ซูจิ่นอวี้ลอยออกไปแขวนอยู่บนยอดต้นกุ้ยฮวา
นกตัวเล็กตกใจบินหนีไป แถมยังอึราดอีกด้วย
ซูจิ่นอวี้ “...”
เธอถอนความคิดเมื่อกี้คืน!
นี่ใช่ลูกสาวที่ใส่ใจพ่อแม่ นี่มันไม่ได้ใส่ใจกันเลย... เอ๊ะ? เธอหลุดออกจากร่างซูเสี่ยวอวี้แล้วงั้นหรือ?
ซูจิ่นอวี้ลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอค้นพบว่าก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ออกจากตัวเจ้าของร่างไม่ได้ แต่ตอนนี้เอเป็นอิสระแล้ว
เธอร้องว้าวแล้วลอยไปหาซู่เป่า “ฉันไม่คิดว่าหนูจะเก่งขนาดนี้!”
ซู่เป่าทำหน้าแบบว่า “มันก็แน่นอนอยู่แล้ว”
สองคนที่กำลังมีความสุข ไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีไอหยินกำลังเข้าใกล้...
จี้ฉางขมวดคิ้วและเห็นว่านอกคฤหาสน์ตระกูลซูผีมารวมตัวกันกว่าสิบยี่สิบตัว
ผีเหล่านั้นต่างจ้องมองไปที่ซูจิ่นอวี้ที่ส่องแสงสีทองด้วยแววตาที่เปล่งประกาย
จี้ฉางพูดในใจ มันคงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอกใช่ไหม...
ชิ้นส่วนวิญญาณที่กระจัดกระจายของซูจิ่นอวี้คงไม่ได้จับพลัดจับผลูโดนผีรอบ ๆ “แบ่ง” ไปหมดแล้วหรอกนะ...
ซู่เป่าไม่ได้สังเกตผีที่อยู่ไกล ๆ เธอลากซูจิ่นอวี้และวิ่งถลาไปหานายหญิงซูอย่างรวดเร็ว
“คุณยายพวกเรากลับมาแล้วค่ะ!” เจ้าตัวเล็กโผเข้าไปในอ้อมแขนของนายหญิงซู
พร้อมทั้งลากซูจิ่นอวี้ลอยเข้าไปในอ้อมแขนของนายหญิงซูด้วยกัน...
นายหญิงซูเอื้อมมือไปกอดซู่เป่า ซูจิ่นอวี้เองก็รู้สึกเหมือนถูกกอด
“เด็กดี กลับมาแล้วเหรอลูก!” ความโดดเดี่ยวและกร้านโลกบนใบหน้าของท่านได้หายไปหมดแล้ว ตอนนี้บนหหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มใจดี
ซูจิ่นอวี้ไม่รู้ทำไมจู่ก็แสบจมูกและน้ำตาก็ไหล
“แปลกจัง ฉันร้องไห้ทำไม...” ซูจิ่นอวี้ค่อย ๆ เช็ดน้ำตา ปรากฎว่ามันส่องแสงสีทองกลิ้งไปมา
ในฐานะที่เป็นผีไม่ว่าจะเป็นน้ำตาที่ร้องออกมาหรือเลือดที่ไหลออกมามันก็เป็นไอพิฆาตทั้งนั้น
แต่ซูจิ่นอวี้ไม่ธรรมดา น้ำตาที่เธอหลั่งออกมาไม่ใชไอพิฆาตแต่เป็นไอแห่งโชค
ซู่เป่านึกถึงสิ่งที่อาจารย์พูดขึ้นมาได้ว่าหลังจากหาแม่เจอ ก็จะส่งแม่ของเธอไปเกิด
เธอเศร้าเล็กน้อย แต่เมื่อคิดดูแล้วแม่ของเธอก็เกิดมาพร้อมกับความโชคดี ท่านจะต้องกลายเป็นคนที่โชคดีมากในอนาคต
แล้วก็จะเป็นเด็กที่โชคดีมากเหมือนกัน!
เมื่อคิดเช่นนี้ซู่เป่าก็กลับมามีความสุขอีกครั้งพูดว่า “คุณยายหนูหิวแล้วค่ะ! แม่ก็หิวแล้วเหมือนกัน!”
นายหญิงซูได้ยินเธอพูดถึงแม่ของเธออีกแล้ว ท่านคิดว่าซู่เป่าต้องคิดถึงแม่อีกแล้วแน่ ๆ ท่านจึงแตะศีรษน้อย ๆ ของเธอ
“โอเค งั้นทั้งซู่เป่าทั้งแม่ไปกินข้าวกันเลยดีไหม?”
ซู่เป่าส่งเสียงร้องดีใจคว้ามือซูจิ่นอวี้แล้วออกวิ่ง แต่วิ่งไปไม่ได้สองก้าวก็นึกได้ว่าว่ามีพี่สาวที่เพิ่งสาบานเป็นพี่น้องกันมาด้วยอีกคน จึงหันกลับไปดึงซูเสี่ยวอวี้มาด้วย
ซูเสี่ยวอวี้ไม่คาดคิดว่าบ้านของซู่เป่าจะใหญ่โตและหรูหราขนาดนี้ หรูเหมือนพระราชวังเลย เธอเห็นแล้วก็เอ๋อไปเลย
“นี่ก็ส่งถึงบ้านแล้ว งั้นฉันจะกลับก่อนดีกว่า...” เธอกล่าว
ไม่คิดว่าซู่เป่าจะวิ่งมาดึงเธอแล้ววิ่งลากไป “พี่สาว ไปกินข้าวกัน!”
พี่คนนี้พาแม่กลับมา ข้าวมื้อนี้ยังไงก็ต้องกินให้ได้!
ซูเสี่ยวอวี้พูดเร็วปรื๊อ “ไม่เป็นไร ไปเป็นไรจริงๆ...”
ในขณะเดียวกันก็เห็นเห็นนกแก้วสีเขียวเรืองรองบินออกมาตะโกนพลางกระพือปีก “คนไม่ชอบกินข้าว สมองมีปัญหา! คนชอบกินข้าว ชอบกินข้าวเป็นชีวิตจิตใจ คนชอบกินข้าวเป็นคนที่เก่งกว่าใคร”
ซูเสี่ยวอวี้ “...”
มู่กุยฝานพูดว่า “ไหน ๆ ก็มาแล้ว กินข้าวก่อนสิแล้วเดี๋ยวจะให้พ่อบ้านไปส่ง”
นายหญิงซูมองไปที่มู่กุยฝานด้วยความสงสัยและถามว่า “นี่คือ?”
“คุณยาย” ซู่เป่าพูด “นี่คือพี่สาวที่ช่วยพาแม่ของหนูกลับมา แล้วก็เป็นพี่สาวร่วมสาบานของซู่เป่าด้วย!”
เธอโบกมือให้ซูเสี่ยวอวี้ “พี่คะ เรียกคุณยายสิคะ!”
เมื่อเห็นว่าซูอีเฉินออกมาซู่เป่าก็พูดอีกว่า “นี่คือลุงของหนู พี่เรียกลุงสิคะ!”
ซูเสี่ยวอวี้อ้าปากค้าง
ไม่จำเป็นมั้ง ๆ...
มู่กุยฝานคว้ารถเข็นของนายหญิงซูและเข็นท่านเข้าไปในบ้านพลางเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นให้ฟัง
นายหญิงซูไม่คิดอะไรมาก แต่หัวใจของซูอีเฉินหนักอึ้ง
ซูเสี่ยวอวี้พาอวี้เอ๋อร์กลับมาเหรอ?
งั้น...
ซูอีเฉินมองไปที่บนของหัวของซูเสี่ยวอวี้ไม่พูดไม่จา
ซูเสี่ยวอวี้ยังคงยิ้มไว้อยู่
ทำไมคนบ้านนี้ถึงเอาแต่มองหัวของเธอนะ?
เสี่ยวซู่เป่าน่ารักขนาดนี้ คนในครอบครัวของเธอคงไม่ได้เป็นคนบ้าวิปริตที่คิดจะตัดหัวของเธอหรอกใช่ไหม?
บ้านหลังนี้หรูหรามากเหมือนพระราชวังในยุโรปกลาง... หรือว่าจะเป็นแวมไพร์?
เมื่อคิดเช่นนี้ซูเสี่ยวอวี้ก็ยิ่งกระสับกระส่ายมากขึ้นกว่าเดิม เธอเกาะอยู่ตรงหน้าประตู ไม่ยอมเข้าบ้าน เธอพูดอย่างตื่นตระหนกว่า “ฉันเพิ่งนึกได้ว่าศาสตราจารย์ให้การบ้านแล้วฉันยังทำไม่เสร็จฉันจะกลับบ้านไปทำการบ้าน!”
เธอตบกระเป๋าสพายข้างของเธอเพื่อบอกว่าเธอมีการบ้านจริง ๆ
ซู่เป่ายังคงดึงเธออยู่ แล้วก็แรงเยอะซะด้วย “พี่คะ ไม่ต้องรีบ การบ้านทำที่นี่ก็ได้!”
เสียงของเจ้าตัวเล็กน่ารักบ๊องแบ๊ว เสียงที่เรียกพี่คะทั้งแบ๊วทั้งน่ารัก
ซูเสี่ยวอวี้มองไปที่ซู่เป่าแล้วลังเล หรือว่าเธอจะคิดมากไปเองหรือเปล่า...
แต่ปรากฏว่าซูอิ๋งเอ่อร์ที่หน้าดำคล้ำ ทั้งยังดูอำมะหิตเดินออกมาจากข้างในพอดี
ซูเสี่ยวอวี้ “ไม่เป็นไร ๆ ฉันเพิ่งนึกได้ว่าการบ้านของฉันเหมือนจะอยู่ที่บ้าน...”
ซู่เป่ามองไปที่กระเป๋าของเธออย่างสับสน พี่เขาไม่ได้บอกว่าการบ้านอยู่ในกระเป๋าหรอกเหรอ?
ซูอีเฉินหยิบนามบัตรออกมาและยื่นให้เธอ
“ฉันคือซูอีเฉินจากซูชื่อกรุ๊ป เธอไม่ต้องห่วง... ครอบครัวของเราจะไม่เอาเธอไปขายหรอก”
ซูเสี่ยวอวี้โดนรู้ทัน เธอมองดูนามบัตร ซูอีเฉินประธานซูชื่อกรุ๊ป...
เธอตกใจไม่คิดว่าจะเป็นประธานซูได้!
ปีนี้เธออยู่ปีสามแล้ว และกำลังจะเริ่มฝึกงานพอดี เพื่อนร่วมชั้นของเธอก็กำลังพูดคุยเกี่ยวกับโอกาสเจริญเติบโตของบริษัทต่างๆ
และบริษัทซูชื่อกรุ๊ปก็เป็นบริษัทที่ทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็เข้ายากมาก ๆ ด้วย
เมื่อวานนี้เธอยังพูดกับคนที่เธอแอบชอบว่า “ถ้าฉันสามารถฝึกงานที่ซูชื่อได้ก็คงดี”
ไม่คิดว่าวันนี้จะได้พบประธานซูแห่งซูชื่อ??
ซูเสี่ยวอวี้ตกตะลึง
เธอกล่าวขอโทษอึกอัก “ขะ... ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...”
และจังหวะที่ล่าช้าอยู่นี้ ผีทั้งหมดที่อยู่นอกคฤหาสน์ก็พากันล้อมเข้ามา และต่างจ้องมองไปที่ซูจิ่นอวี้
ซู่เป่าตกตะลึงและมองไปที่จี้ฉาง แต่เห็นว่าจี้ฉางทำท่าว่า “จุ๊ ๆ”
เธอเลยแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นและดึงซูเสี่ยวอวี้เข้าบ้านไป
**
ในห้องทานอาหาร
ซูเหอเหวินจับตะเกียบอย่างสง่างามและกินช้า ๆ
ถัดจากเขาไปคือซูจื่อซีที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่พูดไม่จา
ซูเหอเวิ่นนั่งอยู่ตรงข้ามกับซูเหอเหวิน แต่เขากินอาหารอย่างรวดเร็วเคี้ยวแก้มตุ่ย
เมื่อเขาได้ยินเสียงนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองและร้องด้วยความดีใจ “น้องกลับมาแล้ว!”
แต่ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นพี่สาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา ด้านหลังของเธอมีผีเดินตามมาเป็นขโยง
ผีบางตัวตาปลิ้นห้อยออกมาอยู่ใต้ขอบตา บางตัวปากแหว่งหายไปเผยให้เห็นเหงือกที่เน่าเปื่อย
บางตัวเอามือกุมท้องที่เปิดออกและมีผีทารกอยู่ในนั้นด้วย
บางตัวเป็นหญิงชราสวมชุดทำพิธีศพสีม่วง ยืนค้ำไม้เท้าอยู่ พอเห็นซูเหอเวิ่นมองมาก็ยิ้มให้เขา...
ผีหลั่งไหลเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนพวกมันจะรู้สึกถึงสายตาของซูเหอเวิ่นที่มองมา ทุกตัวขยิบตาแข็งทื่อ มองไปที่ซูเหอเวิ่นช้า ๆ...
ซูเหอเวิ่นสำลักพ่นอาหารในปากออกมาดังพรวด
ซูเหอเหวินกับซูจื่อซีที่นั่งตรงข้ามโดนพ่นเข้าไปเต็ม ๆ บนหน้ามีเศษอาหารเต็มไปหมด...
“…”
มันขนาดนั้นเลยเหรอ จะตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น!
ไม่ใช่แค่น้องกลับมาแล้วหรือไง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
สนุกค่ะ รออัพตอนใหม่อยู่นะคะ...
สนุกค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ...
ยังมีใครอ่านอยู่ไหมค่ะเนี่ย ไม่รู้ตัวเอกเป็นยมบาลหรืออันธพาล ใครอ่านอยู่มาคุยกันค่ะ...
เสียดายเวลาที่อ่านมานานก็เลยพยายามอดทนอ่านต่อไปเรื่อยถ้าเนื้อเรื่องยังเป็นแบบนี้สักวันคงเลิกอ่านจริงๆอ่ะ...
อ้าว...ยัยแก่ มหาภัย ยังไงกันหะ อยู่ไปจะมาทำร้าย คุณพี่ชายซูจื่อซี ได้ไง...แกต้องโดนท่านยมบาลน้อย ชำระความ....
ชื่อเรื่อง "ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน" ไอ้เราก็นึกว่า ชีวิตใหม่ที่ว่าคือชีวิตที่ได้เจอคนรอบครัว มีตายายและลุงๆที่รักยัยหนู...แค่นั้น ที่ไหนได้ ที่แท้ชีวิตใหม่คือเป็นมือจับผีตัวน้อย...
🧐รอๆๆๆ...
เป้ยเฉินอวี่ เธอชอบ ซูอีเฉินของฉันไม่ได้!.... รออัพเดตนะค่ะ กำลังสนุก pleaseee...
มีผีร้ายเพิ่มอีกตัว.... ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...
เย้ๆ ท่านหญิงซูเดินได้แล้ว ลุ้นๆแม่ของซูเป่าจะจำอดีตได้มั๊ยน๊า ขอบคุณมากค่ะแอดมิน...