยวอวีคลำหน้าผากตัวเองด้วยความแปลกใจแล้วถามว่า “หนูน้อย มีอะไรติดบนหัวพี่หรือเปล่า?”

ซู่เป่าส่ายหัว

ไม่มีอะไรติดหรอก

แต่มีแม่ของเธออยู่!

ซูจิ่นอวี้มองซ้ายทีขวาทีเพื่อยืนยันว่าซู่เป่ากำลังจ้องมองมาที่เธอ และเรียกเธอว่าแม่จริง ๆ

เธอชี้ไปที่ตัวเองและถามว่า “หนูน้อย เธอรู้จักฉันหรือจ๊ะ?”

เจ้าแก้มก้อนแบะปาก “ฮือ ๆ แม่จำซู่เป่าไม่ได้แล้ว!”

จี้ฉางอดไม่ได้ที่กลัดกลุ้ม “นี่...อาจเป็นเพราะจิตวิญญาณกระจัดกระจายเลยทำให้สูญเสียความทรงจำ...”

หลังจากนั้นเขาก็พูดเสริมขึ้นมาอย่างรวดเร็วว่า “แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวถ้าเราหาชิ้นส่วนอื่น ๆ ของวิญญาณแม่เจ้าคืนมาได้ นางก็จะกลับมาจำได้เอง!”

ตอนนี้ซู่เป่าเข้าใจแล้ว มันเป็นแบบนี้เอง

ถ้าหาชิ้นส่วนวิญญาณที่เหลือของแม่กลับมาได้ แม่ก็จะกลับมาจำเธอได้ใช่ไหม?

ซู่เป่าพยักหน้า “อืม! แม่จำซุ่เป่าไปม่ได้ก็ไม่เป็นไร ซู่เป่าจะช่วยให้แม่จำได้เอง... “

ซูเสี่ยวอวี้ “เอ่อ...”

เธอมองไปที่มู่กุยฝานราวจะขอความช่วยเหลือ พี่คะ ดูแลลูกสาวพี่ด้วยค่ะ!

เธอยังคงเป็นสาวโสดอยู่ แล้วก็มีผู้ชายที่ชอบแล้วด้วย เธอยังไม่อยากมีลูกที่โผลมาจากไม่รู้แบบนี้...

มู่กุยฝานเข้าใจว่าเธอคิดอะไรอยู่ เขาหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ตรับ ลูกสาวของผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ถ้าจะขอรบกวนให้คุณส่งเธอกลับบ้านหน่อยได้ไหมครับ?”

เขากลัวว่าหญิงสาวจะเข้าใจผิดเขาจึงเน้นย้ำอีกประโยคหนึ่งทันที “ไม่ต้องห่วง ที่บ้านเธอมีตากับยาย แล้วก็พวกลุง ๆ ของเธออยู่ด้วยหลายคน”

ซูเสี่ยวอวี้อยากปฏิเสธ แต่เห็นสายตาเศร้าสร้อยของซู่เป่าเธอก็เผลอตอบว่า “โอเค...”

“งั้นเราไปกันเถอะ” มู่กุยฝานลุกขึ้นยืน

ตัวเล็กพ่อช่วยลูกได้เท่านี้แหละ

ส่วนเรื่องแม่ที่เธอพูดถึง...

มู่กุยฝานเหลือบมองไปที่เหนือหัวของหญิงสาวแต่ก็ไม่เห็นอะไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน